“เอ็กซ์5” (X5) ถือเป็นหนึ่งเอสยูวีมีชื่อของโลกที่ได้การตอบรับดีทั้งในแง่ยอดขาย และเสียงชื่นชมด้านสมรรถนะ พร้อมยกระดับแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูให้ดูสูงสง่าน่าเกรงขาม ไม่แพ้คู่แข่งที่เข้ามาทำตลาดก่อนและมาที่หลังอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ็ม-คลาส,วอลโว่ เอ็กซ์ซี-90,ปอร์เช่ คาเยนน์ หรือออดี้ คิว7
เพื่อสร้างความโดดเด่น บีเอ็มดับเบิลยูยังบัญญัติศัพท์ใหม่(เอง)ให้“เอ็กซ์5”ว่าเป็นรถแบบ SAV - Sports Activity Vehicle (ขณะที่ “เอ็กซ์6” ตั้งให้เป็น SAC - Sports Activity Coupe เอากับเขาซิ) ปัจจุบันเดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 3 กับรหัสตัวถัง F15 เปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อกลางปี 2013 และเริ่มขายจริงปลายปีเดียวกัน ซึ่งตลาดหลักของ“เอ็กซ์5” (และเอสยูวีรุ่นอื่นๆ)อยู่ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา แถวๆนั้น
สำหรับประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยูนำมาเปิดตัวครั้งแรกที่งาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2013 พร้อมทำตลาดกับรุ่น X5 xDrive30d M Sport และ X5 sDrive25d โดยรุ่นแรกเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 6 สูบ 3.0 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนรุ่นหลังวางเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ ราคา 6.599 ล้านบาท และ 4.799 ล้านบาทตามลำดับ
อย่างไรก็ตามราคาดังกล่าวเป็นรุ่นนำเข้าทั้งคัน (CBU) ถ้าเป็นรุ่นประกอบในประเทศที่เริ่มทยอยผลิตและเตรียมส่งมอบกันเร็วๆนี้ ราคาจะถูกลงครับ อย่าง X5 sDrive25d จะเหลือ 4.599 ล้านบาท ส่วน X5 xDrive30d M Sport ราคาใหม่ 5.699 ล้านบาท หายไปเกือบล้านนะครับ ขณะที่ออปชันหลักๆยังอยู่ครบเหมือนรุ่น CBU อีกด้วย
ผู้เขียนมีโอกาสได้ลองรุ่น X5 xDrive30d M Sport (รุ่น CBU) ที่มาพร้อมชุดแต่ง M รอบคัน ล้ออัลลอยด์วงโตขนาด 20 นิ้ว ส่วนภายในแตกต่างด้วยสีหลังคา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต และกาบบันไดอลูมิเนียมสไตล์ M
ภายในกว้างขวางเหมือนนั่งในห้องรับแขกที่บ้าน หลังคาสูงแถมมีซันรูฟดูโปร่ง ขณะที่เบาะนั่งแถวหลังเหลือระยะยืดขาเพียบ พร้อมเก็บเสียงรบกวนจากการจราจรภายนอกได้เงียบกริบ ทั้งยังสุนทรีย์กับเครื่องเสียงชั้นเยี่ยมพร้อมลำโพง 9 ตัวที่ขับเสียงออกมาได้ใสแจ๋ว
ในตำแหน่งผู้ขับนั่งสบาย มุมมองด้านหน้าสูงและเห็นได้ไกล ฟังก์ชันไอ-ไดร์ฟ ควบคุมถนัดมือเหมือนเดิม พร้อมติดตั้งระบบนำทางมาให้ ส่วนหน้าจอแสดงผลขนาด 10.25 นิ้ว ยาวเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าและแยกแสดงผลแบบแบ่งครึ่งได้ (อาจจะแสดงระบบนำทางครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งแสดงโหมดเล่นเพลงเป็นต้น)
ด้วยตัวรถทรงสูงและยาวเกือบ 5 เมตร การขับในเมืองเหมือนจะเทอะทะ แต่ถ้าใช้ไปสักพักปรับความรู้สึกได้ก็คล่องตัวพอสมควร พวงมาลัยไฟฟ้าแบบเซอร์โวทรอนิกผ่อนแรงได้ดีในการขับความเร็วต่ำ และแน่นอนว่าจะหน่วงมือขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง
ช่วงล่างอาจจะไม่ถึงกับนุ่มนวลมากถ้าเทียบกับเอสยูวีในระดับเดียวกันหรือซีดานอย่าง “ซีรีย์5” (X5 xDrive30d M Sport ใช้ล้อขอบ20 ประกบยางรันเฟลต ด้านหน้า 275/40 R20 หลัง 315/35R20 ) ในภาพรวมรองรับได้หนึบแน่น เสถียรภาพการทรงตัวยอดเยี่ยม รถถ่ายเทน้ำหนักหน้า-หลังสมดุล
“เอ็กซ์5” เป็นรถที่ให้ความมั่นใจแก่ผู้ขับสูงครับ ขับแล้วเหมือนจะพาไปที่ไหนก็ได้ในโลก ด้วยระบบความปลอดภัยครบครัน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ที่จะขับเคลื่อนล้อหลังเป็นหลัก แต่ถ้าเจอสภาพถนน และสภาวะการขับขี่ที่เปลี่ยนไป ระบบจะกระจายกำลังไปยังล้อคู่หน้าอัตโนมัติ เพื่อประสิทธิภาพการทรงตัวสูงสุด
ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล วี6 ขนาด 3.0 ลิตร 218 แรงม้า แม้สเปกเมืองนอกจะรีดแรงได้มากกว่านี้ ซึ่งเมืองไทยติดข้อกำหนดเรื่องภาษีจึงต้องจำกัดตัวเลขแค่ 218 แรงม้า แต่เมื่อพิจารณาแรงบิดระดับ 560 นิวตันเมตร ที่มาในรอบต่ำ 1,500 ถึง 2,000 รอบต่อนาที ยังเหลือเฟือในการขับเคลื่อนเอสยูวีคันโตน้ำหนักกว่า 2 ตันได้สบาย เห็นว่าอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ทำได้ในเวลา 8 วินาทีเท่านั้น
ในโหมดปกติ พละกำลังดังกล่าวส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อาจจะไม่ถึงกับทะยานแบบแรงๆ แต่จะค่อยๆปลดปล่อยออกมาอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง หรือหากหวังอัตราเร่งแซงแบบกะทันหัน อาจจะต้องเพิ่มแรงกดน้ำหนักเท้าขวาลงไปมากหน่อย รถก็พุ่งผ่านทุกสถานการณ์วุ่นวายได้ฉลุย
ทั้งนี้ถ้าเลือกไปโหมดสปอร์ต จะขับได้กระชับเฉียบคมขึ้นมาอีกนิด โดยรถจะเลือกใช้เกียร์ต่ำ ให้รอบเครื่องยนต์รออยู่สูงประมาณ 3,000 รอบ พวงมาลัยตอบสนองได้แม่นยำและหนักมือกว่าเดิม เช่นเดียวกับช่วงล่างที่จะสปอร์ตแข็งขึ้นเล็กน้อย
...หลากอามณ์เลือกได้ตามสไตล์บีเอ็มดับเบิลยูเขาละ
ด้านอัตราบริโภคน้ำมัน จากการขับทางไกลต่างจังหวัดใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม.เป็นหลัก และมีเร่งแซงรถคันหน้าบ่อยครั้ง บนระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ยังได้ตัวเลขแถวๆ 12 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ…ราคาถือว่าน่าสนใจครับ เพราะซื้อตอนนี้อย่างไรก็ต้องจัดรุ่นประกอบในประเทศ ที่ราคาถูงลงมาเยอะกับเอสยูวีระดับท็อปขับขี่ได้ทุกสภาวะ จะใช้เป็นรถคันเดียวหรือซื้อเป็นคันที่สองของบ้านแบบไปไหนไปกันได้ทุกที่ ความอเนกประสงค์ที่สะดวกสบาย พร้อมสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม
เพื่อสร้างความโดดเด่น บีเอ็มดับเบิลยูยังบัญญัติศัพท์ใหม่(เอง)ให้“เอ็กซ์5”ว่าเป็นรถแบบ SAV - Sports Activity Vehicle (ขณะที่ “เอ็กซ์6” ตั้งให้เป็น SAC - Sports Activity Coupe เอากับเขาซิ) ปัจจุบันเดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 3 กับรหัสตัวถัง F15 เปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อกลางปี 2013 และเริ่มขายจริงปลายปีเดียวกัน ซึ่งตลาดหลักของ“เอ็กซ์5” (และเอสยูวีรุ่นอื่นๆ)อยู่ที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา แถวๆนั้น
สำหรับประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยูนำมาเปิดตัวครั้งแรกที่งาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2013 พร้อมทำตลาดกับรุ่น X5 xDrive30d M Sport และ X5 sDrive25d โดยรุ่นแรกเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 6 สูบ 3.0 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ส่วนรุ่นหลังวางเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ ราคา 6.599 ล้านบาท และ 4.799 ล้านบาทตามลำดับ
อย่างไรก็ตามราคาดังกล่าวเป็นรุ่นนำเข้าทั้งคัน (CBU) ถ้าเป็นรุ่นประกอบในประเทศที่เริ่มทยอยผลิตและเตรียมส่งมอบกันเร็วๆนี้ ราคาจะถูกลงครับ อย่าง X5 sDrive25d จะเหลือ 4.599 ล้านบาท ส่วน X5 xDrive30d M Sport ราคาใหม่ 5.699 ล้านบาท หายไปเกือบล้านนะครับ ขณะที่ออปชันหลักๆยังอยู่ครบเหมือนรุ่น CBU อีกด้วย
ผู้เขียนมีโอกาสได้ลองรุ่น X5 xDrive30d M Sport (รุ่น CBU) ที่มาพร้อมชุดแต่ง M รอบคัน ล้ออัลลอยด์วงโตขนาด 20 นิ้ว ส่วนภายในแตกต่างด้วยสีหลังคา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ต และกาบบันไดอลูมิเนียมสไตล์ M
ภายในกว้างขวางเหมือนนั่งในห้องรับแขกที่บ้าน หลังคาสูงแถมมีซันรูฟดูโปร่ง ขณะที่เบาะนั่งแถวหลังเหลือระยะยืดขาเพียบ พร้อมเก็บเสียงรบกวนจากการจราจรภายนอกได้เงียบกริบ ทั้งยังสุนทรีย์กับเครื่องเสียงชั้นเยี่ยมพร้อมลำโพง 9 ตัวที่ขับเสียงออกมาได้ใสแจ๋ว
ในตำแหน่งผู้ขับนั่งสบาย มุมมองด้านหน้าสูงและเห็นได้ไกล ฟังก์ชันไอ-ไดร์ฟ ควบคุมถนัดมือเหมือนเดิม พร้อมติดตั้งระบบนำทางมาให้ ส่วนหน้าจอแสดงผลขนาด 10.25 นิ้ว ยาวเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าและแยกแสดงผลแบบแบ่งครึ่งได้ (อาจจะแสดงระบบนำทางครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งแสดงโหมดเล่นเพลงเป็นต้น)
ด้วยตัวรถทรงสูงและยาวเกือบ 5 เมตร การขับในเมืองเหมือนจะเทอะทะ แต่ถ้าใช้ไปสักพักปรับความรู้สึกได้ก็คล่องตัวพอสมควร พวงมาลัยไฟฟ้าแบบเซอร์โวทรอนิกผ่อนแรงได้ดีในการขับความเร็วต่ำ และแน่นอนว่าจะหน่วงมือขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง
ช่วงล่างอาจจะไม่ถึงกับนุ่มนวลมากถ้าเทียบกับเอสยูวีในระดับเดียวกันหรือซีดานอย่าง “ซีรีย์5” (X5 xDrive30d M Sport ใช้ล้อขอบ20 ประกบยางรันเฟลต ด้านหน้า 275/40 R20 หลัง 315/35R20 ) ในภาพรวมรองรับได้หนึบแน่น เสถียรภาพการทรงตัวยอดเยี่ยม รถถ่ายเทน้ำหนักหน้า-หลังสมดุล
“เอ็กซ์5” เป็นรถที่ให้ความมั่นใจแก่ผู้ขับสูงครับ ขับแล้วเหมือนจะพาไปที่ไหนก็ได้ในโลก ด้วยระบบความปลอดภัยครบครัน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ที่จะขับเคลื่อนล้อหลังเป็นหลัก แต่ถ้าเจอสภาพถนน และสภาวะการขับขี่ที่เปลี่ยนไป ระบบจะกระจายกำลังไปยังล้อคู่หน้าอัตโนมัติ เพื่อประสิทธิภาพการทรงตัวสูงสุด
ส่วนเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล วี6 ขนาด 3.0 ลิตร 218 แรงม้า แม้สเปกเมืองนอกจะรีดแรงได้มากกว่านี้ ซึ่งเมืองไทยติดข้อกำหนดเรื่องภาษีจึงต้องจำกัดตัวเลขแค่ 218 แรงม้า แต่เมื่อพิจารณาแรงบิดระดับ 560 นิวตันเมตร ที่มาในรอบต่ำ 1,500 ถึง 2,000 รอบต่อนาที ยังเหลือเฟือในการขับเคลื่อนเอสยูวีคันโตน้ำหนักกว่า 2 ตันได้สบาย เห็นว่าอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม.ทำได้ในเวลา 8 วินาทีเท่านั้น
ในโหมดปกติ พละกำลังดังกล่าวส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด อาจจะไม่ถึงกับทะยานแบบแรงๆ แต่จะค่อยๆปลดปล่อยออกมาอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง หรือหากหวังอัตราเร่งแซงแบบกะทันหัน อาจจะต้องเพิ่มแรงกดน้ำหนักเท้าขวาลงไปมากหน่อย รถก็พุ่งผ่านทุกสถานการณ์วุ่นวายได้ฉลุย
ทั้งนี้ถ้าเลือกไปโหมดสปอร์ต จะขับได้กระชับเฉียบคมขึ้นมาอีกนิด โดยรถจะเลือกใช้เกียร์ต่ำ ให้รอบเครื่องยนต์รออยู่สูงประมาณ 3,000 รอบ พวงมาลัยตอบสนองได้แม่นยำและหนักมือกว่าเดิม เช่นเดียวกับช่วงล่างที่จะสปอร์ตแข็งขึ้นเล็กน้อย
...หลากอามณ์เลือกได้ตามสไตล์บีเอ็มดับเบิลยูเขาละ
ด้านอัตราบริโภคน้ำมัน จากการขับทางไกลต่างจังหวัดใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม.เป็นหลัก และมีเร่งแซงรถคันหน้าบ่อยครั้ง บนระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ยังได้ตัวเลขแถวๆ 12 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ…ราคาถือว่าน่าสนใจครับ เพราะซื้อตอนนี้อย่างไรก็ต้องจัดรุ่นประกอบในประเทศ ที่ราคาถูงลงมาเยอะกับเอสยูวีระดับท็อปขับขี่ได้ทุกสภาวะ จะใช้เป็นรถคันเดียวหรือซื้อเป็นคันที่สองของบ้านแบบไปไหนไปกันได้ทุกที่ ความอเนกประสงค์ที่สะดวกสบาย พร้อมสมรรถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยม