xs
xsm
sm
md
lg

“เชลล์” ปั้นนักบิดสู่นักแข่งอาชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เข้าสู่ปีที่ 2 ของรายการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ “เอเชีย ทาเลนท์ คัพ 2015” (Asia Talent Cup หรือ ATC 2015) โปรเจกต์ใหญ่ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยเชลล์ แอ๊ดว้านซ์ ซึ่งหวังให้เป็นจุดเริ่มต้นในการป้อนนักบิดเข้าสู่การแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับโลก

วัตถุประสงค์หลักของ ATC 2015 มีเป้าหมายอยู่ที่การจัดแข่งขันอย่างเป็นทางการ ให้กับเยาวชนที่มีทักษะการขับขี่สูงจากภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อเปิดเวทีให้กับนักบิดรุ่นเยาว์ได้เสริมสร้างศักยภาพของตัวเองพร้อมพัฒนาไปสู่นักแข่งอาชีพ

อัลเบอร์โต พุค สอนทักษะติวเข้มเป็นรายบุคคล
ภายใต้การบริหารงานบางส่วนโดยแมวมองชื่อดัง อัลเบอร์โต พุค (Alberto Puig) ผู้เป็นหนึ่งของแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในรายการแข่งสองล้อระดับโลก “โมโตจีพี” (MotoGP) อีกทั้งเคยเป็นผู้รับผิดชอบดูแลนักแข่งที่มีความสามารถอย่าง เคซีย์ สโตนเนอร์ (Casey Stoner) และดานี่ เปโดรซา (Dani Pedrosa) สองสิงห์นักซิ่งฝีมือฉกาจที่สาวกกีฬามอเตอร์สปอร์ตรู้จักกันดี

สำหรับการแข่งขันในปี 2015 จะมีนักแข่งดาวรุ่งจากทั้งเอเชียและออสเตรเลียจำนวนทั้งสิ้น 22 คน โดยมีทั้งนักแข่งที่เคยเข้าร่วมแข่งขันในปี 2014 และนักแข่งรุ่นใหม่ที่ผ่านการคัดเลือกมาจากช่วงปลายปีที่แล้ว ซึ่งบรรดาว่าที่นักบิดที่จะแจ้งเกิดในการแข่งขันครั้งนี้มีอายุระหว่าง 13 - 21 ปี จะร่วมลงแข่งใน 6 สนาม จำนวน 12 เรซ (สนามละ 2 เรซ) ได้แก่ 1.ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศไทย 2.โลเซล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ 3.เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย 4.จูไห่ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศจีน 5.ทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น และ 6.สังเวียนสุดท้ายจะวนกลับมาตัดสินแชมป์กันที่สนามเซปังฯ ประเทศมาเลเซีย
โฉมหน้าว่าที่นักแข่งหน้าใหม่ในเวทีระดับโลก
ฮอนด้า NSF 250R
ส่วนม้าศึกที่ใช้เป็นหน้าที่ของฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์เปอร์เรชั่น (Honda Racing Corporation) ในฐานะเป็นหนึ่งพันธมิตรหลักของเชลล์ แอ๊ดว้านซ์ เอเชีย ทาเลนท์ คัพ ซึ่งรับหน้าเสื่อในการจัดเตรียมรถจักรยานยนต์และอะไหล่ให้กับนักแข่ง โดยเลือกตัวแรง รุ่น NSF 250R หรือเป็นตัวแข่งเดียวกับรุ่นโมโตทรี

ตามสเปกใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ 4 จังหวะ สูบเดียว ปริมาตรความจุ 249.3 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด เฟรมอลูมิเนียมน้ำหนักเบา โช้กหน้าหัวกลับ ด้านหลังสวิงอาร์มโช้กเดี่ยว ระบบเบรก ดิสก์หน้า-หลัง ประกบคาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ และ 1 ลูกสูบ ตามลำดับ ขนาดวงล้อ 17 นิ้ว ยางหน้าไซส์ 90/580 R17 และยางหลัง 120/600 R17

นอกจากนี้ยังใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเชลล์ วี-เพาเวอร์ และน้ำมันเครื่องเชลล์ แอ๊ดว้านซ์ 4ที อัลตร้า ที่พัฒนาจากเพียวพลัส เทคโนโลยี ซึ่งจะเปิดตัวทำตลาดในบ้านเราเร็วๆ นี้ด้วย

ก้อง-สมเกียรติ จันทรา ได้เฮก่อนในเรซแรกที่บุรีรัมย์
“หนึ่งปีผ่านไป เราได้เห็นพัฒนาการที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ ของเรามาก โดยเฉพาะนักแข่งจากประเทศไทยที่สามารถคว้าชัยสองเรซแรกในสนามบ้านเกิด” อัลเบอร์โต เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

โดยเยาวชนคนเก่งที่เขากล่าวถึงคือ “ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร” และ “ก้อง-สมเกียรติ จันทรา” สองดาวรุ่งที่ทำผลงานได้ไม่ค่อยดีในปีแรก แต่ครั้งนี้สามารถผลัดกันชนะเลิศในนัดเปิดฤดูกาลที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ขณะที่น้องใหม่ “บู-สิทธิพร ศรีมูลตรี” แม้เพิ่งประเดิมร่วมการแข่งขันแต่สามารถเก็บแต้มได้ในเรซแรกที่ลงสนาม จึงถือว่าฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดาเหมือนกัน
ตามด้วย ชิพ-นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร ในเรซที่สอง
บู-สิทธิพร ศรีมูลตรี ประเดิมรายการในต่างประเทศครั้งแรก
ขณะที่ผลงานในภาพรวมหลังจบการแข่งขันไปสองสนามที่ไทยและกาตาร์ คะแนนสะสมอันดับที่หนึ่งเป็นของนักบิดจากแดนอาทิตย์อุทัย “อายูมุ ซาซากิ” มี 76 คะแนน ส่วนอันดับที่สอง ได้แก่ “สมเกียรติ จันทรา” มี 61 คะแนน และอันดับที่สาม “มาซากิ คาซูกิ” มี 52 คะแนน ด้าน “นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร” อยู่ในอันดับที่ห้า มี 46 คะแนน และ “สิทธิพร ศรีมูลตรี” อยู่ในอันดับที่สิบแปดมี 1 คะแนน

ทั้งนี้ สังเวียนปั้นนักบิดสู่นักแข่งอาชีพสนามต่อไป มีคิวดวลความเร็วกันในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring

กำลังโหลดความคิดเห็น