xs
xsm
sm
md
lg

วรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาว ประเดิมแชมป์ผลตอบแทนสูงสุดเดือนม.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เปิดตลาดหุ้นเดือนแรกของปี 2551 แบบไม่ค่อยจะสดใสนัก เมื่อต้องเจอกับสารพัดปัจจัยที่เข้ามากดดันดัชนี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องวิกฤตสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) หรือ ความไม่แน่ชัดจากการเมืองภายในประเทศ แม้ว่าในช่วงปลายเดือนปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร (สส.) เสร็จสิ้นจะเข้ามาดันดัชนีให้ปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ดัชนีปิดในเดือนมกราคมปรับตัวเพิ่มตัวจากดัชนีเปิดปีที่ 858.10 จุด จนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีให้ผลตอบแทน -8.61%

ภาวะการทรงและทรุดของดัชนีอย่างต่อเนื่องนี้เอง นอกจากจะทำให้นักลงทุนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ขาดทุนกันเป็นทิวแถวแล้ว อีกส่วนที่ได้รับผลกระทบที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ กองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารทุน และ กองทุนหุ้นระยะยาว เพราะภาวะดังกล่าวทำให้กองทุนส่วนใหญ่ของทุกบลจ.ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีติดลบกันเกือบทุกกองทุน วันนี้ "Best of fund" จึงขออินไซด์ 10 อันดับกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด ณ วันที่ 31 มกราคม 2551 ซึ่งรายงานโดย LIPPER เพื่อให้นักลงทุนได้ทราบกันว่า ท่ามกลางสภาวะตลาดหุ้นขาลงมีกองทุนใดบ้างที่สามารถพยุงผลตอบแทนให้ไม่ปรับตัวลดลงตามตลาดฯมากนัก

โดยกองทุนหุ้นระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีสูงสุด คือ กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาว ของ บลจ.วรรณ ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นระยะยาวเพียงกองทุนเดียวที่สามารถให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปีเป็นบวกได้ โดย ณ วันที่ 31 มกราคม 2551 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 26.88 ล้านบาท และให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี 0.81% , ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 1.54% และให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 1.42%

อันดับที่ 2 ได้แก่กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวสมาร์ท กองทุนภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.ไทยพาณิชย์ มีขนาดกองทุน 841.68 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -1.19% , ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -3.61% และผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน -2.51%

อันดับที่ 3 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต ของบลจ.ไทยพาณิชย์ ณ วันที่ 31 มกราคม 2551 กองทุนมีขนาดโครงการ 126.03 ล้านบาท ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -2.60% , ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -8.03% , ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 5.50%

ขณะที่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์ อีกหนึ่งกองทุนของบลจ.ไทยพาณิชย์ ก็ยังรั่งตำแหน่งกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับที่ 4 โดย ณ วันที่ 31 มกราคม 2551 กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 288.27 ล้านบาท โดยให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -3.21% , ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -7.52% และให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 6.19%

อันดับที่ 5 ได้แก่ กองทุนเปิดหุ้นระยะยาวอยุธยาปันผล 70/30 ของบลจ.อยุธยา มีขนาดกองทุน 330.45 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -3.81% , ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -5.18% และผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน -2.17%

ส่วนอันดับที่ 6 คือ กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว 70/30 ภายใต้ในสังกัดของ บลจ.กรุงไทย กองทุนมีขนาดโครงการ 65.81 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -4.06% , ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -9.26% และให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 2.55%

อันดับที่ 7 กองทุนเปิดแมกซ์ปันผล หุ้นระยะยาว ของบลจ.นครหลวงไทย มีขนาดกองทุน 388.08 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -4.67% , ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -8.63% , ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน -3.30% , ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 11.77% และผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี 17.44%

ด้านอันดับที่ 8 กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 ของบลจ.ไทยพาณิชย์ ณ วันที่ 31 มกราคม 2551 กองทุนมีขนาดโครงการ 9,239.82 ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -4.93% , ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -9.26% , ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน -1.95% , ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 21.12% และให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี 29.06%

ขณะเดียวกัน กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว ของบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) อยู่อันดับที่ 9 ของการจัดอันดับครั้งนี้ โดยกองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 73.46 มีผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -5.70% , ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -10.80% และผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน -3.36%

อันดับสุดท้าย กองทุนเปิดทิสโก้ หุ้นระยะยาวปันผล กองทุนภายใต้การบริหารจัดการของบลจ. ทิสโก้ ซึ่ง ณ วันที่ 31 มกราคม 2551 กองทุนมีขนาดโครงการ 83.53ล้านบาท ให้ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี -5.79% , ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน -11.73% , ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน -5.44%

"1SMART-LTF" หนึ่งเดียวที่ยิวด์ต้นปีเป็นบวก
ผู้จัดการกองทุน บลจ.วรรณ เปิดเผยถึงสาเหตุที่กองทุนเปิดวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาว (1SMART-LTF) สามารถให้ผลตอบแทนได้ในระดับที่ดี แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจะมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ว่า สำหรับกองทุนวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาวนั้น มีการแบ่งสัดส่วน 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เข้าไปลงทุนใน SET 50 พร้อมทั้งทำการเฮดจ์ด้วยการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ ซึ่งก็คือ SET 50 ฟิวเจอร์ และแบ่งสัดส่วนประมาณ 28.5% ออกไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งการที่กองทุนวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาวมีการเฮดจ์เต็มจำนวนไว้ด้วยการลงทุนใน SET 50 ฟิวเจอร์นี้เอง ทำให้ผลตอบแทนของกองทุนไม่ปรับตัวลดลงตามสภาพตลาดในช่วงที่ผ่านมา

"กองทุนนี้ออกมาโดยมีวัตถุประสงค์จะลดความผันผวนในการลงทุนในกองทุนหุ้น เพื่อผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) แต่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงแบบการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์" ผู้จัดการกองทุน กล่าว

ทั้งนี้รายชื่อหุ้นที่กองทุนวรรณเอเอ็มสมาร์ทหุ้นระยะยาว (1SMART-LTF) มีการลงทุนสูงสุด ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 ปรากฎดังต่อไปนี้ 1.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ลงทุนในสัดส่วน 9.98% , 2. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ลงทุนในสัดส่วน 5.05% , 3. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิช จำกัด (มหาชน) ลงทุนในสัดส่วน 2.69% , 4.บริษัท ปูนซีเมนตร์ไทย จำกัด (มหาชน) ลงทุนในสัดส่วน 2.59% , 5.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ลงทุนในสัดส่วน 2.09%, 6.ธนาคารกสิกรไทยจำกัด (มหาชน) ลงทุนในสัดส่วน 1.94%

นอกจากนี้ 7.บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ลงทุนในสัดส่วน 1.72% , 8.บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ลงทุนในสัดส่วน 1.66% , 9.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ลงทุนในสัดส่วน 1.53% และ10.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ลงทุนในสัดส่วน 1.41%
กำลังโหลดความคิดเห็น