มาเซราติ เปิดตลาดเอสยูวีเมืองไทย ส่ง “เลอวานเต้” ประเดิมตลาดในสไตล์ความหรูบนความประหยัดด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลตัวแรง 275 แรงม้า พร้อม 2 ทางเลือกของออปชันทั้งแบบธรรมดาและแบบจัดเต็ม ตั้งราคายั่วใจนักขับที่ชื่นชอบความหรูจากแบรนด์อิตาลีกับตัวเลขเริ่มต้นที่ 7.99 ล้านบาท พร้อมพาชมถิ่นกำเนิดแบรนด์หรู ณ ประเทศอิตาลี
บริษัท เอ็มจีซี-เอเชีย ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์หรูหรา 5 แบรนด์ดัง และ 1 ใน 5 มีแบรนด์หรูอย่าง “มาเซราติ” รถที่มีตำนานมากว่า 100 ปี รวมอยู่ด้วย และถือเป็นรถยนต์รุ่นล่าสุดของกลุ่ม มิลลิเนียน ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากอิตาลีให้เป็นผู้แทนจำหน่ายรถ มาเซราติ ในเมืองไทย และเพื่อให้คนไทยได้รู้จักรถมาเซราติมากขึ้น จึงเชิญสื่อมวลชนไทย บินลัดฟ้ามุ่งหน้าประเทศอิตาลี เพื่อเยี่ยมชม และสัมผัสถิ่นกำเนิดแบรนด์ตรีศูล ณ เมืองโมดีน่า (Modena)
ซึ่งในโปรแกรมนั้นจะมีทั้งพาชมพิพิธภัณฑ์ “มาเซราติ” รถเก่าหายาก เยือนสำนักงานใหญ่ หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นพาชมโรงงานที่ผลิตรถมาเซราติ รุ่น เลอวานเต้ ที่จะเข้ามาจำหน่ายในไทยงาน “มอเตอร์โชว์” ปลายเดือนนี้ และร่วมทดสอบรถมาเซราติ หลายรุ่น แต่เป็นที่น่าเสียดายรถที่จะขายในไทยไม่มีให้ได้ลองขับ
แน่นอนไฮไลต์ของทริปนี้น่าจะเป็นการที่เจ้าของแบรนด์นำรถมาเซราติ หลากรุ่นมาให้ได้ลองขับ อาทิ แกรนด์ทัวริสโม MC Stradale (Gran Turismo MC Stradale) , แกรนด์ทัวริสโม สปอร์ต (Gran Turismo Sport ) ,กิบลี S และ เลอเวนเต้ S บนสนามที่มีชื่อ Autodromo ซึ่งเป็นสนามแข่งรถของเมืองโมดีน่า โดยสนามแห่งนี้มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร กว้าง 12 เมตร แต่การขับครั้งนี้จะมี Instructor นั่งประกบไปด้วย และให้วิ่งแค่ 2 รอบสนาม แต่ทุกคันที่ได้ลองขอบอกว่า ขับสนุก ขับมัน แรงได้ใจ โดยเฉพาะเสียงของเครื่องยนต์ มันดังเร้าใจมาก แถมหน้าตาเป็นสไตล์อิตาเลียน หล่อ-สวย ไม่เหมือนใคร
อย่างที่กล่าวข้างต้นไม่มีรถที่จำหน่ายในไทยให้ทดลองขับ เพราะรถที่ทางเมืองไทยเตรียมเปิดตัวเป็น เลอวานเต้ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ซึ่งเรื่องนี้ ปิยะเทพ ศิวากาศ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มาเซราติ ประเทศไทย เผยว่า ช่วงแรกมาเซราติ ประเทศไทยได้โควตา ลาวานเต้ ดีเซล ในปีนี้ 24 คัน และขณะนี้มียอดจองก่อนจะเผยราคาอย่างเป็นทางการแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง คาดว่าในงานมอเตอร์โชว์โควต้าในปีนี้จะหมดแน่นอน ส่วนที่เราเลือกขายดีเซลก่อนเพราะว่าเครื่องยนต์เบนซิน ทางบริษัทแม่ยังไม่ได้ผลิตพวงมาลัยขวาออกมาจำหน่าย ปัจจุบันพวงมาลัยขวามีเฉพาะดีเซล
ส่วนเป้ายอดขายในปีนี้ ทางปิยะเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเพิ่มยอดมากกว่าปีที่แล้ว 100 % เนื่องจากเรามั่นใจในรถมาเซราติ โดยเฉพาะรุ่น เลอวานเต้ มีจุดเด่นหลายอย่าง 1. เป็นรถ Italian Design 2.เอกลักษณ์เฉพาะตัวเรื่องเสียงคำรามของท่อไอเสีย 3.Exclusive Interior 4. เครื่องดีเซลไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องรอชาร์จไฟฟ้า 5. แรงบิดสูงถึง 600 นิวตันเมตร 6. ประหยัดน้ำมัน 7. มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสุดท้ายลูกค้าที่ซื้อลาวานเต้ จะได้ ฟรีวารันตี และบำรุงรักษา 3 ปีหรือ 60,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดมาถึงก่อน
หันมาทำความรู้จักรถหรูสไตล์อิตาลีที่คนไทยจะได้สัมผัสกันสิ้นเดือนนี้ ลาวานเต้ ถือเป็นเอสยูวี ที่แฟนมาเซราติต้องใช้เวลาในการรอคอยยาวนานกว่าจะเป็นคันจริง เพราะตัวรถได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานที่ต่อยอดมาจากเอสยูวีต้นแบบรุ่น “คูบัง” ที่เปิดตัวในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2011 ก่อนที่จะได้บทสรุปเป็นคันจริงของเอสยูวี ซึ่งถือเป็นว่าเป็นรุ่นแรกของค่ายตรีศูล และถูกเปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2016 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
สำหรับชื่อรุ่นนั้นเป็นการตั้งตามกระแสลมอันอบอุ่นที่พัดจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมาสู่ภาคพื้นยุโรป ซึ่งทางมาเซราติบอกว่าเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นตัวต้นที่แท้จริงของ “ลาวานเต้” ได้อย่างชัดเจน
เลอวานเต้ ถือเป็นถือเป็นรถระดับหรูขนาดกลางซึ่งแชร์พื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกับซีดานหรูรุ่นกิบลี่ พร้อมกับตัวถังแบบ 5 ประตู ที่ได้รับการสร้างสรรค์โดยอ้างอิงเอกลักษณ์ของเส้นสายบนตัวถังมาจากรถยนต์ที่ขายอยู่ในตลาดทั้งกิบลี่ และควอตโตรปอร์เต้ พร้อมกับชุดกระจังหน้าซึ่งได้รับการออกแบบโดยได้รับอิทธิพลมาจากรถยนต์รุ่นดังในอดีตอย่าง Tipo60 Birdcage
ในแง่ของความปราดเปรียวและเพรียวลมนั้น เลอวานเต้ มากับค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทาน-Cd ในระดับ 0.31 บนตัวถังที่มีความยาว 5,003 มิลลิเมตร กว้าง 1,968 มิลลิเมตร สูง 1,679 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 3,004 มิลลิเมตร และน้ำหนักตัวในระดับ 2,109 กิโลกรัม
ภายในห้องโดยสารมาเต็มกับความหรูบนความสปอร์ต การออกแบบแผงหน้าปัดสะท้อนถึงความโฉบเฉี่ยวอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะชุดมาตรวัดแบบดวงกลมแยกและตรงกลางจะเป็นหน้าจอแสดงผลข้อมูลต่างๆ ส่วนแผงคอนโซลกลางมากับหน้าจอแบบทัชสกรีนขนาด 8.4 นิ้วสำหรับใช้ในการควบคุมระบบเครื่องเสียงของ Harman Kardon และความบันเทิงต่างๆ ภายในห้องโดยสาร
แม้ในตลาดยุโรปเพิ่งวางขายไปเมื่อปลายปี 2016 ที่ผ่านมาจะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบทั้งเบนซินและดีเซล บล็อกวี6 ในพิกัด 3,000 ซีซี แต่สำหรับบ้านเราอย่างที่บอกข้างต้น จะเปิดตลาดความหรูด้วยความประหยัดที่มาพร้อมสมรรถนะในการขับเคลื่อนของขุมพลังเทอร์โบดีเซล ที่มีกำลังสูงสุด 275 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 61.1 กก.-ม.(600 นิวตันเมตร) ที่ 2,000-2,600 รอบ/นาที ใช้เวลาเพียง 6.9 วินาทีสำหรับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะจาก ZF ผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในสภาพการขับปกติ จะมีการส่งแรงบิดทั้งหมดไปที่ล้อหลัง และจะแปรผันตามสภาพพื้นผิวถนนผ่านการประเมินผลของกล่องสมองกล โดยการกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้าหลังจะแปรผันไปในอัตราส่วนระหว่าง 0-100% และ 50-50%
เลอวานเต้ ที่จำหน่ายในบ้านเราจะเปิดตลาดด้วยกัน 2 รุ่นให้เลือก คือ ดีเซลปกติ ในราคา 7.99 ล้านบาท และตัวแต่งแบบสปอร์ตในรหัส ดีเซล Sport Edition ในราคา 8.39 ล้านบาท
MGR Motoring แจกบัตรงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ท่านละ 2 ใบฟรี มารับได้ที่ เจ้าหน้าที่ โอเปอเรเตอร์ บ้านเจ้าพระยา ถนน พระอาทิตย์ เบอร์ติดต่อ 02-629-4488 งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม-9 เมษายน 2560 นี้