xs
xsm
sm
md
lg

ครอสโอเวอร์2รุ่นใหม่จ่อบุกไทย ‘บีอาร์-วี’เจาะล่างบล็อก‘ซีเอ็กซ์-3’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ค่ายฮอนด้ากำลังประสบความสำเร็จกับการกวาดยอดขายจากรุ่น “เอชอาร์-วี” รถอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์ ซึ่งเป็นน้องรองของฮอนด้าในรถกลุ่มนี้ เพราะล่าสุดได้มีการเผยโฉมน้องเล็ก “ฮอนด้า บีอาร์-วี” ออกมายั่วแฟนๆ ในภูมิภาคอาเซียน ก่อนวางจำหน่ายจริงต้นปีหน้าเป็นต้นไป ทำให้กระแสของ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” ที่จ่อคิวรอเผยโฉมในไทยปลายปีนี้ถูกชิงไปพอสมควร...

การประกาศทำตลาดรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ของฮอนด้า เริ่มชัดเจนเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เมื่อมีการเผยภาพสเก็ตของ “ฮอนด้า บีอาร์-วี” (Honda BR-V) ออกมา ซึ่งเป็นรถที่พัฒนาที่ศูนย์การออกแบบของฮอนด้าในประเทศไทย โดยกำหนดเผยโฉมถูกล็อกไว้ในงานอินโดนีเซีย ออโตโชว์ 2015 ช่วงปลายเดือนสิงหาคมปีนี้ เพื่อทำการผลิตและวางจำหน่ายในอินโดนีเซียเป็นแห่งแรกของโลก และค่อยเป็นประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงเมืองไทยด้วย

จากรายงานข่าวรถรุ่นนี้ถูกพัฒนาบนพื้นฐานโครงสร้างตัวถังอีโคคาร์รุ่น “ฮอนด้า บริโอ้” ด้วยการขยายฐานล้อให้ยาวขึ้น โดยทำการออกแบบรูปลักษณ์หน้าตา และรูปแบบของรถให้มีความแตกต่างตามประเภทรถ เช่นเดียวกับที่พัฒนาในรถอเนกประสงค์แบบมินิเอ็พีวี “ฮอนด้า โมบิลิโอ” นั่นเอง
(ภาพจาก paultan.org)
ทั้งนี้ในที่สุดผู้ที่ติดตามข่าวสารแวดวงยานยนต์ คงจะได้เห็นรูปโฉมของ “ฮอนด้า บีอาร์-วี” ในงานอินโดนีเซีย ออโตโชว์ 2015 ที่เพิ่งจบไปแล้ว แม้จะเป็นรถโปรโตโทป์ก่อนจะเข้าสู่ไลน์ผลิตอย่างเป็นทางการก็ตาม ซึ่งคันจริงไม่น่าจะแตกต่างไปจากนี้มากนัก โดยฮอนด้าได้เปิดเผยรายละเอียดของเครื่องยนต์ อุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ และราคาเริ่มอยู่ที่ 230-265 ล้านรูเปียห์ หรือประมาณ 5.84-6.73 แสนบาท เพื่อเปิดให้ลูกค้าชาวอินโดนีเซียจองรถรุ่นนี้ในงานเป็นต้นไป ส่วนกำหนดการผลิตจะมีขึ้นที่โรงงานในอินโดนีเซียในเดือนมกราคมปีหน้า

สำหรับฮอนด้า บีอาร์-วี ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้นิยาม Tough และ Solid ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความแข็งแกร่งบึกบึน โดดเด่นกับไฟหน้าโปรเจคเตอร์ และไฟ LED รวมถึงไฟตัดหมอกในกรอบลวดลาย กลมกลืนลวดลายเดียวกับกระจังและกันชนหน้า พร้อมล้ออลูมิเนียมใหม่ขนาด 16 นิ้ว

ขุมพลังของฮอนด้า บีอาร์-วี วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียรธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ CVT ภายใต้เทคโนโลยี Earth Dreams ของฮอนด้าที่ช่วยเรื่องประหยัดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
(ภาพจาก paultan.org)
แม้จะเป็นครอสโอเวอร์รุ่นเล็ก แต่มีรายงานข่าวว่ามิติตัวถังใหญ่กว่าเอชอาร์-วีเกือบทุกส่วน(ยกเว้นความกว้าง) กับขนาดความยาว 4,455 มม. กว้าง 1,735 มม. สูง 1,650 มม. และระยะฐานล้อ 2,660 มม. ทำให้ห้องโดยสารของบีอาร์-วีค่อนข้างนั่งสบาย ไม่ว่าจะการวางเท้า หรือความสูงระหว่างเพดานกับศรีษะของผู้โดยสาร ด้วยการออกแบบผสมผสานระหว่างรถครอสโอเวอร์ และเอ็มพีวี กับเบาะที่นั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีช่องแอร์แยกระหว่างผู้โดยสารด้านหน้าและเบาะหลัง พร้อมความหรูหรากับหน้าจอสัมผัสขนาด 6 นิ้ว และจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID

ในส่วนของระบบความปลอดภัย ฮอนด้าจัดมาให้เต็มตามมาตรฐานของรถทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว (VSA) และระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน(HSA)

จากข้อมูลที่เปิดเผยออกมา จะเห็นว่า “ฮอนด้า บีอาร์-วี” เป็นตัวเล็กมาเสริมตลาดรุ่นพี่ ซึ่งทำให้ครอสโอเวอร์ของฮอนด้ามีให้เลือก 3 โมเดล โดยบีอาร์-วีจะจับกลุ่มเริ่มต้นราคาระดับ 6-8 แสนบาท ขณะที่รุ่นเอชอาร์-วีจะเป็นกลุ่มสปอร์ตครอสโอเวอร์ที่มีราคา 9 แสนบาท ถึงกว่า 1 ล้านบาทต้นๆ และรุ่นซีอาร์-วีจะจับกลุ่มบนระดับ 1.2-1.6 ล้านบาท

โดยในไทยแม้จะยังไม่มีการยืนยันเปิดตัวรถรุ่นนี้ แต่มีรายงานข่าวว่าจะวางตลาดรุ่นบีอาร์-วีในปีหน้าแน่นอน และนั่นจะทำให้ฮอนด้าเป็นค่ายที่มีรถครอสโอเวอร์ ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากที่สุดในปัจจุบัน นับเป็นการบล็อกคู่แข่งในทุกจุด รวมถึงโมเดลใหม่อีกรุ่น “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” (Mazda CX-3) ที่เตรียมจะเผยโฉมในไทยปลายปีนี้

มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 กระแสค่อนข้างแรงทีเดียวในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวจะวางตลาดในไทยปลายปีนี้ และในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จะนำสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งไปทดสอบรถรุ่นนี้ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งซีเอ็กซ์ 3 เป็นครอสโอเวอร์ที่พัฒนาบนพื้นตัวถังของอีโคคาร์ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตในปัจจุบัน

ซีเอ็กซ์-3 มากับความยาวตัวถัง 4,275 มม. กว้าง 1,765 มิลลิเมตร และสูง 1,550 มิลลิเมตร โดยที่มีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,570 มิลลิเมตร ช่วยเพิ่มความกว้างขวางทั้งพื้นที่ในส่วนของห้องโดยสาร และพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ ขณะที่เบาะนั่งมีการจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยเฉพาะฝั่งคนขับซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่สูง ช่วยทัศนวิสัยในการมองด้านหน้าที่ดี ตลอดจนอำนวยความสะดวกด้วยระบบเชื่อมต่อสื่อสาร ผสานการทำงานกับสมาร์ทโฟน Mazda Connect และระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE

แน่นอนมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ย่อมมากับเทคโนโลยี SKYACTIV ทั้งในส่วนของแชสซีส์ โดยระบบกันสะเทือนด้านหน้า และหลังได้รับการปรับเซ็ตมาอย่างเหมาะสม ในแง่ของการยึดเกาะถนน และการดูดซับแรงกระแทก เช่นเดียวกับโครงสร้างตัวถังที่มีการใช้เหล็กกล้าที่มีความทนทานสูงในการผลิตตัวถัง

นอกจากนี้ยังรวมถึงขุมพลังเครื่องยนต์ Skyactiv โดยในญี่ปุ่นมีมาให้เลือก 2 บล็อก เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร มีให้เลือก 2 พลัง ระหว่าง 118 แรงม้า และ 163 แรงม้า  ส่วนอีกรุ่นเป็นเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D เทอร์โบ 1.5 ลิตร 104 แรงม้า ซึ่งจากกระแสข่าวในเมืองไทย เบื้องต้นจะเริ่มทำตลาดเพียงรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเป็นหลัก โดยทุกรุ่นติดตั้งระบบส่งกำลัง Skyactive - Drive มีให้เลือกทั้งระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด  ส่วนระบบขับเคลื่อนมีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ(AWD)

แม้กระแสช่วงที่ผ่านมาของ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” จะแรงมาก แต่เมื่อเจอกลยุทธ์ของฮอนด้าแบบนี้คงเคลื่อนไหวลำบาก รวมถึงรถรุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต และนิสสัน จู๊ค เพราะล้วนถูกประกบล็อกบน-ล่างจากค่ายฮอนด้าไว้หมด?!...

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring

กำลังโหลดความคิดเห็น