คึกคักครึกครื้นตั้งแต่ต้นปีกับ BMW xDrive Xperience 2015 งานแสดงศักยภาพของรถประเภทเอสยูวี หรือที่บีเอ็มดับเบิลยูเรียกว่า “เอสเอวี” (SAV - Sports Activity Vehicle) นั่นละครับ โดยจัดการทดสอบผ่านสองโมเดลหลักอย่าง X3 และX5
ผู้เขียนมีโอกาสไปร่วมงานเมื่อวานนี้(19 ม.ค.) ที่ ไทยโปโลคลับ พัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งหลังจากเสร็จรอบสื่อมวลชนแล้ว บีเอ็มดับเบิลยูยังเชิญลูกค้าคนสำคัญให้มาเปิดประสบการณ์การขับขี่ในงานดังกล่าวอีกด้วย
…ลูกค้าเก่าจะเห็นและได้ทดสอบสมรรถนะของรถอย่างเต็มที่ ส่วนลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเมื่อได้ลองขับพร้อมเรียนรู้ออปชันต่างๆแล้ว อยากจะซื้อมาครอบครองก็ไม่ว่ากัน
แน่นอนว่าออปชันหลักๆ ที่บีเอ็มดับเบิลยูต้องการสื่อสารนั่นคือ xDrive ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่อยู่ใน X3 xDrive20d และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport
โดยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive การขับใช้ในสถานการณ์ปกติจะกระจายกำลังไปล้อคู่หน้าและหลังในอัตราส่วน 40:60 ครับ แต่เมื่อสภาพการขับขี่เปลี่ยนไปจะปรับการทำงานด้วยการกระจายแรงขับระหว่างล้อหน้าและล้อหลังแบบอัตโนมัติตลอดเวลาผ่านการคำนวณ โดยอาศัยข้อมูลต่างๆ ทั้งความเร็วรถ อัตราการหมุนของล้อ องศาของพวงมาลัย ตำแหน่งของคันเร่ง เพื่อวิเคราะห์การตอบสนองระหว่างล้อหน้าและล้อหลังให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ขับและสภาพถนน
ทั้งนี้ระบบส่งกำลังและคลัทช์แบบ multiple-plate ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถถ่ายแรงบิดเกือบทั้งหมดจากเครื่องยนต์ไปยังเพลาหน้าหรือเพลาหลังได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที เพื่อรักษาเสถียรภาพการทรงตัวสูงสุด หรือผลักดันให้รถผ่านอุปสรรคช่วงนั้นไปได้แบบสบาย
ในส่วนการทดสอบ ทีมงานบีเอ็มดับเบิลยู แบ่งให้ลองหลายสถานีครับ ทั้ง เนินเอียงที่แสดงศักยภาพการเอียงด้านข้างของรถที่ทำได้ 28-30 องศา (มีหน้าจอแสดงผลให้เห็น) รวมถึงด่านพาวเวอร์สไลด์ และด่านจิมคานา พร้อมจับเวลาแข่งขันบนสนามทราย ซึ่งสองด่านนี้รถจะได้โชว์ระบบ xDrive แบบเต็มๆ
ด่านพาวเวอร์สไลด์และด่านจิมคานาจะใช้ X3 xDrive20d ในการทดสอบ ซึ่งทีมงานยังสั่งให้ปิดระบบ DSC และเลือกโหมดการขับแบบสปอร์ต หวังให้เราจับอาการของรถกันอย่างเต็มที่ ด้วยการขับละเลียดกรวยที่วางกำหนดทิศทางไว้ เข้าแรง-เข้าเบา ท้ายปัดซ้าย-ขวา แต่ยังควบคุมได้อยู่มือ
ผู้เขียนอาศัยการเดินคันเร่งให้นิ่มนวล จังหวะเจอโค้งหรือวงเวียนให้เข้าช้าๆแต่ออกให้เร็วๆ รถทำเวลาดีและสาดใส่ได้สวยๆ ขณะเดียวกันหากจะดูว่าระบบxDrive ทำงานดีขนาดไหน ส่วนหนึ่งวัดได้จากกระจกมองข้างครับ เพราะยิ่งเห็นฝุ่นทรายกระเด็นขึ้นมาที่กระจกมองข้างมากเท่าไหร่ นั่นแสดงให้เห็นว่า xDrive สั่งให้กำลังกระจายไปยังล้อคู่หน้ามากเท่านั่น
จากนั้นในช่วงบ่าย ผู้เขียนได้ลองขับขึ้นไปบนเขา(เตี้ยๆ) ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร ผ่านบ่อน้ำ ทางหิน สะพานไม้ แม้การทดสอบอาจจะไม่ดุดันเหมือนพวกปิกอัพที่มีความสูงจากพื้นมากกว่า (และมันคือปิกอัพที่เกิดมาลุย) แต่ถือว่าบีเอ็มดับเบิลยูกล้ามากที่นำเอสยูวีหรูมาให้ลุยแบบนี้ ซึ่งสุดท้ายเจ้า X3 xDrive20dสามารถผ่านทุกอุปสรรคได้ฉลุย
พูดถึงตัว X3 xDrive20d ก็เป็นประเด็นครับ เพราะเพิ่งปรับโฉมเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งรูปลักษณ์อาจเปลี่ยนไปไม่มากหรือแทบจะดูไม่ออก (ที่เห็นชัดๆน่าจะเป็นแผงกันชนหน้า) ทว่าเรื่องของขุมพลัง ออปชัน และราคาขายใหม่ถือว่าน่าสนใจ
โดยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ เจเนอเรชันใหม่ เปลี่ยนจากรหัส N47 เป็น B47 ให้กำลังเพิ่มเป็น 190 แรงม้า (เดิม 184 แรงม้า) อัตราบริโภคน้ำมันประหยัดขึ้นเป็น 20 กม./ลิตร ปล่อยไอเสีย (CO2)ลดลงเป็น 131 กรัมต่อกิโลเมตร (เดิม 156-166 กรัมต่อกิโลเมตร) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ดีขึ้นจาก 8.2 วินาที เป็น 8.1 วินาที
ส่วนออปชันอย่างประตูหลังที่ใช้เปิด-ปิดเก็บสำภาระด้านท้าย ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า(ใช้ปุ่มกด) เหมือนกับ X5 แล้วนะครับ ทั้งหลายทั้งปวงที่ให้มามากขึ้น แต่ราคาขายกลับลดลงจาก 3.599 ล้านบาท เป็น 3.499 ล้านบาท
…เรื่องของราคากับค่ายรถหรูนี่เอาแน่นอนไม่ได้จริงๆ แต่ถึงกระนั้นก็ถือเป็นผลดีกับผู้บริโภคที่ตลาดมีการแข่งขันกันแบบนี้
สุดท้ายกิจกรรม BMW xDrive Xperience 2015 ผ่านไปด้วยความประทับใจ แบบนี้ละครับที่เรียกว่า กิจกรรมการตลาดเข้าถึงตัวลูกค้า ซึ่งใคร(ค่ายรถ)ทำมากก็ได้มาก ทั้งในแง่ยอดขาย ภาพลักษณ์ และการสร้างความสัมพันธ์อันดี แถมสอดแทรกความโดดเด่นของโปรดักต์เข้าไป ยิ่งอีเวนต์นี้มีทีเด็ด X3 xDrive20d เอสยูวีระดับ Best in Class ที่วางเครื่องยนต์ใหม่ ออปชันดี บนราคาสุดคุ้ม น่าจะช่วยเรียกแขก แจกจ่ายยอดขายให้ดีลเลอร์ได้พอสมควร
ผู้เขียนมีโอกาสไปร่วมงานเมื่อวานนี้(19 ม.ค.) ที่ ไทยโปโลคลับ พัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งหลังจากเสร็จรอบสื่อมวลชนแล้ว บีเอ็มดับเบิลยูยังเชิญลูกค้าคนสำคัญให้มาเปิดประสบการณ์การขับขี่ในงานดังกล่าวอีกด้วย
…ลูกค้าเก่าจะเห็นและได้ทดสอบสมรรถนะของรถอย่างเต็มที่ ส่วนลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเมื่อได้ลองขับพร้อมเรียนรู้ออปชันต่างๆแล้ว อยากจะซื้อมาครอบครองก็ไม่ว่ากัน
แน่นอนว่าออปชันหลักๆ ที่บีเอ็มดับเบิลยูต้องการสื่อสารนั่นคือ xDrive ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่อยู่ใน X3 xDrive20d และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport
โดยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive การขับใช้ในสถานการณ์ปกติจะกระจายกำลังไปล้อคู่หน้าและหลังในอัตราส่วน 40:60 ครับ แต่เมื่อสภาพการขับขี่เปลี่ยนไปจะปรับการทำงานด้วยการกระจายแรงขับระหว่างล้อหน้าและล้อหลังแบบอัตโนมัติตลอดเวลาผ่านการคำนวณ โดยอาศัยข้อมูลต่างๆ ทั้งความเร็วรถ อัตราการหมุนของล้อ องศาของพวงมาลัย ตำแหน่งของคันเร่ง เพื่อวิเคราะห์การตอบสนองระหว่างล้อหน้าและล้อหลังให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ขับและสภาพถนน
ทั้งนี้ระบบส่งกำลังและคลัทช์แบบ multiple-plate ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถถ่ายแรงบิดเกือบทั้งหมดจากเครื่องยนต์ไปยังเพลาหน้าหรือเพลาหลังได้ภายในเวลาเพียง 0.1 วินาที เพื่อรักษาเสถียรภาพการทรงตัวสูงสุด หรือผลักดันให้รถผ่านอุปสรรคช่วงนั้นไปได้แบบสบาย
ในส่วนการทดสอบ ทีมงานบีเอ็มดับเบิลยู แบ่งให้ลองหลายสถานีครับ ทั้ง เนินเอียงที่แสดงศักยภาพการเอียงด้านข้างของรถที่ทำได้ 28-30 องศา (มีหน้าจอแสดงผลให้เห็น) รวมถึงด่านพาวเวอร์สไลด์ และด่านจิมคานา พร้อมจับเวลาแข่งขันบนสนามทราย ซึ่งสองด่านนี้รถจะได้โชว์ระบบ xDrive แบบเต็มๆ
ด่านพาวเวอร์สไลด์และด่านจิมคานาจะใช้ X3 xDrive20d ในการทดสอบ ซึ่งทีมงานยังสั่งให้ปิดระบบ DSC และเลือกโหมดการขับแบบสปอร์ต หวังให้เราจับอาการของรถกันอย่างเต็มที่ ด้วยการขับละเลียดกรวยที่วางกำหนดทิศทางไว้ เข้าแรง-เข้าเบา ท้ายปัดซ้าย-ขวา แต่ยังควบคุมได้อยู่มือ
ผู้เขียนอาศัยการเดินคันเร่งให้นิ่มนวล จังหวะเจอโค้งหรือวงเวียนให้เข้าช้าๆแต่ออกให้เร็วๆ รถทำเวลาดีและสาดใส่ได้สวยๆ ขณะเดียวกันหากจะดูว่าระบบxDrive ทำงานดีขนาดไหน ส่วนหนึ่งวัดได้จากกระจกมองข้างครับ เพราะยิ่งเห็นฝุ่นทรายกระเด็นขึ้นมาที่กระจกมองข้างมากเท่าไหร่ นั่นแสดงให้เห็นว่า xDrive สั่งให้กำลังกระจายไปยังล้อคู่หน้ามากเท่านั่น
จากนั้นในช่วงบ่าย ผู้เขียนได้ลองขับขึ้นไปบนเขา(เตี้ยๆ) ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร ผ่านบ่อน้ำ ทางหิน สะพานไม้ แม้การทดสอบอาจจะไม่ดุดันเหมือนพวกปิกอัพที่มีความสูงจากพื้นมากกว่า (และมันคือปิกอัพที่เกิดมาลุย) แต่ถือว่าบีเอ็มดับเบิลยูกล้ามากที่นำเอสยูวีหรูมาให้ลุยแบบนี้ ซึ่งสุดท้ายเจ้า X3 xDrive20dสามารถผ่านทุกอุปสรรคได้ฉลุย
พูดถึงตัว X3 xDrive20d ก็เป็นประเด็นครับ เพราะเพิ่งปรับโฉมเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งรูปลักษณ์อาจเปลี่ยนไปไม่มากหรือแทบจะดูไม่ออก (ที่เห็นชัดๆน่าจะเป็นแผงกันชนหน้า) ทว่าเรื่องของขุมพลัง ออปชัน และราคาขายใหม่ถือว่าน่าสนใจ
โดยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ เจเนอเรชันใหม่ เปลี่ยนจากรหัส N47 เป็น B47 ให้กำลังเพิ่มเป็น 190 แรงม้า (เดิม 184 แรงม้า) อัตราบริโภคน้ำมันประหยัดขึ้นเป็น 20 กม./ลิตร ปล่อยไอเสีย (CO2)ลดลงเป็น 131 กรัมต่อกิโลเมตร (เดิม 156-166 กรัมต่อกิโลเมตร) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ดีขึ้นจาก 8.2 วินาที เป็น 8.1 วินาที
ส่วนออปชันอย่างประตูหลังที่ใช้เปิด-ปิดเก็บสำภาระด้านท้าย ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า(ใช้ปุ่มกด) เหมือนกับ X5 แล้วนะครับ ทั้งหลายทั้งปวงที่ให้มามากขึ้น แต่ราคาขายกลับลดลงจาก 3.599 ล้านบาท เป็น 3.499 ล้านบาท
…เรื่องของราคากับค่ายรถหรูนี่เอาแน่นอนไม่ได้จริงๆ แต่ถึงกระนั้นก็ถือเป็นผลดีกับผู้บริโภคที่ตลาดมีการแข่งขันกันแบบนี้
สุดท้ายกิจกรรม BMW xDrive Xperience 2015 ผ่านไปด้วยความประทับใจ แบบนี้ละครับที่เรียกว่า กิจกรรมการตลาดเข้าถึงตัวลูกค้า ซึ่งใคร(ค่ายรถ)ทำมากก็ได้มาก ทั้งในแง่ยอดขาย ภาพลักษณ์ และการสร้างความสัมพันธ์อันดี แถมสอดแทรกความโดดเด่นของโปรดักต์เข้าไป ยิ่งอีเวนต์นี้มีทีเด็ด X3 xDrive20d เอสยูวีระดับ Best in Class ที่วางเครื่องยนต์ใหม่ ออปชันดี บนราคาสุดคุ้ม น่าจะช่วยเรียกแขก แจกจ่ายยอดขายให้ดีลเลอร์ได้พอสมควร