ข่าวในประเทศ - BMW จับมือ 4 พันธมิตร พร้อมทุ่มงบ 20 ล้านบาท ลงทุนตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะเป็นเจ้าแรกในเมืองไทย คาดพร้อมเปิดได้ไตรมาส 3 ตั้งเป้า 50 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเปิดรับผู้เข้าร่วมเครือข่าย และรับลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า
นายสเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ร่วมมือกับพันธมิตร 4 ราย ลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อเปิดตัวสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ ChargeNow รองรับทุกรุ่นและทุกแบรนด์ ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ให้บริการชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับในระยะแรกวางแผนติดตั้งไว้จำนวน 50 สถานี โดยให้ บริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด และ Greenlots เป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งสถานีชาร์จมาแล้วถึง 150 สถานีใน 70 แห่งทั่วประเทศสิงคโปร์ พร้อมกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือให้รองรับกับการใช้งานจริง
“เราจะเป็นผู้ลงทุนโดยมีงบประมาณ 20 ล้านบาทในการสร้างสถานี ที่ได้รับความร่วมมือจาก เซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่และเอพี ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลำดับต้นๆของไทย ในการให้พื้นที่สำหรับติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้วในเวลานี้ ส่วนค่าใช้บริการเบื้องต้นจะยังคงไม่มีการเก็บแต่อย่างใด” นายสเตฟาน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะต้องมีการเก็บค่าบริการอย่างแน่นอน ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติมีมติอนุมัติให้สามารถซื้อชายไฟฟ้าเพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้แล้ว โดยยังไม่มีกำหนดอัตราการเก็บ ขณะที่ตัวอย่างการเก็บค่าชาร์จไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์จะคิดตามระยะเวลาที่ชาร์จหรือจองเพื่อชาร์จเอาไว้ ผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือ
นาย สเตฟานกล่าวว่า โครงการ ChargeNow ยังคงเปิดรับพันธมิตรที่จะมาเข้าร่วมเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของประเทศไทย ด้วยเป้าหมายที่จะแจ้งเกิดยานยนต์ไฟฟ้า และนำไปสู่ สังคมที่ไร้การปล่อยก๊าซคาร์บอนในที่สุด
ปัจจุบัน โครงการ ChargeNow ให้บริการสถานีสาธารณะในการชาร์จรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 65,000 แห่งใน 27 ประเทศทั่วโลก ด้วยวิธีการชาร์จที่ง่ายดายและรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทย สถานีโครงการ ChargeNow จะแสดงที่ตั้งผ่านสมาร์ทโฟนหรือในเว็บไซต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะช่วยให้ลูกค้าทราบได้ว่าสถานีไหนว่างหรือมีการใช้งานอยู่ โดยลูกค้าจะได้รับการ์ด ChargeNow เพื่อสามารถเข้ารับบริการในสถานีซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ให้บริการโดยพันธมิตรต่าง ๆ และลูกค้าจะได้รับบิลค่าบริการในทุกสิ้นเดือน เช่นเดียวกับบิลค่าบริการโทรศัพท์มือถือนั่นเอง
โครงการ ChargeNow จะเริ่มเปิดรับลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับเจ้าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าที่มีหัวชาร์จ AC ทั้งแบบ Type 1 (SAE J1772) และ Type 2 (IEC 62196) ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดหรือยี่ห้อใด โดยจะมีการชี้แจงถึงรายละเอียดในการลงทะเบียนล่วงหน้า ในช่วงประมาณไตรมาสที่สามของปี 2560 นี้
นายสเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ร่วมมือกับพันธมิตร 4 ราย ลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อเปิดตัวสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ ChargeNow รองรับทุกรุ่นและทุกแบรนด์ ซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ให้บริการชาร์จไฟฟ้ารถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับในระยะแรกวางแผนติดตั้งไว้จำนวน 50 สถานี โดยให้ บริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด และ Greenlots เป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญในการติดตั้งสถานีชาร์จมาแล้วถึง 150 สถานีใน 70 แห่งทั่วประเทศสิงคโปร์ พร้อมกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือให้รองรับกับการใช้งานจริง
“เราจะเป็นผู้ลงทุนโดยมีงบประมาณ 20 ล้านบาทในการสร้างสถานี ที่ได้รับความร่วมมือจาก เซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่และเอพี ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลำดับต้นๆของไทย ในการให้พื้นที่สำหรับติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้วในเวลานี้ ส่วนค่าใช้บริการเบื้องต้นจะยังคงไม่มีการเก็บแต่อย่างใด” นายสเตฟาน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะต้องมีการเก็บค่าบริการอย่างแน่นอน ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติมีมติอนุมัติให้สามารถซื้อชายไฟฟ้าเพื่อชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้แล้ว โดยยังไม่มีกำหนดอัตราการเก็บ ขณะที่ตัวอย่างการเก็บค่าชาร์จไฟฟ้าในประเทศสิงคโปร์จะคิดตามระยะเวลาที่ชาร์จหรือจองเพื่อชาร์จเอาไว้ ผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือ
นาย สเตฟานกล่าวว่า โครงการ ChargeNow ยังคงเปิดรับพันธมิตรที่จะมาเข้าร่วมเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของประเทศไทย ด้วยเป้าหมายที่จะแจ้งเกิดยานยนต์ไฟฟ้า และนำไปสู่ สังคมที่ไร้การปล่อยก๊าซคาร์บอนในที่สุด
ปัจจุบัน โครงการ ChargeNow ให้บริการสถานีสาธารณะในการชาร์จรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 65,000 แห่งใน 27 ประเทศทั่วโลก ด้วยวิธีการชาร์จที่ง่ายดายและรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทย สถานีโครงการ ChargeNow จะแสดงที่ตั้งผ่านสมาร์ทโฟนหรือในเว็บไซต์ ซึ่งส่วนใหญ่จะช่วยให้ลูกค้าทราบได้ว่าสถานีไหนว่างหรือมีการใช้งานอยู่ โดยลูกค้าจะได้รับการ์ด ChargeNow เพื่อสามารถเข้ารับบริการในสถานีซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ให้บริการโดยพันธมิตรต่าง ๆ และลูกค้าจะได้รับบิลค่าบริการในทุกสิ้นเดือน เช่นเดียวกับบิลค่าบริการโทรศัพท์มือถือนั่นเอง
โครงการ ChargeNow จะเริ่มเปิดรับลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับเจ้าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าที่มีหัวชาร์จ AC ทั้งแบบ Type 1 (SAE J1772) และ Type 2 (IEC 62196) ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดหรือยี่ห้อใด โดยจะมีการชี้แจงถึงรายละเอียดในการลงทะเบียนล่วงหน้า ในช่วงประมาณไตรมาสที่สามของปี 2560 นี้