ด้วยภารกิจทำรถเพื่อเข้าแข่งขันในมอเตอร์สปอร์ตรายการต่างๆ และหน้าที่จับรถยนต์นิสสันมาโมดิฟายด์ขายแบบคอมพลีตคาร์ รวมถึงการทำชุดแต่ง การจูนนิ่งสมรรถนะของรถให้แก่ลูกค้าที่นิยมความโดดเด่นแตกต่าง ถึงวันนี้“นิสโม” (Nismo) หรือ นิสสัน มอเตอร์สปอร์ต เหมือนถูกยกฐานะและมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในแง่ธุรกิจ และการส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์…มองทิศทางนี้ผ่าน“โชอิชิ มิยาตานิ”แม่ทัพใหญ่ของนิสโม
- ภาพรวมของนิสโม
“นิสโม” ก่อตั้งมา 30 ปีแล้ว ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในการทำรถเข้าแข่งขันในรายการต่างๆ แต่จากนี้ไปเราจะพยายามสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านทั้งมอเตอร์สปอร์ต และกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆ ปัจจุบันมีรถนิสโมที่ถูกขายไปแล้วทั่วโลกกว่า 20,000 คัน
- คอมพลีตคาร์
เป้าหมายของเราคือพยายามนำอารมณ์ของมอเตอร์สปอร์ตมาสู่การพัฒนาเป็น “โรดคาร์” หรือใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ด้วยการออกแบบภายนอกให้โดดเด่นมากขึ้น การปรับสมรรถนะของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง การควบคุม ขณะที่รถยนต์คอมพลีตคาร์เรามีขาย 5 รุ่น ตั้งแต่รถเล็กไปจนถึงสปอร์ตคาร์รุ่นใหญ่ มาร์ช โน้ต จู๊ค 370Z และ จีที-อาร์ จะสามารถตอบสนองความต้องการทุกระดับได้อย่างแน่นอน
- เป้าหมายการขายปีหน้า
คอมพลีตคาร์นิสโมไม่ได้ทำมาเพื่อโกยยอดขายเป็นหลัก แต่สิ่งสำคัญคือการช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับรถยนต์นิสสันมากกว่า เราจึงไม่มองเรื่องเป้าหมายการขาย แต่ถ้าจะให้ประเมินจริงๆ คาดว่ายอดขายน่าจะมากขึ้นเพราะมีโน้ต นิสโม เข้ามาเสริม
ทั้งนี้โน้ตเป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมของนิสสัน ที่ญี่ปุ่นขายได้เฉลี่ยเดือนละ 1,000 คัน ดังนั้นถ้า “โน้ต นิสโม” ขายได้สัดส่วน 10% ของรุ่นปกติเราก็พอใจแล้ว
- นิสโมสามารถทำราคาขายลดลงมากว่านี้ได้หรือไม่
นิสโมเราเน้นความน่าเชื่อถือ วัสดุ,ชิ้นส่วนที่นำมาใช้ต้องมีคุณภาพสูง พร้อมการใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ จนสร้างความประทับใจบนความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้นการทำให้ราคาถูกลงคงเป็นเรื่องยาก
- มีแผนจะทำคอมพลีตคาร์กับรถรุ่นอื่นๆหรือไม่ อย่างปิกอัพ นาวารา หรือ เครื่องยนต์ดีเซล
ปิกอัพ นาวารา เรายังไม่มีแผนทำเวอร์ชันนิสโมในตอนนี้ แต่ถ้าถามว่าในอนาคตเป็นไปได้ไหม ต้องบอกว่าเป็นไปได้ ส่วนจะทำลักษณะ ออฟโรด ออนโรด หรือปรับสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลอย่างไร สุดท้ายคงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการตลาด ซึ่งทีมงานของเราสามารถศึกษาพัฒนาได้หมด
- มีแผนทำตลาดรถนิสโมในเมืองไทยหรือไม่
ผมคงตัดสินใจไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ถ้ามีความต้องการและมีการเสนอแผนเข้ามา เราสามารถจัดการให้ได้ แต่ผมขอย้ำว่าจากนี้ไป นิสโมจะเน้นทำกิจกรรมการตลาดมากขึ้น คือบางประเทศอาจจะยังไม่มีรถนิสโมขาย แต่ลูกค้าจะได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆมากขึ้น ยกตัวอย่างงานแข่งรถยนต์ “ซูเปอร์ จีที” ที่จังหวัดบุรีรัมย์ที่ผ่านมา ผมหวังว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับนิสโม และศักยภาพในวงการมอเตอร์สปอร์ตของนิสสัน
- ภาพรวมของนิสโม
“นิสโม” ก่อตั้งมา 30 ปีแล้ว ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในการทำรถเข้าแข่งขันในรายการต่างๆ แต่จากนี้ไปเราจะพยายามสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านทั้งมอเตอร์สปอร์ต และกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆ ปัจจุบันมีรถนิสโมที่ถูกขายไปแล้วทั่วโลกกว่า 20,000 คัน
- คอมพลีตคาร์
เป้าหมายของเราคือพยายามนำอารมณ์ของมอเตอร์สปอร์ตมาสู่การพัฒนาเป็น “โรดคาร์” หรือใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ด้วยการออกแบบภายนอกให้โดดเด่นมากขึ้น การปรับสมรรถนะของเครื่องยนต์ ช่วงล่าง การควบคุม ขณะที่รถยนต์คอมพลีตคาร์เรามีขาย 5 รุ่น ตั้งแต่รถเล็กไปจนถึงสปอร์ตคาร์รุ่นใหญ่ มาร์ช โน้ต จู๊ค 370Z และ จีที-อาร์ จะสามารถตอบสนองความต้องการทุกระดับได้อย่างแน่นอน
- เป้าหมายการขายปีหน้า
คอมพลีตคาร์นิสโมไม่ได้ทำมาเพื่อโกยยอดขายเป็นหลัก แต่สิ่งสำคัญคือการช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับรถยนต์นิสสันมากกว่า เราจึงไม่มองเรื่องเป้าหมายการขาย แต่ถ้าจะให้ประเมินจริงๆ คาดว่ายอดขายน่าจะมากขึ้นเพราะมีโน้ต นิสโม เข้ามาเสริม
ทั้งนี้โน้ตเป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมของนิสสัน ที่ญี่ปุ่นขายได้เฉลี่ยเดือนละ 1,000 คัน ดังนั้นถ้า “โน้ต นิสโม” ขายได้สัดส่วน 10% ของรุ่นปกติเราก็พอใจแล้ว
- นิสโมสามารถทำราคาขายลดลงมากว่านี้ได้หรือไม่
นิสโมเราเน้นความน่าเชื่อถือ วัสดุ,ชิ้นส่วนที่นำมาใช้ต้องมีคุณภาพสูง พร้อมการใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ จนสร้างความประทับใจบนความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดังนั้นการทำให้ราคาถูกลงคงเป็นเรื่องยาก
- มีแผนจะทำคอมพลีตคาร์กับรถรุ่นอื่นๆหรือไม่ อย่างปิกอัพ นาวารา หรือ เครื่องยนต์ดีเซล
ปิกอัพ นาวารา เรายังไม่มีแผนทำเวอร์ชันนิสโมในตอนนี้ แต่ถ้าถามว่าในอนาคตเป็นไปได้ไหม ต้องบอกว่าเป็นไปได้ ส่วนจะทำลักษณะ ออฟโรด ออนโรด หรือปรับสมรรถนะของเครื่องยนต์ดีเซลอย่างไร สุดท้ายคงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการตลาด ซึ่งทีมงานของเราสามารถศึกษาพัฒนาได้หมด
- มีแผนทำตลาดรถนิสโมในเมืองไทยหรือไม่
ผมคงตัดสินใจไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ถ้ามีความต้องการและมีการเสนอแผนเข้ามา เราสามารถจัดการให้ได้ แต่ผมขอย้ำว่าจากนี้ไป นิสโมจะเน้นทำกิจกรรมการตลาดมากขึ้น คือบางประเทศอาจจะยังไม่มีรถนิสโมขาย แต่ลูกค้าจะได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆมากขึ้น ยกตัวอย่างงานแข่งรถยนต์ “ซูเปอร์ จีที” ที่จังหวัดบุรีรัมย์ที่ผ่านมา ผมหวังว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับนิสโม และศักยภาพในวงการมอเตอร์สปอร์ตของนิสสัน