การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลนับว่าเป็นทางเลือกในการลงทุนค่อนข้างปลอดภัยไม่น้อย แต่ด้วยสาเหตุที่พันธบัตรรัฐบาลในประเทศค่อนข้างมีจำกัด และผลตอบแทนน้อยกว่า ทำให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จึงหันไปออกกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) ที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในต่างประเทศแทน ซึ่งนอกจากจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าแล้ว ยังมีอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ที่สูงกว่าอีกด้วย
หลังจากประสบความสำเร็จได้การตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีจากการเปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรสหราชอาณาจักร กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์ทั้ง 3 กองทุน และกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตร ออสเตรเลียกองแรก ล่าสุด บลจ.ทิสโก้ ก็เดินหน้าส่ง “กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย” อีก 1 กองทุน ส่วนรายละเอียดของการลงทุนจะเป็นอย่างไรนั้น "MutualFund IPO" มีคำตอบมาให้แล้ว
ธีรินทร์ สุวรรณเตมีย์ หัวหน้าการตลาดธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปว่า บริษัทจะมีการเสนอขายกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย 2 ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของออสเตรเลีย มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ระยะเวลาลงทุนประมาณ 1 ปี 7 เดือน 15 วัน โดยจะทำการเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) และครั้งเดียวในวันที่ 14-20 กุมภาพันธ์นี้ และมีเงินลงทุนขั้นต่ำอยู่ที่ 20,000 บาท
สำหรับกองทุนเปิดทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย 2 มีนโยบายลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียรุ่น 7 1/2 09/09ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลไทย และ/หรือเงินฝาก โดยกองทุนนี้จะไม่ทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเปิดช่องให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากว่า จากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน โดยคาดว่าผลตอบแทนที่นักลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี
สาเหตุที่เลือกลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของออสเตรเลีย เนื่องจากเป็นประเทศที่ให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสูง และเป็นประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงถึงคือ AAA จึงทำให้การลงทุนในพันธบัตรของออสเตรเลียมีความเสี่ยงต่ำ โดยแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียคงไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด เหมือนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในภูมิภาคยุโรป เนื่องจากภาวะอัตราดอกเบี้ยเองจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละส่วนที่มีความแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียกลับมีการปรับขึ้นไปอีกเล็กน้อยด้วยซ้ำ
"ธีรินทร์" บอกว่า นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนกับบริษัทในกองทุนประเภทนี้มักจะมีความเข้าใจในเรื่องของความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว เนื่องจากบริษัทจะประกาศให้รับทราบทั้งจากในสื่อโฆษณาต่างๆ และจากหนังสือชี้ชวน รวมถึงการให้ข้อมูลอย่างละเอียดในเรื่องนี้ เมื่อมีนักลงทุนสนใจสอบถามเข้ามาโดยผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในกองทุนที่มีการเปิดความเสี่ยงไว้จะขึ้นอยู่กับแนวโน้มค่าเงินที่ไปลงทุน และบริษัทได้บอกอย่างละเอียดแล้วว่าจะทำการลงทุนในรูปสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ไม่ใช่เงินบาท
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย กองแรกได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 มีสูงถึงประมาณ 1,201 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการเต็ม 1,500 ล้านบาท โดยเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียไม่น้อยกว่าร้อยละ95 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน แต่จะไม่มีการซื้อสัญญาฟอร์เวิร์ดเพื่อป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน (FX Risk) ทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่า เนื่องจากเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินบาทต่อเงินสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียจะไม่ผันผวนมากนัก โดยคาดหวังผลตอบแทนไว้ที่ประมาณ 5.9% ต่อปี
โดยกองทุนเปิดของ บลจ.ทิสโก้ที่มีการลงทุนพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศอื่นๆ มีดังนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรสหราชอาณาจักร ที่มีอายุโครงการประมาณ 1 ปี 4 เดือน ซึ่งจะเน้นลงทุนในพันธบัตรของประเทศสหราชอาณาจักร ตราสารภาครัฐต่างประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลืออาจลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และเงินฝาก เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและสำรองเป็นค่าใช้จ่ายของกองทุน ส่วนพันธบัตรรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่คาดว่าจะลงทุน คือ พันธบัตรรัฐบาลสหราชอาณาจักร รุ่น 4 03/09 (ครบอายุเดือนมีนาคม 2552) ที่สัดส่วนการลงทุนไม่น้อยกว่า 95% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยคาดหวังผลตอบแทนที่จะได้จากการลงทุนที่ 4.5% ต่อปีหลังจากหักค่าใช้จ่ายของกองทุน และมีนักลงทุนเข้ามาซื้อหน่วยลงทุนถึง 421 ล้านบาท
ขณะที่กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์ 1 อายุโครงการประมาณ 1 ปี 6 เดือน 15 วัน มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยจะนำเงินไปลงทุนในพันธบัตรของประเทศนิวซีแลนด์รุ่น 7 07/09โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือกองทุนอาจลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารการเงินต่างประเทศอื่นๆ ตลอดจนหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาผลตอบแทนโดยวิธีอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ตามที่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีความเห็นชอบ นอกจากนี้ กองทุนนี้อาจมีการทำสัญญาการซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ (hedging) แต่จะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะการซื้อขายล่วงหน้าแฝง ทั้งนี้ คาดว่าจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 6.2% ต่อปี หลังจากหักค่าใช้จ่ายของกองทุน และปรากฏว่ากองทุนดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยสามารถขายหมดเต็มมูลค่าโครงการภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน
นอกจากนี้ ยังได้ทำการเปิดขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์ 2 และกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์ 3 ออกมาอีกเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน หลังจากกองทุนนิวซีแลนด์ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากลูกค้ามีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อเทียบกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย ในขณะที่ระยะเวลาการลงทุนก็ไม่นานจนเกินไป โดยจะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศนิวซีแลนด์เช่นเดียวกับกองแรก แต่จะมีระยะเวลาการลงทุนที่สั้นลงกว่าเดิมเล็กน้อย คือจาก 1 ปี 6 เดือน 15 วัน ลดลงเหลือ 1 ปี 5 เดือน 15 วัน ขณะที่ผลตอบแทนที่คาดการณ์ไว้ที่ 6.0%
สำหรับกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย 2 จะทำการเสนอขายเพียงครั้งเดียวในวันที่ 14-20 กุมภาพันธ์นี้ และมีเงินลงทุนขั้นต่ำอยู่ที่ 20,000 บาท ผู้สนใจลงทุนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ. ทิสโก้ โทร. 02 633 7351-57 หรือหน่วยลูกค้าสัมพันธ์กองทุนรวม โทร. 02 633 7777 หรือ www.tiscoasset.com