แตกไลน์ขยายทางเลือกไปเรื่อยครับ สำหรับ “เลกซัส” รถยนต์หรูจากญี่ปุ่น ล่าสุดมากับตัวถังคูเป้สายพันธุ์ใหม่รุ่น “อาร์ซี” (RC) ที่ระดับการทำตลาดแอบชนกับพวก “อี-คลาส คูเป้” และ “ซีรีย์4” จากฝั่งยุโรป
จริงๆระดับของผลิตภัณฑ์ก็ซัดกันเต็มๆละครับ แต่พอนำเข้ามาขายเมืองไทย “อาร์ซี” ดูจะเสียเปรียบเรื่องราคาพอสมควร เพราะพวกสปอร์ตคาร์จากยุโรปขายแถวๆ 4 ล้านบาท แต่เลกซัสรุ่นนี้ตั้งราคาทะลุ 5 ล้านบาท กับทางเลือกเดียวคือ RC 200t F-Sport


RC คือรุ่นใหม่สายพันธุ์คุเป้ ตัวถังสองประตู 2+2 ที่นั่ง ส่วน 200t คือรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ บล็อกใหม่และบล็อกเดียวกับที่วางในเอสยูวี “อาร์เอ็กซ์” ขณะที่ F-Sport ก็ชัดเจนเรื่องการตกแต่งแบบสปอร์ตรอบคัน รวมถึงออปชันภายใน
สำหรับโครงสร้างการพัฒนาถือว่าน่าสนใจ เพราะ“อาร์ซี” ได้นำข้อดีและความลงตัวของรุ่นพี่ๆมารวมกัน อย่างโครงสร้างด้านหน้าและช่วงล่างหน้าก็มาจากซีดานรุ่น “จีเอส” ด้านหลังใช้โครงสร้างของ “ไอเอส” แต่ช่วงล่างใช้ของ “จีเอส” พร้อมโช้กอัพไฟฟ้าทั้ง 4 ล้อ (ปรับโหมดการขับขี่ได้) รวมถึงติดตั้งของดีอย่างเฟืองท้าย Limited Slip Differential มาช่วยกระจายกำลังไปสู่ล้อซ้าย-ขวาให้มีเสถียรภาพสูงสุด
ขณะที่ของแพงอีกอย่างที่ติดตั้งมาให้แต่ ผู้เขียนไม่ได้ลองในการทดสอบครั้งนี้ คือเครื่องเสียงหูทองอย่าง Mark Levinson พร้อมลำโพง 17 ตัว ระบบเซอร์ราวด์ 5.1 ซึ่งเลกซัสคุยว่าคุณภาพเสียงเทียบเท่ากับชุดโฮมเธียเตอร์ราคา 2 ล้านบาทเลยทีเดียว
โดยสัปดาห์ที่แล้ว ทีมงานเลกซัส ในเครือโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย หาจังหวะเหมาะ ชวนลูกค้าวีไอพีหมายรวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่ในอนาคตมีโอกาสจะซื้อ พร้อมดีลเลอร์ ดารา 3 ท่าน(สมัยนี้เขาต้องเรียกว่าเซเลบ) และผู้สื่อข่าวอีก4 คนให้ไปลองขับ RC 200t ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
…จริงๆก็เป็นงานลูกค้า งานฝ่ายการตลาดของ TMT เขาละครับ ส่วนผู้สื่อข่าวอย่างกระผมก็โหนเครื่องบินตามไปด้วย ซึ่งความน่าสนใจนอกจากจะเป็นความใหม่ของตัวรถแล้ว การทดสอบยังอยู่ในสนามแข่งมาตรฐานระดับโลก แถมขับกันตอนกลางคืน เปิดไฟใส่สปอร์ตไลท์ ท้าทายให้ฝูงแมลงบุรีรัมย์มาเล่นไฟนับพันตัว



แม้การขับจริงๆได้ลองเพียง 2 รอบสนาม และนั่งดูไลน์อีก 2 รอบ ระยะทางต่อรอบ 4.5 กิโลเมตร แต่ก็พอจะจับบุคลิกของสปอร์ตคู้เป้รุ้นนี้ได้พอสมควร ที่สำคัญยังปรับโหมดขับขี่ให้เป็นแบบ Sport+ หวังให้ประทับใจเต็มศักยภาพ (แถมรอบหลังยังปลดระบบควบคุมการทรงตัวด้วย)
อย่างไรก็ตาม เมื่อขับขี่จริงแม้ในโหมด Sport+ จะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ ให้รวดเร็วมากขึ้น สอดคล้องกับช่วงล่างและการควบคุมที่หนึบแน่น(กว่าทุกๆโหมด) แต่ผู้เขียนว่ายังออกแนวนุ่มนวลอยู่มาก ถ้าเทียบกับ “ซีรีย์4” ของบีเอ็มดับเบิลยูแล้ว
ช่วงล่างหน้าแบบปีกนกสองชั้นและหลังแบบมัลติลิงค์ ถูกปรับคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และจุดยึดต่างๆ รับกับล้ออัลลอยขนาด 18นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/45R18 ภาพรวมเน้นการรองรับที่นวลเนียนตามสไตล์เลกซัส (ยิ่งขับในสนามแข่งก็จะอารมณ์ประมาณนี้) ส่วนพวงมาลัยควบคุมได้แน่นแม่นยำ แต่ไม่ถึงกับสปอร์ตเฉียบขาดเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากยุโรป




เหมือน“อาร์ซี” จะตุ๋มติ๋มจิ้มลิ้ม แต่ที่เด็ดสุดโดนใจผู้เขียนเห็นจะเป็นสมรรถนะของเครื่องยนต์ และเกียร์ชุดนี้ (แรงม้ามากกว่า E250 คูเป้ และ 420d ด้วยนะ)
โดยเครื่องยนต์เบนซินรหัส 8AR FTS 4สูบ ขนาด 2.0 ลิตร DOHC Dual VVT-iW เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน -เมตร ที่ 1,650-4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังลงสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ซึ่งทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ 7.5 วินาที
กระหน่ำคันเร่งหนักๆ เสียงท่อไอเสีย เสียงเครื่องยนต์ ให้อารมณ์นักล่า ปลุกความเป็นชายได้ดีนัก ส่วนความเร็วสูงสุดของ RC 200t เคลมไว้ 230 กม./ชม. แต่การขับในครั้งนี้ถูกควบคุมความเร็วไว้เพื่อความปลอดภัย ดังนั้นช่วงทางตรงหน้าเมนสแตน ผู้เขียนไล่ความเร็วระคนความเกรงใจได้แถว 140-150 กม./ชม. ซึ่งการเร่งความเร็วไปจนถึงระดับนี้ พร้อมสัมผัสจังหวะสับเกียร์ ปัง! ปัง! ความนิ่งของตัวรถยังมีสูง
…หลังลองขับผ่านโค้งซ้าย 5 โค้งขวา 7 ระยะทาง 4.5 กิโลเมตรต่อรอบ ต้องบอกว่า “เลกซัส อาร์ซี” เป็นคูเป้ที่สง่างาม ท้าทายแสงไฟ ขับกลางคืนยิ่งเห็นมุมตกกระทบของแสงต่อตัวถัง สันเหลี่ยมคมคาย บนความสปอร์ตเร้าใจของเครื่องยนต์และเกียร์ 8 สปีด
รวบรัดตัดความ...ด้วยราคา 5,490,000 บาท ของ RC 200t F-Sport ดูจะโดดไปสักนิด เมื่อเทียบกับรถยนต์คูเป้จากเยอรมนี แต่เชื่อเถิดครับว่า เลกซัสก็มีความโดดเด่นในตัว บุคลิกที่ต่างไป ขับขี่สบายบนความหรูหรา และมีความแอบซ่าเร้าใจอยู่พอตัว
ระบบความปลอดภัยสุดล้ำใน RC 200t F-Sport


จริงๆระดับของผลิตภัณฑ์ก็ซัดกันเต็มๆละครับ แต่พอนำเข้ามาขายเมืองไทย “อาร์ซี” ดูจะเสียเปรียบเรื่องราคาพอสมควร เพราะพวกสปอร์ตคาร์จากยุโรปขายแถวๆ 4 ล้านบาท แต่เลกซัสรุ่นนี้ตั้งราคาทะลุ 5 ล้านบาท กับทางเลือกเดียวคือ RC 200t F-Sport
RC คือรุ่นใหม่สายพันธุ์คุเป้ ตัวถังสองประตู 2+2 ที่นั่ง ส่วน 200t คือรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ บล็อกใหม่และบล็อกเดียวกับที่วางในเอสยูวี “อาร์เอ็กซ์” ขณะที่ F-Sport ก็ชัดเจนเรื่องการตกแต่งแบบสปอร์ตรอบคัน รวมถึงออปชันภายใน
สำหรับโครงสร้างการพัฒนาถือว่าน่าสนใจ เพราะ“อาร์ซี” ได้นำข้อดีและความลงตัวของรุ่นพี่ๆมารวมกัน อย่างโครงสร้างด้านหน้าและช่วงล่างหน้าก็มาจากซีดานรุ่น “จีเอส” ด้านหลังใช้โครงสร้างของ “ไอเอส” แต่ช่วงล่างใช้ของ “จีเอส” พร้อมโช้กอัพไฟฟ้าทั้ง 4 ล้อ (ปรับโหมดการขับขี่ได้) รวมถึงติดตั้งของดีอย่างเฟืองท้าย Limited Slip Differential มาช่วยกระจายกำลังไปสู่ล้อซ้าย-ขวาให้มีเสถียรภาพสูงสุด
ขณะที่ของแพงอีกอย่างที่ติดตั้งมาให้แต่ ผู้เขียนไม่ได้ลองในการทดสอบครั้งนี้ คือเครื่องเสียงหูทองอย่าง Mark Levinson พร้อมลำโพง 17 ตัว ระบบเซอร์ราวด์ 5.1 ซึ่งเลกซัสคุยว่าคุณภาพเสียงเทียบเท่ากับชุดโฮมเธียเตอร์ราคา 2 ล้านบาทเลยทีเดียว
โดยสัปดาห์ที่แล้ว ทีมงานเลกซัส ในเครือโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย หาจังหวะเหมาะ ชวนลูกค้าวีไอพีหมายรวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่ในอนาคตมีโอกาสจะซื้อ พร้อมดีลเลอร์ ดารา 3 ท่าน(สมัยนี้เขาต้องเรียกว่าเซเลบ) และผู้สื่อข่าวอีก4 คนให้ไปลองขับ RC 200t ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์
…จริงๆก็เป็นงานลูกค้า งานฝ่ายการตลาดของ TMT เขาละครับ ส่วนผู้สื่อข่าวอย่างกระผมก็โหนเครื่องบินตามไปด้วย ซึ่งความน่าสนใจนอกจากจะเป็นความใหม่ของตัวรถแล้ว การทดสอบยังอยู่ในสนามแข่งมาตรฐานระดับโลก แถมขับกันตอนกลางคืน เปิดไฟใส่สปอร์ตไลท์ ท้าทายให้ฝูงแมลงบุรีรัมย์มาเล่นไฟนับพันตัว
แม้การขับจริงๆได้ลองเพียง 2 รอบสนาม และนั่งดูไลน์อีก 2 รอบ ระยะทางต่อรอบ 4.5 กิโลเมตร แต่ก็พอจะจับบุคลิกของสปอร์ตคู้เป้รุ้นนี้ได้พอสมควร ที่สำคัญยังปรับโหมดขับขี่ให้เป็นแบบ Sport+ หวังให้ประทับใจเต็มศักยภาพ (แถมรอบหลังยังปลดระบบควบคุมการทรงตัวด้วย)
อย่างไรก็ตาม เมื่อขับขี่จริงแม้ในโหมด Sport+ จะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ เกียร์ ให้รวดเร็วมากขึ้น สอดคล้องกับช่วงล่างและการควบคุมที่หนึบแน่น(กว่าทุกๆโหมด) แต่ผู้เขียนว่ายังออกแนวนุ่มนวลอยู่มาก ถ้าเทียบกับ “ซีรีย์4” ของบีเอ็มดับเบิลยูแล้ว
ช่วงล่างหน้าแบบปีกนกสองชั้นและหลังแบบมัลติลิงค์ ถูกปรับคอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และจุดยึดต่างๆ รับกับล้ออัลลอยขนาด 18นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/45R18 ภาพรวมเน้นการรองรับที่นวลเนียนตามสไตล์เลกซัส (ยิ่งขับในสนามแข่งก็จะอารมณ์ประมาณนี้) ส่วนพวงมาลัยควบคุมได้แน่นแม่นยำ แต่ไม่ถึงกับสปอร์ตเฉียบขาดเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากยุโรป
เหมือน“อาร์ซี” จะตุ๋มติ๋มจิ้มลิ้ม แต่ที่เด็ดสุดโดนใจผู้เขียนเห็นจะเป็นสมรรถนะของเครื่องยนต์ และเกียร์ชุดนี้ (แรงม้ามากกว่า E250 คูเป้ และ 420d ด้วยนะ)
โดยเครื่องยนต์เบนซินรหัส 8AR FTS 4สูบ ขนาด 2.0 ลิตร DOHC Dual VVT-iW เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน -เมตร ที่ 1,650-4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังลงสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ซึ่งทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ 7.5 วินาที
กระหน่ำคันเร่งหนักๆ เสียงท่อไอเสีย เสียงเครื่องยนต์ ให้อารมณ์นักล่า ปลุกความเป็นชายได้ดีนัก ส่วนความเร็วสูงสุดของ RC 200t เคลมไว้ 230 กม./ชม. แต่การขับในครั้งนี้ถูกควบคุมความเร็วไว้เพื่อความปลอดภัย ดังนั้นช่วงทางตรงหน้าเมนสแตน ผู้เขียนไล่ความเร็วระคนความเกรงใจได้แถว 140-150 กม./ชม. ซึ่งการเร่งความเร็วไปจนถึงระดับนี้ พร้อมสัมผัสจังหวะสับเกียร์ ปัง! ปัง! ความนิ่งของตัวรถยังมีสูง
…หลังลองขับผ่านโค้งซ้าย 5 โค้งขวา 7 ระยะทาง 4.5 กิโลเมตรต่อรอบ ต้องบอกว่า “เลกซัส อาร์ซี” เป็นคูเป้ที่สง่างาม ท้าทายแสงไฟ ขับกลางคืนยิ่งเห็นมุมตกกระทบของแสงต่อตัวถัง สันเหลี่ยมคมคาย บนความสปอร์ตเร้าใจของเครื่องยนต์และเกียร์ 8 สปีด
รวบรัดตัดความ...ด้วยราคา 5,490,000 บาท ของ RC 200t F-Sport ดูจะโดดไปสักนิด เมื่อเทียบกับรถยนต์คูเป้จากเยอรมนี แต่เชื่อเถิดครับว่า เลกซัสก็มีความโดดเด่นในตัว บุคลิกที่ต่างไป ขับขี่สบายบนความหรูหรา และมีความแอบซ่าเร้าใจอยู่พอตัว
ระบบความปลอดภัยสุดล้ำใน RC 200t F-Sport
Pop Up Hood (PUH) เมื่อเซนเซอร์ที่ติดตั้งในกันชนหน้าตรวจพบการปะทะกับคน ฝากระโปรงหน้าจะยกตัวขึ้นทันที เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับแรงกระแทก ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของคนเดินถนนในระดับสูงสุด |
Automatic High-Beam System (AHS) ระบบปรับไฟหน้าอัตโนมัติ เมื่อตรวจพบรถยนต์ที่วิ่งสวนมา หรือพบไฟท้ายของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อวิสัยทัศน์ที่ดีที่สุด |
Lane Departure Assist (LDA) ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน ที่จะส่งสัญญานเตือนผู้ขับขี่บนจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ถ้าระบบตรวจพบว่ารถยนต์ขับข้ามเลนโดยไม่มีการเปิดไฟเลี้ยว |
Blind Spot Monitor System และ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ ด้วยสัญญาณเรดาร์แบบ Quasi-millimeter บริเวณกันชนหลังจะส่งสัญญาณเตือนหากพบรถที่วิ่งอยู่เลนข้างๆ ในตำแหน่งที่ไม่อาจสังเกตเห็นได้หรือพบสิ่งกีดขวางด้านหลังในขณะถอยรถ |
ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านหน้าแบบ Dual-stage SRS และแบบ SRS รวม 8 ตำแหน่ง ทั้งถุงลมเสริมความปลอดภัยแบบม่านที่หน้าต่างด้านข้างของตัวรถ |