รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย ยืนยันได้บรรลุข้อตกลงด้านภาษีกับกูเกิล (Google) สำหรับปีภาษี 2016 เบื้องต้นอิเหนายังไม่เปิดเผยมูลค่าภาษีที่จะเรียกเก็บจากบริษัทแม่อย่างอัลฟาเบ็ต (Alphabet Inc.) ถือเป็นความคืบหน้าล่าสุด หลังจากอินโดนีเซียตั้งเป้าเก็บภาษีย้อนหลัง 5 ปี โดยมีการคาดกันว่าเฉพาะปี 2015 ปีเดียว กูเกิลอาจต้องจ่ายมากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ
ศรีมุลยานี อินดราวาตี (Sri Mulyani Indrawati) สตรีแกร่งผู้นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย ระบุว่า อินโดนีเซียได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีกับกูเกิล สำหรับปีภาษี 2016 หลังจากทั้งกูเกิล และกระทรวงการคลังแดนอิเหนา เจรจาร่วมกันนานหลายเดือน โดยฝ่ายอินโดนีเซีย ระบุว่า เจ้าพ่อเสิร์ชเอนจินไม่ได้จ่ายเงินภาษีให้กับอินโดนีเซียมากพอ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า กูเกิลสามารถทำเงินจากแผ่นดินอินโดนีเซียได้มหาศาลต่อปี แต่กูเกิลกลับเสียเงินภาษีให้กับอินโดนีเซียน้อยนัก โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สรรพากรอาวุโสของอินโดนีเซีย เคยออกมาให้ข่าวเมื่อกันยายนปีที่แล้วว่า อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วางแผนไล่ตามเก็บภาษีย้อนหลังเป็นเวลา 5 ปี โดยกูเกิลอาจต้องเผชิญกับการเรียกเก็บภาษีจำนวนมากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับปีภาษี 2015 หรือประมาณ 1.35 หมื่นล้านบาท
เบื้องต้น อินโดนีเซีย ระบุว่า สามารถตกลงกับกูเกิลได้แล้วสำหรับปีภาษี 2016 แต่อินโดนีเซียไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ โดยยังไม่ชัดเจนว่า ทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงด้านภาษีต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีหรือไม่
ขณะนี้กูเกิลยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่นักวิเคราะห์ทั่วโลกมองว่า อินโดนีเซียมีความกระตือรือร้นในการจัดเก็บภาษีเพิ่มจากกูเกิล เพื่อหารายได้เข้าประเทศ เช่นเดียวกับรัฐบาลอื่นทั่วโลกที่กำลังพยายามยัดเยียดข้อหาเลี่ยงภาษีให้กูเกิล โดยปีที่ผ่านมา กูเกิลตกลงจ่ายภาษีย้อนหลัง 130 ล้านปอนด์ (ราว 5.6 พันล้านบาท) เพื่อยอมความในคดีภาษีกับอังกฤษ
สื่อต่างประเทศมีการอ้างถึงประเทศไทยด้วยว่า กำลังวางแผนเร่งรัดเพื่อออกกฎหมายสำหรับการเก็บภาษีบริษัทอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยี
กรณีของอินโดนีเซีย รมต.คลังอิเหนา ให้ความเห็นว่า รายได้ส่วนใหญ่ของกูเกิลที่เกิดขึ้นในประเทศ ถูกแสดงไว้ในนามสำนักงานใหญ่ในเอเชียแปซิฟิกในสิงคโปร์ เบื้องต้น มีการประเมินว่า รายได้จากการโฆษณาทั้งหมดสำหรับอุตสาหกรรมนี้ในอินโดนีเซีย อยู่ที่ประมาณ 830 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยกูเกิล และเฟซบุ๊ก (Facebook Inc) ครองสัดส่วนประมาณ 70% ของรายได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม กูเกิล แย้งว่า อุตสาหกรรมโฆษณาดิจิตอลของอินโนเดียนั้น มีมูลค่าราว 300 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่านั้นในปี 2015 โดยเป็นการสำรวจที่กูเกิล ร่วมมือกับเทมาเสก (Tamasek) ของสิงคโปร์ ทั้งหมดนี้แหล่งข่าวระบุว่า ผู้บริหารระดับสูงหลายรายของกูเกิลจากสำนักงานใหญ่เอเชียแปซิฟิก ได้เข้าร่วมหารือกับสรรพากรอินโดนีเซีย ตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว
