ข่าวในประเทศ-วันนี้(13 มิ.ย.)กลุ่มเกรย์มาเก็ตเข้ายื่นหนังสือวอนภาครัฐ ขอให้ทบทวนการจัดเก็บภาษีนำเข้าใหม่ หากทำไม่ได้คงถึงขั้นต้องเลิกกิจการกันหมด เสนอปรับลดจากเดิม 80% ลงมาที่ 30% เชื่อเก็บภาษีเข้าประเทศได้มากขึ้น และคนไทยก็ซื้อรถได้ถูกลงด้วย
นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส นายกสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลผ่านทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ช่วยทบทวนการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ใหม่ ในอัตราที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการค้าขายรถยนต์นำเข้าได้รับผลกระทบจากดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่สร้างความสับสนและกังวลใจแก่กลุ่มฯ อันเนื่องมาจากการเข้าตรวจสอบการจัดแสดงภาษีกับผู้ค้ารถยนต์นำเข้าบางราย ส่งผลให้หลายรายเลิกทำกิจการไปแล้ว ดังนั้นขอความชัดเจนจากภาครัฐว่าจะทำอย่างไร
“เราสำแดงภาษีตรงตามเงื่อนไขของกรมศุลกากรทุกประการ ซึ่งหากภาครัฐเห็นด้วยกับเรา และมีการลดอัตราภาษีนำเข้า จาก 80% ลงเหลือ 30% ตามข้อเรียกร้อง จะช่วยทำให้ภาครัฐได้รับภาษีมากขึ้นจากปริมาณการนำเข้ารถยนต์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงประชาชนก็ได้รับผลประโยชน์อีกด้วย เพราะซื้อรถยนต์ในราคาที่ถูกลง” นายสมศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ หากภาครัฐยังยืนยันที่จะจัดเก็บภาษีตามราคาขายที่อ้างอิงในต่างประเทศ จะทำให้ราคารถยนต์นำเข้าสูงขึ้นมากจนไม่สามารถแข่งขันในตลาดรถยนต์ได้ ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ อัลพาร์ดปัจจุบัน มีราคาขาย 3.4 ล้านบาท มูลค่าภาษีปัจจุบันประมาณ 1.7 ล้านบาท หากคิดตามการอ้างอิงใหม่ จะทำให้ราคาขายเพิ่มขึ้น อาจจะเกิน 5-6 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดรถยนต์นำเข้าปีนี้มีประมาณ 4,000 คัน จากกลุ่มผู้ประกอบการทั้งหมดราว 100 ราย ซึ่งลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 ที่เคยมีมากที่สุดถึงกว่า 600 ราย อันเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนระเบียบต่างๆ ของภาครัฐ ทำให้ผู้ค้าหลายรายไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
“ครั้งนี้ผู้ประกอบการนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์อาจจะต้องเลิกกิจการกันหมด ถ้าภาครัฐไม่ลดภาษีลง ซึ่งอัตราภาษีนำเข้า 80% นั้นมีมานานราว 30 ปีแล้ว สมัยนั้นอาจจะมองในเรื่องอยากให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน เชื้อเพลิงหายาก และกลัวว่าเงินออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนไป จึงอยากให้ทบทวนการปรับอัตราภาษีใหม่”
สำหรับ การจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ปัจจุบันจะเริ่มต้นด้วย การเก็บภาษีนำเข้า 80% เท่ากันทุกคัน หลังจากนั้นจะนำราคามาคำนวณภาษีสรรพษามิตรที่มีอัตราระหว่าง 10-50% แล้วจึงนำมาบวกด้วยภาษีมหาดไทย 10% และVAT 7% สรุปโดยรวมแล้วรถยนต์นำเข้าจะเสียภาษีระหว่าง 116%-328% ขึ้นกับรถแต่ละรุ่นเครื่องยนต์
นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส นายกสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ได้ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลผ่านทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ช่วยทบทวนการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ใหม่ ในอัตราที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน
เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการค้าขายรถยนต์นำเข้าได้รับผลกระทบจากดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่สร้างความสับสนและกังวลใจแก่กลุ่มฯ อันเนื่องมาจากการเข้าตรวจสอบการจัดแสดงภาษีกับผู้ค้ารถยนต์นำเข้าบางราย ส่งผลให้หลายรายเลิกทำกิจการไปแล้ว ดังนั้นขอความชัดเจนจากภาครัฐว่าจะทำอย่างไร
“เราสำแดงภาษีตรงตามเงื่อนไขของกรมศุลกากรทุกประการ ซึ่งหากภาครัฐเห็นด้วยกับเรา และมีการลดอัตราภาษีนำเข้า จาก 80% ลงเหลือ 30% ตามข้อเรียกร้อง จะช่วยทำให้ภาครัฐได้รับภาษีมากขึ้นจากปริมาณการนำเข้ารถยนต์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงประชาชนก็ได้รับผลประโยชน์อีกด้วย เพราะซื้อรถยนต์ในราคาที่ถูกลง” นายสมศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ หากภาครัฐยังยืนยันที่จะจัดเก็บภาษีตามราคาขายที่อ้างอิงในต่างประเทศ จะทำให้ราคารถยนต์นำเข้าสูงขึ้นมากจนไม่สามารถแข่งขันในตลาดรถยนต์ได้ ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ อัลพาร์ดปัจจุบัน มีราคาขาย 3.4 ล้านบาท มูลค่าภาษีปัจจุบันประมาณ 1.7 ล้านบาท หากคิดตามการอ้างอิงใหม่ จะทำให้ราคาขายเพิ่มขึ้น อาจจะเกิน 5-6 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดรถยนต์นำเข้าปีนี้มีประมาณ 4,000 คัน จากกลุ่มผู้ประกอบการทั้งหมดราว 100 ราย ซึ่งลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 ที่เคยมีมากที่สุดถึงกว่า 600 ราย อันเนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนระเบียบต่างๆ ของภาครัฐ ทำให้ผู้ค้าหลายรายไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
“ครั้งนี้ผู้ประกอบการนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์อาจจะต้องเลิกกิจการกันหมด ถ้าภาครัฐไม่ลดภาษีลง ซึ่งอัตราภาษีนำเข้า 80% นั้นมีมานานราว 30 ปีแล้ว สมัยนั้นอาจจะมองในเรื่องอยากให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน เชื้อเพลิงหายาก และกลัวว่าเงินออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันทุกอย่างเปลี่ยนไป จึงอยากให้ทบทวนการปรับอัตราภาษีใหม่”
สำหรับ การจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ปัจจุบันจะเริ่มต้นด้วย การเก็บภาษีนำเข้า 80% เท่ากันทุกคัน หลังจากนั้นจะนำราคามาคำนวณภาษีสรรพษามิตรที่มีอัตราระหว่าง 10-50% แล้วจึงนำมาบวกด้วยภาษีมหาดไทย 10% และVAT 7% สรุปโดยรวมแล้วรถยนต์นำเข้าจะเสียภาษีระหว่าง 116%-328% ขึ้นกับรถแต่ละรุ่นเครื่องยนต์
