แหล่งข่าววงในเผยเฟอร์รารีกำลังชั่งใจเพิ่ม “รถอเนกประสงค์” 4 ที่นั่ง ซึ่งจะเป็นการแตกแถวครั้งสำคัญออกนอกสายการผลิตซูเปอร์คาร์ และรถที่ว่ายังมีเป้าหมายเจาะตลาดเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน
แผนผลิต SUV ของเฟอร์รารี บริษัทรถหรูจากอิตาลีที่แตกมาจากเฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์เมื่อปีที่แล้วนั้น เริ่มเป็นประเด็นตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อน หลังมีรายงานว่า บริษัทซูเปอร์คาร์แห่งนี้กำลังพิจารณาแตกสายการผลิตอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มกำไรอีกเท่าตัวในปี 2022
นิตยสารคาร์ของอังกฤษที่วางแผงเมื่อเดือนกรกฎาคมรายงานว่า เฟอร์รารีกำลังพัฒนาคูเป้ 4 ประตูภายใต้ชื่อรหัส F16X พร้อมๆ กับการปรับเปลี่ยนรุ่น GTC4Lusso ซึ่งเป็นรถ 4 ที่นั่ง 2 ประตู แต่ผู้บริหารเฟอร์รารีรีบออกมาปฏิเสธว่า บริษัทไม่ได้กำลังวางแผนทำ SUV ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่า เป็นแค่การเล่นคำเท่านั้น
กระทั่งเมื่อต้นเดือนสิงหาคม เซอร์จิโอ มาร์คิโอเน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเฟอร์รารี ออกมาสยบข่าวลือระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์หลังการแถลงข่าวยอดขายไตรมาส 2 บวกเพิ่มอีก 24% ว่า “อาจเป็นได้ แต่ต้องในสไตล์เฟอร์รารี”
ซีอีโอบริษัทรถสุดหรูแห่งนี้ยังบอกว่า ตลาด SUV ทั้งใหญ่และเย้ายวนเกินไป แต่ก็มีลูกค้าจำนวนมากยิ่งกว่ายินดีที่จะได้ขับครอสโอเวอร์สมรรถนะจัดจ้านแบรนด์เฟอร์รารี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า SUV ดังกล่าวจะบรรจุอยู่ในแผนการระยะ 5 ปีที่มีเป้าหมายทำยอดขายเพิ่มจากโควตาปัจจุบันที่ปีละ 10,000 คัน
โควตานี้กำหนดไว้เพื่อให้บริษัทได้รับสถานะบริษัทรถขนาดเล็กภายใต้กฎการปล่อยไอเสียในบางประเทศ และเพื่อคงเอกลักษณ์แบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าเฉพาะกลุ่มไว้ด้วย
นอกจากนั้นแทนที่จะปฏิเสธเสียงแข็งว่า เฟอร์รารีไม่ขอเข้าไปข้องเกี่ยวกับเซ็กเมนต์นี้แบบที่แล้วๆ มา มาร์คิโอเน ที่เตรียมวางมือในปี 2021 กลับย้ำแค่ว่า บริษัทจะไม่สร้าง SUV พิมพ์เดียวกับค่ายอื่นๆ และจะไม่ผลิตออกมาแข่งกับปอร์เช่ ซึ่งหมายถึงแบรนด์คาเยนน์ที่ทำกำไรมหาศาลและเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ริเริ่มแผนการขึ้นสายการผลิต SUV กันอย่างคึกคัก ทั้งเบนท์ลีย์ที่เปิดตัวเบนเทย์ก้าไปเมื่อปี 2015 ขณะที่มาเซราติ, แอสตัน วิลลา, โรลส์รอยซ์ แม้กระทั่งลัมโบร์กินี ต่างประกาศแผนการส่งครอสโอเวอร์ลงตลาดภายในไม่เกิน 2-3 ปีนี้
มาร์คิโอเนที่ควบตำแหน่งซีอีโอเฟียต ไครสเลอร์ด้วยและเตรียมอำลาเฟียตในปี 2019 ปิดท้ายว่า บอร์ดเฟอร์รารียังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะผลิตครอสโอเวอร์หรือที่หลายคนเรียกว่า SUV หรือไม่ เพราะฉะนั้น นี่อาจเป็นแค่หัวข้อหนึ่งในการหารือเท่านั้น และคงต้องรอฟังรายละเอียดในการแถลงแผนการระยะ 5 ปีในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า เขายังหยอดว่า โรงงานในมาราเนลโลที่เอนโซ เฟอร์รารี ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาเมื่อ 70 ปีที่แล้ว ยังมีความสามารถเพิ่มกำลังผลิตอีกเท่าตัว
อย่างไรก็ดี จากข้อเท็จจริงที่ว่า นายใหญ่เฟอร์รารีพูดเรื่องนี้ในที่สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้านักลงทุนที่ตาลุกวาวกับแผนการที่เห็นอยู่ว่า มีโอกาสทำกำไรสูงนี้ ทำให้ตีความได้ว่า แท้จริงเฟอร์รารีตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว
นับจากเข้ารับตำแหน่งในปี 2014 มาร์คิโอเนได้ผลักดันยอดขายจนทะลุโควตาเดิมที่ 7,000 คัน ซีอีโอวัย 65 ปีผู้นี้สร้างการเติบโตควบคู่กับการป้องกันไม่ให้เอกลักษณ์แบรนด์คลายความขลัง ด้วยรถรุ่นลิมิเต็ด เช่น ลา เฟอร์รารี อะเพอร์ตาเปิดประทุน ราคาคันละ 2.1 ล้านดอลลาร์ (เฉียด 70 ล้านบาท) และสำหรับตอนนี้ มาร์คิโอเนอาจต้องลงมืออีกครั้งเพื่อทำให้เฟอร์รารีสามารถอยู่รอดได้ ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคสมัยรถไฟฟ้า
แหล่งข่าวยังแย้มว่า กลยุทธ์ใหม่ของเฟอร์รารีอาจรวมถึงการทำกำไรเพิ่มสองเท่าภายใน 5 ปี
ว่ากันว่า ในบรรดาโปรเจ็กต์ที่คณะกรรมการบริหารบริษัทกำลังประเมินอยู่นั้น รวมถึงรถ 4 ที่นั่งที่เพิ่มพื้นที่โดยสารกว้างขวางกว่า GTC4Lusso สองประตูรุ่นปัจจุบัน โดยเรียกขานกันภายในบริษัทว่า “รถอเนกประสงค์ของเฟอร์รารี” หลังจากมาร์คิโอเนเคยคัดค้านการพัฒนา SUV มาโดยตลอด ซึ่งสอดคล้องกับที่นิตยสารคาร์รายงานไว้
แหล่งข่าวเพิ่มเติมว่า เฟอร์รารีรุ่นใหญ่เล็งเป้าหมายลูกค้าเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน และอาจผลิตออกมาถึงปีละ 2,000 คัน
ตามข่าวนั้น เฟอร์รารีกำลังศึกษาวิธีการที่จะรับประกันว่า รถรุ่นใหม่นี้จะคงเอกลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตของแบรนด์ม้าลำพองไว้อย่างเหนียวแน่น และเฟอร์รารีต้องการนำลงตลาดในเซ็กเมนต์ใหม่ที่ไม่ใช่ SUV ไฮเอนด์ หลังจากบริษัทคู่แข่งซูเปอร์คาร์แถวหน้า ทั้งมาเซราติ, เบนท์ลีย์ และลัมโบร์กินี แถลงข่าวครึกโครมเรื่องการขึ้นสายการผลิต SUV
ทั้งนี้ คาดกันว่า รถรุ่นใหม่ของเฟอร์รารีจะวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป
เป้าหมายปัจจุบันของค่ายม้าลำพองคือ เพิ่มยอดขายเป็น 9,000 คันในปี 2029 จาก 8,014 คันในปีที่ผ่านมา แต่นักวิเคราะห์ของเมดิโอบังกา, ยูบีเอส และเบิร์นสไตน์ เชื่อว่า ยอดขายของเฟอร์รารีอาจไปได้ถึง 15,000 คันภายใต้กลยุทธ์ใหม่ที่มาร์คิโอเนเกริ่นไว้ระหว่างการแถลงข่าวผลประกอบการไตรมาสแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวมาพร้อมความเสี่ยง เนื่องจากหากมียอดขายเกิน 10,000 คันต่อปี จะทำให้เฟอร์รารีหลุดจากสถานะ “ผู้ผลิตรถขนาดเล็ก” ที่ช่วยปกป้องบริษัทจากกฎด้านการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสียของอเมริกาและยุโรป
เพื่อแก้ปัญหานี้ เฟอร์รารีมีแผนเปิดตัวรถไฮบริดเพิ่ม โดยเริ่มจากปี 2019 เพื่อช่วยให้บริษัทมีคุณสมบัติสอดคล้องตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม
มัสสิโม เวคคิโอ นักวิเคราะห์ของเมดิโอบังกา เชื่อว่า รถไฮบริดของเฟอร์รารีจะติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มแรงม้า แหล่งข่าวยังบอกอีกว่า เฟอร์รารีสามารถจ่ายค่าปรับหรือซื้อคาร์บอนเครดิต และนำต้นทุนไปบวกเพิ่มไว้ในราคารถ