หลังจากส่งกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย และกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรอังกฤษ ลุยตลาดกองทุนรวมไปเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา และค่อนข้างประสบความสำเร็จด้วยการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด ก็เดินหน้าส่ง“กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์”ประเดิมตลาดกองทุนรวมปีหนูทันที ซึ่งกองทุนนี้ มีลักษณะการลงทุนเช่นเดียวกับ 2 กองทุนที่เปิดขายไปก่อนหน้านี้ ส่วนรายละเอียดของการลงทุนจะเป็นอย่างไรนั้น "MutualFund IPO" มีคำตอบมาให้
ธีรนาถ รุจิเมธาภาส รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เล่าให้ฟังว่า สำหรับกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์ มีนโยบายการลงทุนเข้าใจง่ายๆ และชัดเจนตรงตามชื่อ คือ ออกไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศนิวซีแลนด์ที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ระดับ AAA ซึ่งถือเป็นอันดับเครดิตที่สูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลไทย
"จุดเด่นของกองทุนนี้ คือเป็นกองทุนที่ลงทุนเพียง 1 ปี 6 เดือนกับ 15 วัน โดยคาดการณ์ผลตอบแทนสูงถึง 6.2% ต่อปี ซึ่งเป็นผลตอบแทนสุทธิของตราสารที่เราไปลงทุน โดยพันธบัตรรัฐบาลนิวซีแลนด์ที่กองทุนออกไปลงทุนนั้น ก็เป็นตราสารที่มีเรตติ้งสูงระดับ AAA ซึ่งถือว่าเป็นอันดับเครดิตที่สูงมาก"
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของความเสี่ยง กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์ มีความเสี่ยงเดียว คือ ความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากกองทุนดังกล่าวไม่ได้ป้องกันความเสี่ยง (เฮจด์) จากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเอาไว้ ทั้งนี้ หากไม่เอาความเสี่ยงค่าเงินมาคำนวน ผลตอบแทนของกองทุนนี้จะอยู่ประมาณ 7%
“จากการพิจารณาอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลนิวซีแลนด์ที่คาดว่าจะเข้าไปลงทุน ซึ่งได้แก่พันธบัตรรัฐบาลนิวซีแลนด์ รุ่น 7 07/09 ที่มีกำหนดครบอายุในเดือนกรกฎาคม 2009 นั้น คาดว่าจะให้ผลตอบแทนประมาณ 7.4% ต่อปี ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และ/หรือเงินฝาก ผลตอบแทนประมาณ 3.5% ต่อปี และเมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายของกองทุนประมาณ 0.9% ต่อปี จึงคาดว่ากองทุนนี้น่าจะได้รับผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 6.2% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงและน่าสนใจมาก เมื่อเทียบกับผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลไทยที่อยู่ที่ 4.06% ต่อปี”
ธีรนาถ บอกว่า หากพิจารณาค่าเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์เทียบกับค่าเงินบาทแล้วมีโอกาสแข็งค่าขึ้น ขณะเดียวกันค่าเงินนิวซีแลนด์เอง มีความผันผวนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอกลาร์สหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ค่าเงินนิวซีแลนด์เคยแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท โดยเคยอยู่ที่ระดับ 29 บาทต่อนิวซีแลนด์ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนลงมาอยู่ที่ 26 บาทต่อนิวซีแลนด์ดอลลาร์ในปัจจุบัน แต่ก่อนหน้านี้เองก็เคยอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทลงไปอยู่ที่ 23 บาทต่อนิวซีแลนด์ดอลลาร์มาแล้ว ซึ่งแนวโน้มการแข็งค่าขึ้นนี้เองถือเป็นโอกาสของกองทุนที่จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น โดยกองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีมุมมองว่าค่าเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นในอนาคต และไม่ผันผวนรุนแรง ที่สำคัญต้องรับความเสี่ยงค่าเงินส่วนนี้ได้ด้วย
"เราคาดว่ากองทุนนี้น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเช่นเดียวกับ 2 กองทุนที่เปิดขายไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยกองทุนเองก็เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตสูงและยังให้ผลตอบแทนในระดับที่สูงอีกด้วย ซึ่งเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์เองก็เติบโตในระดับที่ดี อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งปัจจัยนี้เองทำให้ค่าเงินมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้"
ธีรนาถ บอกว่า หลักเกณฑ์ในการเลือกลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศ จะพิจารณาดูจากเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ เป็นหลัก โดยจะต้องมีอัตราการเติบโตที่ดี เพราะจะเป็นปัจจัยที่สะท้อนค่าเงินของประเทศนั้นๆ ได้ว่าจะอ่อนหรือแข็ง นอกจากนี้ ยังพิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานของประเทศนั้นด้วย เพราะสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจของประเทศนั้นจะดีหรือไม่อย่างไร และที่สำคัญ การลงทุนนั้นต้องให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในประเทศหรือสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลไทย ซึ่งจำนวนกองทุนที่เปิดขายทั้งหมด 3 กองทุน ล้วนแล้วแต่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าและอันดับเครดิตดีกว่าพันธบัตรรัฐบาลไทยด้วย
สำหรับกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรนิวซีแลนด์ จะได้รับผลตอบแทนเป็นสกุลเงินนิวซีแลนด์ดอลล่าร์ และสัดส่วนการลงทุนและอัตราผลตอบแทนอาจเปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับผลการประมูลของตราสาร ณ วันที่ลงทุนและการเปลี่ยนแปลงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยจะเสนอขายครั้งเดียวในระหว่างวันที่ 7-18 ม.ค. 51 นี้ และเงินลงทุนขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 20,000 บาท ผู้สนใจลงทุนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บลจ. ทิสโก้ โทร. 02 633 7351-57 หรือหน่วยลูกค้าสัมพันธ์กองทุนรวม โทร. 02 633 7777 หรือ www.tiscoasset.com