ระอุดุเดือดขึ้นเรื่อยๆสำหรับตลาดเอสยูวีเมืองไทย หรือที่สมัยนี้ค่ายรถยนต์มักเรียกกันว่า “ครอสโอเวอร์” ด้วยทางเลือกมากมายหลายยี่ห้อ ระดับราคาตั้งแต่ 7 แสนไปจนถึงล้านปลายๆ (ไม่นับกลุ่มรถหรู เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู วอลโว่ ฯ) ที่ไม่เคยมีก็มาอย่าง ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต,นิสสัน จู๊ค,ฮอนด้า เอชอาร์-วี สมทบกับสังเวียนหลักอย่าง ฮอนด้า ซีอาร์-วี,เชฟโรเลต แคปติวา,มาสด้า ซีเอ็กซ์-5,ซูบารุ เอ็กซ์วี และเพิ่งโมเดลเชนจ์ไปหมาดๆ นิสสัน เอ็กซ์เทรล


แน่นอนว่าเจ้าตลาดที่เคยกินยอดขายนิ่มๆ อย่าง “ฮอนด้า ซีอาร์-วี” คงอยู่เฉยไม่ได้ละครับในสถานการณ์ที่คู่แข่งมาเพียบ แถมจัดเต็มกันทุกยี่ห้อ ดังนั้นปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้วจึงจัดการปล่อยรุ่นไมเนอร์เชนจ์ลงสู่ตลาด ซึ่งถือเป็นการปาดหน้า นิสสัน เอ็กซ์เทรล ที่จัดงานเปิดตัว18 พฤศจิกายน
แต่กระนั้นการรับรู้ในเชิงข่าวของ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี ไมเนอร์เชนจ์” อาจจะไม่ดังเปรี้ยงปร้าง เพราะฮอนด้าเองไม่ได้จัดงานแถลงข่าว พร้อมความชุลมุนของรถใหม่หลายรุ่นในช่วงปลายปี และที่สำคัญถนนทุกสายยังมุ่งไปที่(ราคา)ของเอสยูวีรุ่นน้อง “เอชอาร์-วี” ที่กำลังจะเปิดตัวเสียมากกว่า
สำหรับ“ฮอนด้า ซีอาร์-วี ไมเนอร์เชนจ์” ผู้เขียนได้ตัวท็อป 2.4EL 4WD มาลองขับเมื่อไม่นานมานี้ครับ การเปลี่ยนแปลงภายนอกไล่ตั้งแต่ กระจังหน้า กันชนหน้าดูดุดันขึ้น โคมไฟหน้าแต้มด้วยไฟขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Light) เช่นเดียวกับกันชนหลังออกแบบใหม่ พร้อมตัดสีด้วยแผงรีดลมด้านล่าง รวมถึงคิ้วฝากระโปรงท้ายแบบโครเมียม ขณะที่ล้ออัลลอย 18 นิ้วลายใหม่ดูกลมกลืนกับการเปลี่ยนแปลงโดยรวม
ภายในเสริมออปชันเหมือนที่มีในแอคคอร์ดครับ ด้วยระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ และเพิ่มม่านถุงลมด้านข้างมาให้ (Side Curtain Airbags)
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร i-VTEC DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว รุ่นใหม่ ซึ่งฮอนด้าเกี่ยวเอาคำว่าพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีมมาใช้ โดยให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 5 แรงม้า) ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสด 225 นิวตัน-เมตร (เพิ่ม 5 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังในบล็อก 2.4 ลิตรจะหันมาใช้อัตโนมัติ CVT 7 สปีด แทนอัตโนมัติ 5 สปีดเดิม (แต่รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรยังใช้อยู่) ซึ่งฮอนด้าน่าจะหวังอัตราบริโภคน้ำมันที่เป็นมิตรมากขึ้น


โดยการทดสอบของผู้เขียน ลองวัดตัวเลขการขับขี่ทางไกลไปต่างจังหวัด ใช้ความเร็ว120 กม./ชม.เป็นหลัก(เพิ่ม-ลดตามสภาพการจราจร) สุดท้ายผ่านไปประมาณ 100 กม. หน้าจอยังแสดงตัวเลข 13-14 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าดีกว่าเดิมเล็กน้อย(รุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ขับลักษณะนี้ไม่มีทางเห็นตัวเลข 14 แน่ๆ) ขณะที่การขับใช้ในเมืองการจราจรหนาแน่นรถติดเป็นระยะ ผลลัพธ์ออกมาแถวๆ 11-12 กม./ลิตร
ขณะเดียวกันขุมพลังใหม่ เมื่อประกบเกียร์ CVT สมรรถนะยังยอดเยี่ยม ทั้งการออกตัว และอัตราเร่งในทุกย่านความเร็ว ยิ่งขับๆไปจะรู้สึกถึงพลังที่สามารถปลดปล่อยออกมาได้แบบเหลือกินเหลือใช้ ทันใจทุกการกดคันเร่ง ส่วนแพดเดิ้ลชิฟท์หลังพวงมาลัยเมื่อเลือกเล่นได้ถึง 7 สปีด ย่อมสนุกมือกว่า 5 สปีดเดิมแน่ๆ
เกียร์ CVT ลูกนี้ พอมาเจอเครื่องยนต์ใหญ่ๆ ถือว่าให้การตอบสนองดีเกินคาด เมื่อเรียนรู้จังหวะกันสักพัก รถเปลี่ยนบุคลิกจากอีกคันเป็นอีกคันได้เลย หรือใครไม่อยากเมื่อยมือเปลี่ยนเกียร์แต่อยากได้ความเร้าใจก็ผลักคันเกียร์ลงมาที่ตำแหน่ง S รอบเครื่องยนต์จะดีดขึ้นไปรออยู่แถวๆ 3,000 รอบ ทีนี้ก็รอรับอัตราเร่งแบบพลุ่งพล่านได้เลย
การทรงตัวในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ รถนิ่งและให้ความมั่นใจเมื่อขับความเร็วสูง อาการโยนตัวขณะเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนกะทันหันพบได้น้อย เรียกว่าไม่มีย้วยหรือจะออกแนวหนึบแข็งนิดๆด้วยซ้ำ สอดคล้องกับการควบคุมผ่านพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ความแม่นยำในจังหวะสั่งงานซ้าย-ขวา วงเลี้ยวกระชับ ส่วนทางตรงก็กำได้สบายไม่เครียด
ผู้เขียนยังชอบในความอเนกประสงค์ของฮอนด้า ซีอาร์-วี กับระบบพับเบาะนั่งแถวสองให้ราบเรียบไปกับพื้นที่เก็บสำภาระด้านหลัง เพียงดึงมือโยกครั้งเดียว ซึ่งฮอนด้าเรียกว่า (One Motion) ลองทำแล้วติดใจในความสามารถครับ พร้อมขนจักรยานไซส์ใหญ่ 2-3 คันได้สบาย (วางนอนไม่ต้องถอดล้อ) ซึ่งพื้นที่เก็บของด้านหลังอันมโหฬารของเอสยูวี 5 ที่นั่งรุ่นนี้นับเป็นจุดเด่นกว่าคู่แข่งทั้งปวง (ส่วนเอสยูวี 7 ที่นั่งก็ได้อย่างเสียอย่าง)



ในตำแหน่งนั่งของผู้โดยสารด้านหลังยืดแข้งขาสบาย ช่องแอร์ด้านหลังให้พลังลมพร้อมความเย็นช่ำ พื้นด้านล่างเรียบไม่มีอุโมงค์มาเกะกะเท้าจะวางของหรือลุกเข้า-ออกเปลี่ยนตำแหน่งนั่งทำได้คล่องตัว เพียงแต่ติดใจตรงพนักพิงเหมือนจะชันไปนิดสัมผัสไม่ค่อยละมุนแผ่นหลัง
รวบรัดตัดความ...ฮอนด้า ซีอาร์-วี ครองเจ้าตลาดคอมแพกต์เอสยูวีเมืองไทยมาหลายสมัย แต่หลังๆสถานการณ์ไม่ค่อยชิลเหมือนเดิม เพราะโดนประกบด้วยคู่แข่งมากหน้าหลายตา ทั้ง สกายแอคทีฟของ ซีเอ็กซ์-5 ก็จัดเต็ม เอ็กซ์เทรล ก็ระดมออปชันจนอดใจไม่ไหว ขณะที่ ซูบารุ เอ็กซ์วี เพิ่งปรับราคาลงมาสู้แบบสุดๆ ซึ่งแต่ละรุ่นมีความโดดเด่นแตกต่างในแบบฉบับของตนเอง
การไมเนอร์เชนจ์ของซีอาร์-วี เจเนอเรชันที่4 แสดงให้เห็นถึงการออกตัวปกป้องสถานะและไม่ยอมหล่นบัลลังก์ในสังเวียนนี้ง่ายๆ การปรับสมรรถนะให้ขับดีและกินน้ำมันน้อยลง ด้วยเครื่องยนต์และเกียร์ใหม่ การทรงตัวแน่น ออปชันพยายามจัดมาไม่ให้น้อยหน้าผู้มาใหม่ พร้อมความอเนกประสงค์ในสไตล์เอสยูวี 2 แถว 5 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม รุ่นย่อยนี้น่าจะตอบโจทย์ภาพลักษณ์ของแบรนด์(ใส่มาแต่ของดีๆ)มากกว่ายอดขาย โดยราคาปรับเพิ่มจากเดิม56,000 บาท เป็น 1.58 ล้านบาท








แน่นอนว่าเจ้าตลาดที่เคยกินยอดขายนิ่มๆ อย่าง “ฮอนด้า ซีอาร์-วี” คงอยู่เฉยไม่ได้ละครับในสถานการณ์ที่คู่แข่งมาเพียบ แถมจัดเต็มกันทุกยี่ห้อ ดังนั้นปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้วจึงจัดการปล่อยรุ่นไมเนอร์เชนจ์ลงสู่ตลาด ซึ่งถือเป็นการปาดหน้า นิสสัน เอ็กซ์เทรล ที่จัดงานเปิดตัว18 พฤศจิกายน
แต่กระนั้นการรับรู้ในเชิงข่าวของ “ฮอนด้า ซีอาร์-วี ไมเนอร์เชนจ์” อาจจะไม่ดังเปรี้ยงปร้าง เพราะฮอนด้าเองไม่ได้จัดงานแถลงข่าว พร้อมความชุลมุนของรถใหม่หลายรุ่นในช่วงปลายปี และที่สำคัญถนนทุกสายยังมุ่งไปที่(ราคา)ของเอสยูวีรุ่นน้อง “เอชอาร์-วี” ที่กำลังจะเปิดตัวเสียมากกว่า
สำหรับ“ฮอนด้า ซีอาร์-วี ไมเนอร์เชนจ์” ผู้เขียนได้ตัวท็อป 2.4EL 4WD มาลองขับเมื่อไม่นานมานี้ครับ การเปลี่ยนแปลงภายนอกไล่ตั้งแต่ กระจังหน้า กันชนหน้าดูดุดันขึ้น โคมไฟหน้าแต้มด้วยไฟขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Light) เช่นเดียวกับกันชนหลังออกแบบใหม่ พร้อมตัดสีด้วยแผงรีดลมด้านล่าง รวมถึงคิ้วฝากระโปรงท้ายแบบโครเมียม ขณะที่ล้ออัลลอย 18 นิ้วลายใหม่ดูกลมกลืนกับการเปลี่ยนแปลงโดยรวม
ภายในเสริมออปชันเหมือนที่มีในแอคคอร์ดครับ ด้วยระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ และเพิ่มม่านถุงลมด้านข้างมาให้ (Side Curtain Airbags)
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร i-VTEC DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว รุ่นใหม่ ซึ่งฮอนด้าเกี่ยวเอาคำว่าพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีมมาใช้ โดยให้กำลังสูงสุด 175 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 5 แรงม้า) ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสด 225 นิวตัน-เมตร (เพิ่ม 5 นิวตัน-เมตร) ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังในบล็อก 2.4 ลิตรจะหันมาใช้อัตโนมัติ CVT 7 สปีด แทนอัตโนมัติ 5 สปีดเดิม (แต่รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรยังใช้อยู่) ซึ่งฮอนด้าน่าจะหวังอัตราบริโภคน้ำมันที่เป็นมิตรมากขึ้น
โดยการทดสอบของผู้เขียน ลองวัดตัวเลขการขับขี่ทางไกลไปต่างจังหวัด ใช้ความเร็ว120 กม./ชม.เป็นหลัก(เพิ่ม-ลดตามสภาพการจราจร) สุดท้ายผ่านไปประมาณ 100 กม. หน้าจอยังแสดงตัวเลข 13-14 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าดีกว่าเดิมเล็กน้อย(รุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ขับลักษณะนี้ไม่มีทางเห็นตัวเลข 14 แน่ๆ) ขณะที่การขับใช้ในเมืองการจราจรหนาแน่นรถติดเป็นระยะ ผลลัพธ์ออกมาแถวๆ 11-12 กม./ลิตร
ขณะเดียวกันขุมพลังใหม่ เมื่อประกบเกียร์ CVT สมรรถนะยังยอดเยี่ยม ทั้งการออกตัว และอัตราเร่งในทุกย่านความเร็ว ยิ่งขับๆไปจะรู้สึกถึงพลังที่สามารถปลดปล่อยออกมาได้แบบเหลือกินเหลือใช้ ทันใจทุกการกดคันเร่ง ส่วนแพดเดิ้ลชิฟท์หลังพวงมาลัยเมื่อเลือกเล่นได้ถึง 7 สปีด ย่อมสนุกมือกว่า 5 สปีดเดิมแน่ๆ
เกียร์ CVT ลูกนี้ พอมาเจอเครื่องยนต์ใหญ่ๆ ถือว่าให้การตอบสนองดีเกินคาด เมื่อเรียนรู้จังหวะกันสักพัก รถเปลี่ยนบุคลิกจากอีกคันเป็นอีกคันได้เลย หรือใครไม่อยากเมื่อยมือเปลี่ยนเกียร์แต่อยากได้ความเร้าใจก็ผลักคันเกียร์ลงมาที่ตำแหน่ง S รอบเครื่องยนต์จะดีดขึ้นไปรออยู่แถวๆ 3,000 รอบ ทีนี้ก็รอรับอัตราเร่งแบบพลุ่งพล่านได้เลย
การทรงตัวในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ รถนิ่งและให้ความมั่นใจเมื่อขับความเร็วสูง อาการโยนตัวขณะเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนกะทันหันพบได้น้อย เรียกว่าไม่มีย้วยหรือจะออกแนวหนึบแข็งนิดๆด้วยซ้ำ สอดคล้องกับการควบคุมผ่านพวงมาลัยผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ความแม่นยำในจังหวะสั่งงานซ้าย-ขวา วงเลี้ยวกระชับ ส่วนทางตรงก็กำได้สบายไม่เครียด
ผู้เขียนยังชอบในความอเนกประสงค์ของฮอนด้า ซีอาร์-วี กับระบบพับเบาะนั่งแถวสองให้ราบเรียบไปกับพื้นที่เก็บสำภาระด้านหลัง เพียงดึงมือโยกครั้งเดียว ซึ่งฮอนด้าเรียกว่า (One Motion) ลองทำแล้วติดใจในความสามารถครับ พร้อมขนจักรยานไซส์ใหญ่ 2-3 คันได้สบาย (วางนอนไม่ต้องถอดล้อ) ซึ่งพื้นที่เก็บของด้านหลังอันมโหฬารของเอสยูวี 5 ที่นั่งรุ่นนี้นับเป็นจุดเด่นกว่าคู่แข่งทั้งปวง (ส่วนเอสยูวี 7 ที่นั่งก็ได้อย่างเสียอย่าง)
ในตำแหน่งนั่งของผู้โดยสารด้านหลังยืดแข้งขาสบาย ช่องแอร์ด้านหลังให้พลังลมพร้อมความเย็นช่ำ พื้นด้านล่างเรียบไม่มีอุโมงค์มาเกะกะเท้าจะวางของหรือลุกเข้า-ออกเปลี่ยนตำแหน่งนั่งทำได้คล่องตัว เพียงแต่ติดใจตรงพนักพิงเหมือนจะชันไปนิดสัมผัสไม่ค่อยละมุนแผ่นหลัง
รวบรัดตัดความ...ฮอนด้า ซีอาร์-วี ครองเจ้าตลาดคอมแพกต์เอสยูวีเมืองไทยมาหลายสมัย แต่หลังๆสถานการณ์ไม่ค่อยชิลเหมือนเดิม เพราะโดนประกบด้วยคู่แข่งมากหน้าหลายตา ทั้ง สกายแอคทีฟของ ซีเอ็กซ์-5 ก็จัดเต็ม เอ็กซ์เทรล ก็ระดมออปชันจนอดใจไม่ไหว ขณะที่ ซูบารุ เอ็กซ์วี เพิ่งปรับราคาลงมาสู้แบบสุดๆ ซึ่งแต่ละรุ่นมีความโดดเด่นแตกต่างในแบบฉบับของตนเอง
การไมเนอร์เชนจ์ของซีอาร์-วี เจเนอเรชันที่4 แสดงให้เห็นถึงการออกตัวปกป้องสถานะและไม่ยอมหล่นบัลลังก์ในสังเวียนนี้ง่ายๆ การปรับสมรรถนะให้ขับดีและกินน้ำมันน้อยลง ด้วยเครื่องยนต์และเกียร์ใหม่ การทรงตัวแน่น ออปชันพยายามจัดมาไม่ให้น้อยหน้าผู้มาใหม่ พร้อมความอเนกประสงค์ในสไตล์เอสยูวี 2 แถว 5 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม รุ่นย่อยนี้น่าจะตอบโจทย์ภาพลักษณ์ของแบรนด์(ใส่มาแต่ของดีๆ)มากกว่ายอดขาย โดยราคาปรับเพิ่มจากเดิม56,000 บาท เป็น 1.58 ล้านบาท