เบนซ์สตาร์แฟลก ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส "E350e" รถยนต์แบบปลั้กอิน-ไฮบริด ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมากมาย อาทิเช่น ระบบควบคุมและเชื่อมอินเตอร์เน็ต Comand Online ให้คุณเชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมแผนที่นำทาง 3 มิติ ,ฟังก์ชั่น WLAN/Wifi hotspot และระบบ Multifunction telephony เชื่อมต่อมือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple CarPlay) และ Android(Android Auto) รอบรับเครือข่าย LTE
สำหรับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ E350e มากับหัวใจเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ กำลังสูงสุด 211 แรงม้า และจากมอเตอร์ไฟฟ้า 88 แรงม้า และมีกำลังสูงสุดที่สามารถทำได้จากการผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 286 แรงม้า มีระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนสูงสุดถึง 33 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
เหนือกว่าใครด้วยระบบนำรถเข้าจอดและออกอัตโนมัติ ทั้งการจอดแบบขนานและการถอยจอดแบบเข้าซอง โดยกล้องแสดงภาพด้านหลัง ระบบ active steering ระบบ speed control และระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ จะทำงานร่วมกันขณะถอยรถ แม้ในที่จำกัดหรือต้องขยับรถหลายครั้ง E350e ก็สามารถทำได้ โดยระบบสัญญาณเตือนทั้งภาพและเสียงจะทำงานเมื่อพบสิ่งกีดขวางทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวรถ(ชมคลิป)
ทั้งนี้ เบนซ์ สตาร์แฟลก ยังเป็นโชว์รูม เมอร์เซเดส-เบนซ์ ระดับ Flagship แห่งแรกของประเทศไทย โดยแนวทางในการออกแบบโชว์รูมยึดหลักตามมาตรฐานการตกแต่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ที่เรียกว่า MPS II Exclusive (Mercedes-Benz Presentation System) เน้นไปที่การให้ความสะดวกสบายกับลูกค้าและการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในโชว์รูม
ซึ่งปัจจุบัน เบนซ์สตาร์แฟลกได้แบ่งส่วนของตึกที่ให้บริการหลังการขายไปยังตึก South Star และปรับปรุงตึก North Star ใหม่โดย แบ่งเป็นชั้น 1 ส่วนรับรองลูกค้าและมีการจัดแสดงรถขนาดเล็ก ขณะที่ชั้น 2 จะเป็นการโชว์รถนำเข้า รถรุ่นพิเศษ รวมถึงรถเด่นๆ ในตระกูล อี-คลาส และเอส-คลาส ซึ่งมีพื้นที่รับรองพิเศษที่เรียกว่า เอส-คลาส เล้าจ์ไว้คอยบริการลูกค้า
พบกับการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสใหม่ E350e ได้ที่เบนซ์สตาร์แฟลก ซึ่งมีรถจริงโชว์และพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าที่จองซื้อได้ในทันที เรียกว่า เป็นโชว์รูมระดับ flagship ไม่ทำให้ลูกค้าต้องรอนาน
เครดิตภาพ - เพจ Benz Star Flag
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
สำหรับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ E350e มากับหัวใจเครื่องยนต์ Plug-in Hybrid ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ กำลังสูงสุด 211 แรงม้า และจากมอเตอร์ไฟฟ้า 88 แรงม้า และมีกำลังสูงสุดที่สามารถทำได้จากการผสานการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 286 แรงม้า มีระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนสูงสุดถึง 33 กม. ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
เหนือกว่าใครด้วยระบบนำรถเข้าจอดและออกอัตโนมัติ ทั้งการจอดแบบขนานและการถอยจอดแบบเข้าซอง โดยกล้องแสดงภาพด้านหลัง ระบบ active steering ระบบ speed control และระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ จะทำงานร่วมกันขณะถอยรถ แม้ในที่จำกัดหรือต้องขยับรถหลายครั้ง E350e ก็สามารถทำได้ โดยระบบสัญญาณเตือนทั้งภาพและเสียงจะทำงานเมื่อพบสิ่งกีดขวางทั้งด้านหน้าและด้านหลังตัวรถ(ชมคลิป)
ทั้งนี้ เบนซ์ สตาร์แฟลก ยังเป็นโชว์รูม เมอร์เซเดส-เบนซ์ ระดับ Flagship แห่งแรกของประเทศไทย โดยแนวทางในการออกแบบโชว์รูมยึดหลักตามมาตรฐานการตกแต่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ที่เรียกว่า MPS II Exclusive (Mercedes-Benz Presentation System) เน้นไปที่การให้ความสะดวกสบายกับลูกค้าและการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในโชว์รูม
ซึ่งปัจจุบัน เบนซ์สตาร์แฟลกได้แบ่งส่วนของตึกที่ให้บริการหลังการขายไปยังตึก South Star และปรับปรุงตึก North Star ใหม่โดย แบ่งเป็นชั้น 1 ส่วนรับรองลูกค้าและมีการจัดแสดงรถขนาดเล็ก ขณะที่ชั้น 2 จะเป็นการโชว์รถนำเข้า รถรุ่นพิเศษ รวมถึงรถเด่นๆ ในตระกูล อี-คลาส และเอส-คลาส ซึ่งมีพื้นที่รับรองพิเศษที่เรียกว่า เอส-คลาส เล้าจ์ไว้คอยบริการลูกค้า
พบกับการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสใหม่ E350e ได้ที่เบนซ์สตาร์แฟลก ซึ่งมีรถจริงโชว์และพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าที่จองซื้อได้ในทันที เรียกว่า เป็นโชว์รูมระดับ flagship ไม่ทำให้ลูกค้าต้องรอนาน
เครดิตภาพ - เพจ Benz Star Flag
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring