วันนี้(17 พ.ย.) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ “เอชอาร์- วี ” (HR-V) โดยวางตำแหน่งให้เป็นสปอร์ตครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม พร้อมออปชันอย่าง ไฟขับขี่เวลากลางวัน หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา เบรกมือไฟฟ้า ส่วนเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร 141 แรงม้า ประกบเกียร์ CVT รองรับแก็สโซฮอล์ E85 แบ่งเป็น 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่ม 8.90 แสนบาท ตัวท็อป 1.045 ล้านบาท ตั้งเป้าขาย 20,000 คันต่อปี
สำหรับฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ เปิดตัวสู่ตลาดเป็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2556 ภายใต้ชื่อ ฮอนด้า วีเซล โดยได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 1 แสนคัน ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ตามมาด้วยประเทศจีน และประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ของโลก และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ผลิตและเปิดจำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้
แนวคิดในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์คันนี้ ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของรถสปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ เอสยูวี และได้เพิ่มความสปอร์ตปราดเปรียวในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ ผสานกับฟังก์ชั่นการใช้งานแบบอเนกประสงค์ในสไตล์รถมินิแวน
รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นในทุกมิติ ด้วยรูปทรงตัวถังที่ปราดเปรียว เสริมความรู้สึกแข็งแกร่ง ทรงพลัง ด้วยตัวถังด้านล่าง มาพร้อมเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวรอบคัน ลงตัวกับมือจับเปิดประตูด้านหลังในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ และกระจังหน้าได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด Solid Wing Face เสริมด้วยโทนสีดำ ผสานความรู้สึกเหนือระดับด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) พร้อมระบบเปิดปิดแบบ One-Touch ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED แบบ Tube
การออกแบบภายใน เน้นความกว้างขวาง โปร่งโล่งของพื้นที่เหนือแผงคอนโซล ผสานกับคอนโซลกลางแบบ 2 ชั้นที่ถูกออกแบบให้มาพร้อมกับภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ต พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีทั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส มาตรวัดเรืองแสงปรับเปลี่ยนได้ 7 สี พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด ช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง
พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (One Push Ignition System) และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) โดดเด่นด้วยห้องสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่ปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode เพื่อตอบรับทุกการใช้งาน
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ วางเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที รองรับพลังงานทางเลือก E85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม และตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
ฮอนด้าจัดมาตรฐานความปลอดภัยในทุกรุ่น อาทิ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ที่ใช้งานง่ายเพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) ที่จะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้
ตลอดจนระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) เสริมด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) และระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมด้านคนขับอัจฉริยะ (i-SRS) ถุงลมด้านผู้โดยสารด้านหน้า (SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ (i-Side Airbags) ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
โดยเอชอาร์-วี มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น S ราคา 890,000 บาท รุ่น E ราคา 975,000 บาท และรุ่น EL ราคา 1,045,000 บาท โดยมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีขาวออร์คิด (มุก) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) และ 2 สีใหม่ คือ สีเทารูสแบล็ค (เมทัลลิก) สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก) โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ 20,000 คันต่อปี
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
สำหรับฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ เปิดตัวสู่ตลาดเป็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2556 ภายใต้ชื่อ ฮอนด้า วีเซล โดยได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 1 แสนคัน ภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี ตามมาด้วยประเทศจีน และประเทศไทยเป็นประเทศที่ 3 ของโลก และเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ผลิตและเปิดจำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้
แนวคิดในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์คันนี้ ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของรถสปอร์ตอเนกประสงค์ หรือ เอสยูวี และได้เพิ่มความสปอร์ตปราดเปรียวในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ ผสานกับฟังก์ชั่นการใช้งานแบบอเนกประสงค์ในสไตล์รถมินิแวน
รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบให้มีความโดดเด่นในทุกมิติ ด้วยรูปทรงตัวถังที่ปราดเปรียว เสริมความรู้สึกแข็งแกร่ง ทรงพลัง ด้วยตัวถังด้านล่าง มาพร้อมเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวรอบคัน ลงตัวกับมือจับเปิดประตูด้านหลังในสไตล์รถสปอร์ตคูเป้ และกระจังหน้าได้รับการออกแบบด้วยแนวคิด Solid Wing Face เสริมด้วยโทนสีดำ ผสานความรู้สึกเหนือระดับด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) พร้อมระบบเปิดปิดแบบ One-Touch ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้าย LED แบบ Tube
การออกแบบภายใน เน้นความกว้างขวาง โปร่งโล่งของพื้นที่เหนือแผงคอนโซล ผสานกับคอนโซลกลางแบบ 2 ชั้นที่ถูกออกแบบให้มาพร้อมกับภาพลักษณ์สไตล์สปอร์ต พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีทั้งระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส มาตรวัดเรืองแสงปรับเปลี่ยนได้ 7 สี พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ช่องเชื่อมต่อ USB 2 จุด ช่องเชื่อมต่อ HDMI และช่องจ่ายไฟสำรอง
พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ (One Push Ignition System) และระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) โดดเด่นด้วยห้องสัมภาระด้านท้ายขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่ปรับพับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Utility Mode, Tall Mode และ Long Mode เพื่อตอบรับทุกการใช้งาน
ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ วางเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที รองรับพลังงานทางเลือก E85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม และตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
ฮอนด้าจัดมาตรฐานความปลอดภัยในทุกรุ่น อาทิ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ที่ใช้งานง่ายเพียงดึงสวิตช์ที่คอนโซลกลางขึ้นเมื่อต้องการใช้เบรกมือ และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) ที่จะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง ช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้
ตลอดจนระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) เสริมด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) และระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมด้านคนขับอัจฉริยะ (i-SRS) ถุงลมด้านผู้โดยสารด้านหน้า (SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ (i-Side Airbags) ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
โดยเอชอาร์-วี มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น S ราคา 890,000 บาท รุ่น E ราคา 975,000 บาท และรุ่น EL ราคา 1,045,000 บาท โดยมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีขาวออร์คิด (มุก) และสีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) และ 2 สีใหม่ คือ สีเทารูสแบล็ค (เมทัลลิก) สีน้ำเงินมอร์ฟโฟ (มุก) โดยฮอนด้าตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ 20,000 คันต่อปี
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring