ศึก‘ซูเปอร์ จีที’ สุดมัน!...ประเดิมยิ่งใหญ่สนามช้างฯ เซอร์กิต

เมื่อเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา วงการมอเตอร์สปอร์ตต้องโฟกัสไปยัง “ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต” สนามแข่งรถระดับเกรด 1 (FIA GRAD1 - สามารถรองรับการแข่งขัน F1 ได้) ในการเปิดรับการแข่งขันรถทางเรียบระดับโลก “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซูเปอร์ จีที เรซ” กับการเก็บคะแนนสะสมสนามที่ 7 ของศึกซูเปอร์ จีที 2014 (Super GT 2014)

การแข่งขันรถ “ซูเปอร์ จีที” ถือเป็นสุดยอดการแข่งขันรถทางเรียบระดับท็อปสุดของประเทศญี่ปุ่นและทวีปเอเชีย โดยเข้ามาสร้างประสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย ด้วยการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมสนามที่ 7 และเป็นสนามเดียวนอกประเทศญี่ปุ่น ประจำฤดูการแข่งขันปี 2014 ซึ่งการแข่งขันจะแบ่งระดับการแข่งขัน ออกเป็นรุ่นจีที300 (GT 300) และรุ่นจีที 500 (GT 500) โดยตัวเลขหมายถึงกำลังสูงสุดที่ถูกกำหนดไว้ในแต่ละรุ่น


นอกจากการแข่งขันศึกซูเปอร์ จีที 2014 ยังมียังมีซัพพอร์ตเรซ 2 รายการ ได้แก่ ฮอนด้า วันเมคเรซ ที่ประเดิมแข่งขันแบบไนท์เรซครั้งแรกในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งแชมป์เรซแรกเป็นของ ภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ ส่วน กันตธีร์ กุศิริ คว้าชัยเรซ 2รวมถึงโตโยต้า มอเตอร์สปอร์ตสนาม 4 มีไฮไลต์อยู่ที่ อัลติส วันเมคเรซ แชมป์เป็นของ นพดล ประกอบผล ทั้ง 2 เรซ ขณะที่ นาโอกิ คาวามูระ คว้าแชมป์ในรุ่น โตโยต้า วีออส ซี ด้าน โตโยต้า วีออส เลดี้แชมป์เป็นของ ศุภักษร ไชยมงคล

ขณะเดียวกันภายในสนามช้างฯ เซอร์กิต ช่วงระหว่างจัดงานตลอดสัปดาห์ ยังมีบูธของบริษัทรถและสินค้าต่างๆ มาจัดแสดงสินค้าและกิจกรรมต่างๆ มากมาย แต่ไฮไลต์ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นช่วง “พิต วอล์ค” (Pit Walk) ซึ่งเปิดให้ผู้มาชมการแข่งขันและซื้อตั๋วพิเศษเพิ่มอีก 500 บาท เพื่อเข้าไปในพิตสัมผัสนักแข่งอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง โดยเหล่านักแข่งต่างออกมาทักทาย ร่วมถ่ายรูป รวมถึงแจกลายเซ็นแฟนๆ และยังมีเหล่าสาวๆ “เรซ ควีน” (Race Queen) ซึ่งเป็นสาวญี่ปุ่นที่ผ่านการคัดเลือกมา เพื่อทำหน้าที่ในการสร้างเสน่ห์ให้กับทีมแข่งขันประจำของตนเอง จนทำให้ผู้คนเรียกว่าเป็นนางฟ้าประจำสนามแข่งขันซูเปอร์ จีที ไม่ว่าจะเป็นการณ์ร่วมกิจกรรมบนเวที ช่วงพิตวอร์คระหว่างวันควอลิฟาย(4 ต.ค.) และวันแข่งประจำสนาม(5 ต.ค.) รวมถึงช่วง “กริด วอล์ค” (Grid Walk) ของวันแข่งชิงแชมป์ด้วย


จากการจัดงานยิ่งใหญ่ประเดิมเปิดสนามช้างฯ เซอร์กิต ตลอดสัปดาห์ตั้งแต่ 2-5 ตุลาคมที่ผ่านมา จึงได้รับการตอบรับจากแฟนๆ ผู้ชื่นชอบความเร็วชาวไทยจำนวนมาก ซึ่งเจ้าของสนามระดับเกรด 1 แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย “เนวิน ชิดชอบ” บอกว่ามีผู้มาชมงานตลอดสัปดาห์นับแสนคนได้ เรื่องนี้เห็นได้จากในวันรอบคัดเลือกและชิงแชมป์ประจำสนาม มีผู้มาเข้าชมเต็มความจุสนาม

สำหรับการแข่งขันชิงชัยศึกซูเปอร์จีที 2014 สนาม 7 ดวลความเร็วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ประเทศไทย ที่มีระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร แข่งขันทั้งสิ้น 66 รอบสนาม ซึ่งบนกริดสตาร์ทในรุ่นใหญ่อย่าง จีที500 มีรถแข่ง นิสสัน จีที-อาร์ จากสังกัด โมล่า ที่ขับโดยซาโตชิ โมโตยาม่า และมาซาทากะ ยานากิดะ 2 นักขับญี่ปุ่นในตำแหน่งโพลโพซิชั่น ตามด้วยไมเคิล ครุมม์ และไดกิ ซาซากิ จากคอนโด้ เรซซิ่ง ขณะกริดที่ 3 เป็นของ ซึจิโอะ มัตซูดะ และรอนนี่ กวินตาเรลลี่ จากนิสโม ผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ส่วนในรุ่นจีที300 เป็นของไอ-โมบาย เอเอเอส ที่ลงแข่งด้วยสิทธิ์ไวด์การ์ด ขับโดยวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ นักขับไทย และ อเล็กซานเดอร์ อิมเพอราโทรี ทีมเมทชาวสวิส แต่ก็ประกาศศักดาคว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นมาได้


โดยการแข่งขันต่างขับเคี่ยวกันสุดมันทั้งสองรุ่น และผลการแข่งขันในรุ่นจีที500 ปรากฏว่าทีมโมล่าที่นำมาตลอด 38 รอบสนาม จนรถมีปัญหาต้องเข้าพิต เป็นโอกาสให้ คาซูกิ นาคาจิม่า อดีตนักขับรถสูตรหนึ่งชาวญี่ปุ่น และเจมส์ รอสซิสเตอร์ สังกัดเล็กซัส ทีม ปิโตรนาส ทอมส์ ที่ไล่จี้อยู่เบียดขึ้นนำแทนในช่วงที่เหลือและคว้าแชมป์ไปครอง หลังผ่าน 66 ของการชิงชัย ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ ไมเคิล ครุมม์ และ ไดกิ ซาซากิ จากคอนโดะ เรซซิ่ง ขณะฮิโรโนบุ ยาซูดะ และ เจา เปาโล ลิม่า เดอ โอลิเวียร่า สังกัด ทีม อิมพับ คว้าอันดับ 3 ไปครอง

ขณะที่การแข่งขันในรุ่นจีที300 ชาวไทยมีลุ้นได้เฮเมื่อ วุฒิกรและอิมเพอราทอรี จากไอ-โมบาย เอเอเอสทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงแรก รักษาตำแหน่งผู้นำได้ถึง 48 รอบสนาม ทว่ากลับปัญหาด้านเทคนิคต้องนำรถเข้าพิตเพื่อแก้ไข ก่อนออกมาจบเรซในอันดับ 7


ส่วนแชมป์ในรุ่น จีที300 ตกเป็นของ คาซูกิ โฮชิโนะ และลูคัส ออร์โดเนสซ์ สังกัด เอ็นดีดีพี เรซซิ่ง เฉือนเอาชนะ ยอร์ก มูลเลอร์ และ ไซจิ อาระ จากบีเอ็มดับเบิลยู สปอร์ต โทรฟรี ทีม สตัดดี อันดับ 2 เพียง 0.862 ขณะที่อันดับ 3 ได้แก่ โนบุเทรุ ทานิกูชิ และ ทัตซูยะ คาตาโอกะ สังกัดกู๊ด สไมล์ เรซซิ่ง แอนด์ ทีม ยูเควายโอ

ด้านนักขับไทยที่ทำผลงานได้ดีที่สุดได้แก่ ณณิณ อินทร์พยุง วัย 19 ปี จากอาเนจ เรซซิ่ง ที่จบการแข่งขันรุ่นจีที 300 ได้ในอันดับ 5 ขณะที่โตโยต้า ทีม ไทยแลนด์ ซึ่งขับโดย ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ และทาเคชิ ซึจิย่า ทีมเมทชาวญี่ปุ่นพารถแข่งโตโยต้า 86 ที่มีปัญหาตั้งแต่การฝึกซ้อม สร้างผลงานไม่เลวจบการแข่งขันในอันดับ 14

สำหรับศึกซูเปอร์จีที 2014 จะโยกกลับไปแข่งขันสนามสุดท้ายของปี ที่สนามทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 15-16 พฤศจิกายนนี้ โดยเกมความเร็วรายการนี้จะกลับมาแข่งขันในเมืองไทยอย่างแน่นอนในฤดูกาลหน้า ภายใต้สัญญาระหว่างจีทีเอ เจ้าของลิขสิทธิ์ซูเปอร์จีที และ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต