xs
xsm
sm
md
lg

เลกซัส RC 200t สปอร์ตคู้เป้พันธุ์ใหม่ถึงไทยแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เลกซัส กรุ๊ป ในเครือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัว เลกซัส RC200t สปอร์ตคูเป้ระดับหรูที่มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยียานยนต์ ทั้งด้านสมรรถนะและความปลอดภัย ขายเฉพาะตัว F-Sport ราคา 5.49 ล้านบาท

เลกซัส RC สปอร์ตคูเป้ ที่พยายามผสาน “ความร้อนแรงและความน่าหลงใหล” ภายใต้แนวคิดการพัฒนาที่เรียบง่ายแต่ชัดเจน คือ หลงใหลในครั้งแรกที่ได้เห็น และหลงใหลไปกับสมรรถนะสุดร้อนแรงในครั้งแรกที่ได้ขับขี่

ในส่วนโครงสร้างตัวถังพัฒนาใหม่เฉพาะสำหรับ RC เท่านั้น แซสซีส์สไตล์สปอร์ตที่แข็งแรงเป็นพิเศษ พร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Sport Direct Shift (SPDS) และเสียงกังวานของเครื่องยนต์ที่จะปลุกเร้าอารมณ์

RC 200t วางเครื่องยนต์เบนซิน 8AR FTS 16 วาล์ว DOHC Dual VVT-iW เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสุงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน -เมตร ที่ 1,650-4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO 5 และรองรับน้ำมัน E10

โหมดขับขี่อัจฉริยะ (Driving Mode Select) สามารถเลือกสมรรถนะที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น โหมด Normal สำหรับการขับขี่แบบปกติ โหมด ECO สำหรับความประหยัดสูงสุด

ในโหมด Sport สำหรับประสบการณ์แห่งความสปอร์ตเร้าใจ และ โหมด Sport S+ สำหรับประสบการณ์ความสปอร์ตเร้าใจยิ่งกว่า ด้วยช่วงล่างที่ถูกปรับให้แกร่ง และมั่นใจมากกว่าเมื่อเข้าโค้ง

รูปลักษณ์ที่โดดเด่นมีเสน่ห์ดึงดูดใจ ด้วยแนวคิด “Aerodynamic Handling Stability” จากสนามแข่งรถมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างลักษณะของตัวรถ ใต้ท้องรถที่เรียบ ครีบระบายอากาศรอบตัวรถ เพื่อให้อากาศไหลผ่านตัวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภายนอกสปอร์ตจัดจ้าน โดยชุดไฟหน้า แบบ LED 3 ดวง รูปทรงตัว L ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไฟหน้าของเลกซัส LFA และรถซุปเปอร์คาร์ LF-LC พร้อมไฟ Daytime Running Lights แบบ LED รูปทรงตัว L กลมกลืนไปกับกันชนหน้า

ไฟท้ายประหยัดพลังงานแบบ LED โครงสร้างภายในพื้นผิวแบบสามมิติ ที่ส่องสว่างเป็นรูปตัว L ตลอดจนท่อไอเสียแบบคู่ออกแบบพิเศษ ที่โครงสร้างภายในของระบบท่อไอเสียยังช่วยลดเสียงขณะขับขี่ความเร็วต่ำและสร้างเสียงที่เร้าอารมณ์เมื่อเร่งเครื่อง รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 18นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/45R18

ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระดับเบิ้ลวิชโบนและระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงค์ ถูกปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ ครอบคลุมทั้งคอยล์สปริง เหล็กกันโคลงและบุช รวมทั้งโช้คอัพ เพื่อความสมบูรณ์แบบ ที่มากับระบบกันสะเทือนแบบแปรผัน Adaptive Variable Suspension System (AVS) ควบคุมการดูดซับแรงสะเทือนของโช๊คอัพทั้งสี่ล้อขณะขับขี่บนสภาพพื้นผิวถนนต่างๆ อย่างเต็มประสิทธิภาพ

อันสอดคล้องกับระบบเฟืองท้ายแบบ Torsen® LSD (Limited Slip Differential) ที่สุดแห่งสมรรถนะการขับเคลื่อนและการควบคุมรถ เพิ่มเสถียรภาพของการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยระบบจะกระจายกำลังไปที่ล้อซ้าย-ขวาแต่ละล้ออย่างเหมาะสม สร้างสมดุลของล้อทั้งสอง

ขณะที่การตกแต่งภายในเน้นความร่วมสมัย เติมเต็มความสุนทรีย์ด้วยไฟเรืองแสงที่ประตู และนาฬิกาแบบอนาล็อกสุดคลาสสิค ทั้งยังง่ายต่อการเข้าที่นั่งเบาะหลัง ด้วย One-touch walk-in Function ที่เบาะหน้าจะเลื่อนมาทางด้านหน้าโดยอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า เมื่อโยกคันโยกตรงบริเวณหัวไหล่ของพนักพิงเบาะหน้า และเบาะนั่งจะเคลื่อนคืนสู่ตำแหน่งเดิมเมื่อมีการยกพนักพิงขึ้น

หลังคามูนรูฟ ช่วยเพิ่มแสงสว่าง และอากาศที่สดชื่นในห้องโดยสาร ทั้งยังการออกแบบที่ช่วยให้มีพื้นที่เหนือศีรษะที่กว้าง เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ เปิด-ปิด ปรับขึ้น-ลงง่ายเพียงสัมผัสปุ่ม พร้อมระบบการทำงานที่เงียบด้วยมอเต

ระบบมัลติมีเดียที่แสดงผลผ่านจอ Electro Multi-Vision (EMV) ขนาด 7 นิ้ว บริเวณกึ่งกลางคอนโซลหน้า และจอแสดงผลแบบสี Thin Film Transistor (TFT) ขนาด 4.2 นิ้ว บริเวณมาตรวัด ควบคุมง่ายดายด้วยสวิตช์บนพวงมาลัย

จัดเต็มกับระบบเครื่องเสียง Mark Levinson Premium Surround Sound System มาพร้อมลำโพง 17 ตัว ด้วยระบบเซอร์ราวด์ 5.1 ให้เสียงละเอียดคมชัดสูง และเทคโนโลยี Signal Doctor



โดดเด่นด้วยหน้าปัดแสดงผลจอสีแบบเดี่ยว TFT ขนาด 8 นิ้ว ถ่ายทอดสายพันธุ์สปอร์ตจากซูเปอร์คาร์ LFA สามารถเปลี่ยนสีฟ้า ขาว หรือแดง ได้ตามต้องการ และเมื่อผู้ขับขี่เริ่มการทำงานของระบบมัลติมีเดีย วงแหวนของหน้าปัดจะเลื่อนไปข้างหน้าอัตโนมัติเพื่อแสดงผล

นวัตกรรมล่าสุดของระบบควบคุมอุณหภูมิ Electrostatic temperature control switches บริเวณคอนโซลกลาง ง่ายต่อการควบคุม ทำงานทันทีเพียงสัมผัสด้วยปลายนิ้ว สะดวกด้วยระบบแยกอิสระแยกปรับอุณหภูมิได้ระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ด้านความปลอดภัยใหม่ คือระบบ Pop Up Hood (PUH) เมื่อเซนเซอร์ที่ติดตั้งในกันชนหน้าตรวจพบการปะทะกับคน ฝากระโปรงหน้าจะยกตัวขึ้นทันที เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับแรงกระแทก ช่วยป้องกันการบาดเจ็บของคนเดินถนนในระดับสูงสุด

- ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน (Lane Departure Assist : LDA) ส่งสัญญานเตือนผู้ขับขี่บนจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ถ้าระบบตรวจพบว่ารถยนต์ขับข้ามเลนโดยไม่มีการเปิดไฟเลี้ยว

- ระบบปรับไฟหน้าอัตโนมัติ AHS (Automatic High-Beam System) ปรับไฟและกระจายแสงอัตโนมัติ เมื่อตรวจพบรถยนต์ที่วิ่งสวนมา หรือพบไฟท้ายของรถยนต์ด้านหน้า เพื่อวิสัยทัศน์ที่ดีที่สุด

- ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA (Blind Spot Monitor System และ Rear Cross Traffic Alert) สัญญาณเรดาร์แบบ Quasi-millimeter บริเวณกันชนหลังจะส่งสัญญาณเตือนหากพบรถที่วิ่งอยู่เลนข้างๆ ในตำแหน่งที่ไม่อาจสังเกตเห็นได้หรือพบสิ่งกีดขวางด้านหลังในขณะถอยรถ

- ถุงลมเสริมความปลอดภัยด้านหน้าแบบ Dual-stage SRS และแบบ SRS รวม 8 ตำแหน่ง ทั้งถุงลมเสริมความปลอดภัยแบบม่านที่หน้าต่างด้านข้างของตัวรถ

สำหรับ ราคา RC 200t รุ่น F-Sport เลกซัสตั้งไว้ 5,490,000บาท

แฟ้มภาพของ Lexus Rc F-Sport แต่เป็นรุ่น RC300







กำลังโหลดความคิดเห็น