ผู้จัดการรายวัน 360 - เรตโฆษณา “เวิร์คพ้อยท์ทีวี” ขึ้นแท่นกลุ่มทีวีหลัก 3 ช่องแรก ด้านยักษ์ใหญ่ช่อง 3 และช่อง 7 สะเทือนหนัก ไพรม์ไทม์เวลาโฆษณาเหลือ หั่นราคาแหลก 15% พร้อมโปรโมชันเพิ่มรับมือออนไลน์บูม ฟาก “MI” กูรูเอเยนซีฟันธง สิ้นปีเม็ดเงินโฆษณาจริงมีมูลค่าไม่ถึง 1 แสนล้านบาท เหตุติดลบ 15% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี
นายภวัต เรืองเดชวรชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มีเดีย อินไซต์ จำกัด ในกลุ่มมีเดีย อินเทลลิเจนซ์ จํากัด หรือ MI ผู้ให้บริการซื้อ ขาย สื่อโฆษณา และวางกลยุทธ์ทางการตลาด เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้งบโฆษณาจริงในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 ติดลบ 9.2% หรือมีมูลค่า 39,734 ล้านบาท เนื่องจากในตลาดมีการลดแลกแจกแถมและทำโปรโมชันการซื้อขายโฆษณาลดลงสูงมาก จึงเป็นตัวเลขที่ต่างกับราคาตั้งขายที่ “นีลเส็น” สำรวจไว้ว่าอยู่ที่ 44,344 ล้านบาท ลดลง 5.3%
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาโฆษณาในกลุ่มทีวีช่องหลักมีอยู่ 3 ช่อง คือ ช่อง 3, 7 และเวิร์คพ้อยท์ทีวี โดยช่อง 3 และ 7 ปีนี้ช่วงละครไพรม์ไทม์เวลาขายโฆษณาเหลือจึงมีการทำโปรโมชันจัดแพกเกจการขายให้ลูกค้ามากขึ้นเฉลี่ยราคาโฆษณาลดลง 10-15% ส่วนช่องเวิร์คพ้อยท์ทีวีมีรายการที่มีเรตติ้งรายการแข็งแรงหลายรายการ เช่น “เดอะมาสก์ซิงเกอร์” ทำให้เรตติ้งช่องขึ้นไปอยู่เป็นกลุ่มช่องหลักแล้ว ส่วนช่องทีวีในกลุ่มสอง เช่น ช่อง 8, โมโน 29, ช่องวัน ราคาโฆษณาเฉลี่ยมีการปรับลง 50-60% และสุดท้ายช่องทีวีที่เหลือจัดอยู่ในกลุ่มที่สาม ราคาโฆษณาลดลงสูงถึง 80-90%
“ปี 2560 ถือเป็นปีที่เหนื่อยสุดของสื่อทีวี เหตุจากลูกค้าลดงบโฆษณาลง แต่สื่อออนไลน์เติบโต ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ดีส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาปีนี้น่าจะตกลง 10-15% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ไม่นับรวมปีก่อนที่มีสถานการณ์พิเศษเกิดขึ้น หรือมีมูลค่าจริงไม่ถึง 1 แสนล้านบาท”
นายภวัตกล่าวต่อว่า สำหรับตัวเลขโฆษณา 5 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าที่ใช้งบเพิ่มขึ้น 3 อันดับแรกคือ โคเรียคิงโต 27% รถยนต์ 25% และมีเดียโอนเนอร์ 18% โดยโคเรียคิงถือเป็นกรณีที่แสดงให้เห็นถึงตัวเลขการใช้งบโฆษณาจริงว่าได้รับโปรโมชันรวมแล้วลดราคาลง 80-90% เทียบกับราคาจริง หลังจากนี้เมื่อหยุดโฆษณาอาจจะมีผลให้เดือนต่อไปมียอดโฆษณาตกลงสูงเมื่อเทียบเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว
