กองทุนไม่ฟันธงเงินฝากจะไหลเข้ากองทุนรวม หลังพ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝากคลอด เหตุต้องรอประเมินพฤติกรรมนักลงทุนและปฏิกิริยาของธนาคารพาณิชย์ก่อน ระบุหากแบงก์ออกโพรดักซ์ใหม่ แถมให้ผลตอบแทนสูงกว่าก็ไม่แน่ ย้ำยังไงเงินฝากก็ยังเป็นโครงสร้างหลักของระบบการเงินอยู่ ค่าย "กสิกรไทย" เตรียมแผนดึงเงินลูกค้ากระเป๋าหนัก ชูความหลากหลายและผลตอบแทนล่อใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝาก ผ่านความเห็นชอบจากทั้งคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ธุรกิจกองทุนรวม ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับอานิสงส์ภายหลังจากกฏหมายดังกล่าวมีผล ตื่นตัวกันมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่ากองทุนรวมเป็นการลงทุนที่คล้ายเงินฝากมากที่สุด และแม้ว่าความเสี่ยงและผลตอบแทนจะอยู่ในระดับที่ไม่ต่างกันมาก แต่กองทุนรวมก็ยังถือใผ่เหนือกว่า โดยเฉพาะสิทธิยกเว้นภาษีที่ไม่ต้องจ่ายเหมือนเงินฝาก ซึ่งปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้บริษัทจัดการกองทุนต่างเร่งวางแผนรองรับแนวโน้มการขยายตัวดังกล่าว
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าหลังออกพ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝากมาแล้ว กองทุนรวมจะโตขึ้นอย่างที่หลายฝ่ายมองไว้หรือไม่ เพราะต้องรอดูพฤติกรรมของผู้ฝากเงินว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ขณะเดียวกันต้องดูธนาคารพาณิชย์ด้วยว่า หลังจากนั้นแล้วจะมีผลิตภัณฑ์ทางเงินฝากอะไรออกมาบ้าง เพราะแน่นอนว่าธนาคารเองคงต้องหาสินค้าออกมาเพื่อรักษาเงินฝากเอาไว้เช่นกัน ซึ่งหากให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกันหรือสูงกว่าก็ไม่แน่ว่ากองทุนจะโตขึ้นได้มากนัก
"ในทางทฤษฎีแล้ว เงินฝากส่วนหนึ่งอาจจะไหลเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมบ้าง แต่ในทางปฏิบัติคงต้องดูปฏิกิริยาของผู้ฝากเงินเอง รวมถึงธนาคารพาณิชย์ด้วยว่า จะต้องการเงินไว้แค่ไหน"นายบุญชัยกล่าว
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยถือเป็นตัวแปรที่สำคัญอีกอย่าง เพราะอัตราดอกเบี้ยสะท้อนการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศได้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหากเศรษฐกิจของประเทศขยายตัวดีขึ้น ความต้องการใช้สินเชื่อก็เพิ่มขึ้น ประเด็นนี้ธนาคารอาจจะขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้น หรือออกโพรดักซ์เพื่อรักษาเงินฝากหรือดึงเงินฝากเข้ามาก็ได้
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกองทุนรวมมองว่ายังเป็นการลงทุนที่ได้เปรียบอยู่ เพราะเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งหากกองทุนรวมเองให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้ฝากเงินจะโยกเงินเข้ามาลงทุนมากขึ้น เพราะโดยธรรมชาติของนักลงทุนแล้ว ต้องผลตอบแทนสูงจากการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่เท่ากันเสมอ โดยในช่วงที่ผ่านมา ผู้ฝากเงินเองก็ให้ความสนใจลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้เพราะให้ผลตอบแทนสูงกว่า ส่วนกองทุนหุ้น หากจะให้น่าสนใจคงต้องบริหารจัดการให้ผลตอบแทนได้ในระดับสูง ขณะเดียวกัน การลงทุนดังกล่าวต้องผ่านการพิจารณาความความเสี่ยงอย่างถี่ถ้วน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ในส่วนของบลจ.บัวหลวง ยังไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมอะไรเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าในที่สุดแล้วอุตสาหกรรมกองทุนรวมกจะเบียดแทรกเงินฝากได้เองตามธรรมชาติ เนื่องจากกองทุนรวมจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ออกมาจูงใจนักลงทุนได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเงินฝากก็จะยังเป็นโครงสร้างหลักทางการเงินในระบบอยู่ ดังนั้นบริษัทจึงไม่คิดว่าจะเห็นนักลงทุนย้ายเงินจากเงินฝากเพียงเพราะว่าเกิด พรบ. นี้ขึ้นมา ซึ่งถ้านักลงทุนจะย้ายมาลงทุนที่กองทุนก็ต่อเมื่อนักลงทุนเชื่อว่ากองทุนรวมจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากเงินในระดับความเสี่ยงที่เท่าๆ กันมากกว่า ซึ่งนั่นก็คือกองทุนตราสารหนี้ที่จะเป็นโครงสร้างหลักของอุตสาหกรรม โดยจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้ กองทุนรวมมีสัดส่วนที่สูงมากถึง 58% แล้ว
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้นั้น บริษัทมีแผนที่จะขยายกองทุนรวมพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) กองทุนรวมต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) และกองทุนตราสารหนี้ โดยเฉพาะกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ กองทุนรวมบัวหลวงธนสาร และกองทุนบัวหลวงธนสารพลัส ที่จะทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนมากขึ้น เนื่องจากกองทุนดังกล่าวสามารถทำการเปิดให้ทำการซื้อขายได้ทุกวัน อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการออมทรัพย์ และการฝากประจำ
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทเตรียมแผนที่จะเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานเพื่อสร้างความเข้าใจในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำความเข้าใจดังกล่าวไปนำเสนอให้กับนักลงทุนได้อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น แต่เรื่องดังกล่าวยังคงต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น บริษัทจึงจะนำโมเดลเพื่อมาแนะนำการลงทุนให้กับนักลงทุน ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเข้าใจการจัดสรรเงินลงทุนอย่างมีเป้าหมายของผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถทำให้ขยายกองทุนอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ บริษัทจะมีการพัฒนาระบบต่าง ๆ อีกมากให้ทัดเทียมบลจ. อื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกในการใช้บริการจาก บลจ. บัวหลวง ผ่านช่องทางต่างๆ ปีนี้บริษัทจะเน้นในเรื่องดังกล่าวเป็นพิเศษ
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับบลจ.กสิกรไทย คงจะเน้นสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนมากขึ้น ขณะเดียวกัน ต้องทำให้ผลตอบแทนของกองทุนออกมาโดดเด่นควบคู่กันไปด้วย เพราะทั้ง 2 ปัจจัย เป็นสิ่งที่เราประเมินแล้วว่านักลงทุนต้องการ ซึ่งในจุดนี้เราเองจะต้องทำให้เราทำได้ดีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำอีกอย่างคือ ขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าและให้การบริการที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังเป็นปัญหาหรืออุปสรรคต่อการดำเนินงาน เราก็ต้องเดินหน้าพัฒนาต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องของสาขาธนาคารที่เป็นช่องทางจำหน่ายหน่วยลงทุนของเรา ซึ่งต้องเร่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมกับเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติม เพื่อรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาลงทุนกับเรา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝาก ผ่านความเห็นชอบจากทั้งคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ธุรกิจกองทุนรวม ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับอานิสงส์ภายหลังจากกฏหมายดังกล่าวมีผล ตื่นตัวกันมากขึ้น เพราะต้องยอมรับว่ากองทุนรวมเป็นการลงทุนที่คล้ายเงินฝากมากที่สุด และแม้ว่าความเสี่ยงและผลตอบแทนจะอยู่ในระดับที่ไม่ต่างกันมาก แต่กองทุนรวมก็ยังถือใผ่เหนือกว่า โดยเฉพาะสิทธิยกเว้นภาษีที่ไม่ต้องจ่ายเหมือนเงินฝาก ซึ่งปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้บริษัทจัดการกองทุนต่างเร่งวางแผนรองรับแนวโน้มการขยายตัวดังกล่าว
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าหลังออกพ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝากมาแล้ว กองทุนรวมจะโตขึ้นอย่างที่หลายฝ่ายมองไว้หรือไม่ เพราะต้องรอดูพฤติกรรมของผู้ฝากเงินว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ขณะเดียวกันต้องดูธนาคารพาณิชย์ด้วยว่า หลังจากนั้นแล้วจะมีผลิตภัณฑ์ทางเงินฝากอะไรออกมาบ้าง เพราะแน่นอนว่าธนาคารเองคงต้องหาสินค้าออกมาเพื่อรักษาเงินฝากเอาไว้เช่นกัน ซึ่งหากให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกันหรือสูงกว่าก็ไม่แน่ว่ากองทุนจะโตขึ้นได้มากนัก
"ในทางทฤษฎีแล้ว เงินฝากส่วนหนึ่งอาจจะไหลเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมบ้าง แต่ในทางปฏิบัติคงต้องดูปฏิกิริยาของผู้ฝากเงินเอง รวมถึงธนาคารพาณิชย์ด้วยว่า จะต้องการเงินไว้แค่ไหน"นายบุญชัยกล่าว
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยถือเป็นตัวแปรที่สำคัญอีกอย่าง เพราะอัตราดอกเบี้ยสะท้อนการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศได้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหากเศรษฐกิจของประเทศขยายตัวดีขึ้น ความต้องการใช้สินเชื่อก็เพิ่มขึ้น ประเด็นนี้ธนาคารอาจจะขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้น หรือออกโพรดักซ์เพื่อรักษาเงินฝากหรือดึงเงินฝากเข้ามาก็ได้
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของกองทุนรวมมองว่ายังเป็นการลงทุนที่ได้เปรียบอยู่ เพราะเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งหากกองทุนรวมเองให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้ฝากเงินจะโยกเงินเข้ามาลงทุนมากขึ้น เพราะโดยธรรมชาติของนักลงทุนแล้ว ต้องผลตอบแทนสูงจากการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่เท่ากันเสมอ โดยในช่วงที่ผ่านมา ผู้ฝากเงินเองก็ให้ความสนใจลงทุนในกองทุนรวมมากขึ้น โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้เพราะให้ผลตอบแทนสูงกว่า ส่วนกองทุนหุ้น หากจะให้น่าสนใจคงต้องบริหารจัดการให้ผลตอบแทนได้ในระดับสูง ขณะเดียวกัน การลงทุนดังกล่าวต้องผ่านการพิจารณาความความเสี่ยงอย่างถี่ถ้วน
นางวรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง จำกัด เปิดเผยว่า พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ในส่วนของบลจ.บัวหลวง ยังไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมอะไรเป็นพิเศษ เพราะเชื่อว่าในที่สุดแล้วอุตสาหกรรมกองทุนรวมกจะเบียดแทรกเงินฝากได้เองตามธรรมชาติ เนื่องจากกองทุนรวมจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ออกมาจูงใจนักลงทุนได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเงินฝากก็จะยังเป็นโครงสร้างหลักทางการเงินในระบบอยู่ ดังนั้นบริษัทจึงไม่คิดว่าจะเห็นนักลงทุนย้ายเงินจากเงินฝากเพียงเพราะว่าเกิด พรบ. นี้ขึ้นมา ซึ่งถ้านักลงทุนจะย้ายมาลงทุนที่กองทุนก็ต่อเมื่อนักลงทุนเชื่อว่ากองทุนรวมจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าฝากเงินในระดับความเสี่ยงที่เท่าๆ กันมากกว่า ซึ่งนั่นก็คือกองทุนตราสารหนี้ที่จะเป็นโครงสร้างหลักของอุตสาหกรรม โดยจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้ กองทุนรวมมีสัดส่วนที่สูงมากถึง 58% แล้ว
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้นั้น บริษัทมีแผนที่จะขยายกองทุนรวมพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ) กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) กองทุนรวมต่างประเทศ (เอฟไอเอฟ) และกองทุนตราสารหนี้ โดยเฉพาะกองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ กองทุนรวมบัวหลวงธนสาร และกองทุนบัวหลวงธนสารพลัส ที่จะทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนมากขึ้น เนื่องจากกองทุนดังกล่าวสามารถทำการเปิดให้ทำการซื้อขายได้ทุกวัน อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการออมทรัพย์ และการฝากประจำ
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทเตรียมแผนที่จะเตรียมความพร้อมให้กับพนักงานเพื่อสร้างความเข้าใจในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น เพื่อนำความเข้าใจดังกล่าวไปนำเสนอให้กับนักลงทุนได้อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น แต่เรื่องดังกล่าวยังคงต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น บริษัทจึงจะนำโมเดลเพื่อมาแนะนำการลงทุนให้กับนักลงทุน ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเข้าใจการจัดสรรเงินลงทุนอย่างมีเป้าหมายของผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถทำให้ขยายกองทุนอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ บริษัทจะมีการพัฒนาระบบต่าง ๆ อีกมากให้ทัดเทียมบลจ. อื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกในการใช้บริการจาก บลจ. บัวหลวง ผ่านช่องทางต่างๆ ปีนี้บริษัทจะเน้นในเรื่องดังกล่าวเป็นพิเศษ
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับบลจ.กสิกรไทย คงจะเน้นสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนมากขึ้น ขณะเดียวกัน ต้องทำให้ผลตอบแทนของกองทุนออกมาโดดเด่นควบคู่กันไปด้วย เพราะทั้ง 2 ปัจจัย เป็นสิ่งที่เราประเมินแล้วว่านักลงทุนต้องการ ซึ่งในจุดนี้เราเองจะต้องทำให้เราทำได้ดีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องทำอีกอย่างคือ ขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าและให้การบริการที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังเป็นปัญหาหรืออุปสรรคต่อการดำเนินงาน เราก็ต้องเดินหน้าพัฒนาต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องของสาขาธนาคารที่เป็นช่องทางจำหน่ายหน่วยลงทุนของเรา ซึ่งต้องเร่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนรวมกับเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติม เพื่อรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาลงทุนกับเรา