xs
xsm
sm
md
lg

JTEKT ฉลอง 50 ปี คาดหวังส่วนแบ่งเพิ่มทุกชิ้นส่วน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นาย โยชิคะซุ โคะนิชิ ประธานบริษัท เจเทคโตะ (ไทยแลนด์) จำกัด แถลงข่าวครบรอบ 50 ปี พร้อมเผยถึงความสำเร็จ ของธุรกิจในประเทศไทย และแผนการยกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนกลุ่มบริษัทของ JTEKT ในอาเซียน

ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ปี พ.ศ.2509 ก่อนจะมาเป็นบริษัท JTC ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อขายสินค้าตลับลูกปืน (Bearing) นำเข้า จนเมื่อ 27 ปีที่แล้ว เมื่อปี พ.ศ.2532 ได้ก่อตั้งบริษัทเพื่อผลิตแบริ่ง ผลิตภัณฑ์หลักของ JTC ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แก่ Cross pin, เพลากลาง (propeller shaft) ถือเป็นโรงงานผลิตโรงงานแรกของบริษัท JTEKT ในประเทศไทย

หลังจากนั้น ปี พ.ศ.2539 จึงเริ่มผลิตพวงมาลัย (Steering) ทำให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตก้าวหน้าควบคู่กับเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยปัจจุบัน บริษัท เจเทคโตะ (ไทยแลนด์) จำกัดได้ผลิต และจำหน่ายชิ้นส่วน ตลับลูกปืน (Bearing) พวงมาลัย (Steering) ชุดเพลาขับ (Driveline) นอกจากนี้ บริษัท JTEKT และบริษัทในกลุ่ม JTEKT Group รวมกันในประเทศไทย ประกอบด้วยบริษัทฯที่รับผิดชอบการผลิต จำนวน 6 บริษัท พร้อมด้วยศูนย์จำหน่าย มีพนักงานรวมทั้งสิ้น 4,800 คน

เพื่อเป็นการก้าวกระโดดยิ่งขึ้นต่อไปในอีก 50 ปี หรือ100 ปี ข้างหน้านั้น ทาง JTC ได้สร้างฐานการผลิตแห่งที่ 2 ขึ้น คือ โรงงานที่นิคมอุตสาหกรรม เกตเวย์ อีกทั้ง ในปีนี้บริษัท เจเทคโตะ (ไทยแลนด์) กำลังเตรียมการเพื่อจะเป็นศูนย์กลางการบริหารของ 8 บริษัทในภูมิภาคอาเซียน ในนาม “ASEAN JTEKT Group” ที่จะรวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่เป็น No.1 & Only One ให้แก่ลูกค้า ด้วยการ “สร้างคุณค่า” (Building value) “สร้างการผลิต” Monozukuri หรือ สร้างสินค้าที่ดีเยี่ยม (Building excellent products) “สร้างบุคลากร” (Building professional)

สำหรับเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม คือ ในปี พ.ศ.2563 คือ การเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในอาเซียน จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งการตลาดสินค้าพวงมาลัย (Steering) จาก 68% จะเพิ่มเป็น 75% โดยจะดำเนินการด้านการเพิ่มส่วนจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบภายในภูมิภาค เพื่อนำเสนอสินค้าที่มีต้นทุนที่แข่งขันได้จริง แต่มีฟังก์ชั่นที่ดีเกินกว่าความต้องการที่ลูกค้าคาดหวัง

ด้านสินค้าตลับลูกปืน (Bearing) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์หลัก (Hub bearing) ขณะนี้ที่ตั้งบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นกำลังพัฒนา Ball Hub ที่มีฟังก์ชั่นที่ดีขึ้น โดยจะให้ผลิต และจัดจำหน่ายในอาเซียน จะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 29 % เป็น 40%

เพื่อทำให้ปรัชญาองค์กรของ JTEKT ด้าน”การเสริมสร้างสังคมที่มั่งคั่ง มวลมนุษย์มีความสุข โดยผ่านการผลิตแบบ Monozukuri” เป็นจริง จึงวางแผนในการพัฒนาบุคลากรอย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาและการเติบโตอย่างยั่งยืนของอนาคตของประเทศไทย

สำหรับการพัฒนาบุคลากรรุ่นต่อไปที่มุ่งมั่นเพื่อราชอาณาจักรไทยนั้น คือ ลงทุนพัฒนาบุคคลกรที่มีความสามารถพัฒนาออกแบบ เพื่อความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรม โดยพนักงานจากทาง Technical center ของบริษัท ได้ไปช่วยให้ความรู้เป็นกรณีพิเศษ ด้านการออกแบบที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น โดยทางบริษัทฯ จะพิจารณาการให้ความร่วมมือกับทางสถาบันต่อไปในระยะยาว

ด้านการพัฒนาเพื่อสร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย ด้านความมุ่งมั่นต่อสังคมโลก JTEKT ขอมีส่วนร่วมที่ “จะลดการปล่อยของเสียที่มีผลกระทบต่อสภาวะก๊าซเรือนกระจกให้ลดลงครึ่งหนึ่ง ภายในปี พ.ศ.2563” ต้องดำเนินการให้เป็นจริง ดังนั้น ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี พ.ศ.2563 บริษัทฯ กำหนดเป้าหมายอย่างท้าทายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง

ภายในโรงงานจะเริ่มกิจกรรมการเสนอแนวคิด ภูมิความรู้ต่างๆ เพื่อการประหยัดพลังงาน โดยร่วมมือกับชุมชนใกล้เคียง และองค์กรท้องถิ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 อาทิ โครงการปลูกป่าใกล้กับโรงงานบางปะกง โดยมีการสานต่อกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ การปลูกป่าโกงกางรวม 2,300 ต้น ที่ ศูนย์อนุรักษ์ธรรมชาติบางปู เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น