ข่าวในประเทศ-“อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล” เดินหน้ายกระดับการบริการหลังการขายต่อเนื่อง ส่งทีมช่างเทคนิคฝึกอบรมทักษะถึงออสเตรเลีย เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถงานซ่อมบำรุง รองรับการนำเข้ารถบิ๊กไบค์ INDIAN และ VICTORY รุ่นใหม่ปี 2015 ที่จะวางตลาดปลายปีนี้ พร้อมขยายพื้นที่ศูนย์บริการสำนักงานใหญ่ ซอยพัฒนาการ 76 หลังลูกค้าแห่ใช้บริการล้นทะลัก ตั้งเป้าขยับฐานะให้เป็นศูนย์ฝึกอบรมช่างเทคนิคภายในประเทศ รองรับการเปิด AEC
นายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน INDIAN และ VICTORY อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงการส่งทีมช่างเทคนิคของบริษัทเข้าร่วมฝึกอบรมทักษะช่างทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ภายใต้กิจกรรม Polaris Technical Training ณ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย สำนักงานใหญ่ INDIAN-VICTORY ประเทศออสเตรเลีย ที่ดูแลด้านการทำตลาดในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งจัดขึ้นประจำทุกๆ ปี โดยมีผู้แทนจำหน่ายที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค และลาตินอเมริกา (Apla) ประกอบด้วย ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไต้หวัน-ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน อินโดนีเซีย และไทย ภายใต้การกำกับของบริษัทแม่ “โพราริส อินดัสทรีส์” (Polaris Industries สหรัฐอเมริกา) เข้าร่วมอบรมว่า นอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีและงานซ่อมบำรุงรถบิ๊กไบค์ให้ทีมช่างแล้ว ยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการนำเข้ารถบิ๊กไบค์ INDIAN และ VICTORY รุ่นใหม่ปี 2015 ที่จะนำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2014
สำหรับโปรแกรมฝึกอบรมครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เริ่มด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นปี 2015 ทั้ง INDIAN รุ่น Scout รุ่น Roadmaster และ VICTORY รุ่น Magnum ในด้านคุณสมบัติ รูปลักษณ์ และส่วนประกอบต่างๆ ครอบคลุมถึงการขับขี่ใช้งานของรถรุ่นใหม่ ขณะที่ภาคปฏิบัติ ทีมวิศวกร (โพราริส) ทำการถอดชิ้นส่วนเครื่องยนต์และถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีต่างๆ ให้ผู้เข้าอบรมได้ศึกษา พร้อมเปิดโอกาสให้ทีมช่างทุกชาติลงมือปฏิบัติตาม
“เครื่องยนต์ ถือเป็นหัวใจสำคัญของรถ หากเรียนรู้ภาคทฤษฏีแล้วไม่ได้นำมาปฏิบัติจริงหรือปฏิบัติเฉพาะในห้องเวิร์คช็อปก็จะไม่มีประโยชน์ เหตุนี้ทีมช่างของเรา ซึ่งมีประสบการณ์สูงเคยผ่านงานซ่อมรถบิ๊กไบค์มาทุกแบรนด์ เป็นผู้ที่ขับขี่รถเองด้วย ที่สำคัญผ่านการอบรมลักษณะนี้ทุกปี จึงขออนุญาตวิศวกรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อขอทบทวนความรู้และลงมือปฏิบัติจริงเป็นการส่วนตัวในทุกขั้นตอนจนประสบความสำเร็จ ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ทีมช่างเราเกิดความมั่นใจในการนำทักษะความรู้เหล่านี้มาดูแลลูกค้า เพื่อให้เกิดความพึงพอใจและมีประสิทธิภาพสูงสุด”
นอกจากนี้ ทีมวิศวกร (โพราริส) ยังเพิ่มพูนความรู้กับการใช้อุปกรณ์พิเศษใหม่ล่าสุด ซึ่งบริษัทแม่ได้พัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการศึกษาวิธีการซ่อมบำรุง วิธีการส่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ ที่สามารถสื่อสารเชื่อมโยงระหว่างดีลเลอร์กับดีลเลอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ของโลก และบริษัแม่เข้าด้วยกัน
“โพราริสได้อัพเกรดอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่น ทำงานผ่าน Smart Phone หรือโทรศัพท์มือถือระบบ Android (แอนดรอยด์) เชื่อมต่อเข้า Module เพื่อช่วยในการสื่อสารและงานซ่อมบำรุงรถที่ง่ายและรวดเร็ว แทนแล็ปท็อปที่มีขนาดใหญ่ที่ทำให้การอ่านข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟ และระบบกลไกต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้ทันทีทันใดว่า รถเกิดอาการใด ต้องซ่อมบำรุงในส่วนไหนอย่างไร พร้อมทั้งประมวลผล แสดงค่าออกมาเป็นกราฟ ถือได้ว่าเป็นบริษัทรถบิ๊กไบค์รายแรกที่นำแอพพลิเคชั่นดังกล่าวนี้ นำมาใช้งานซ่อมบำรุงอย่างเป็นทางการ สามารถถ่ายรูปหรือถ่าย VDO แล้วส่งไปยังเครือข่ายเน็ตเวิร์คทั่วโลก เพื่อร่วมกันศึกษาและส่งความคิดเห็นถึงกัน ซึ่งช่วยพัฒนาความรู้และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถของ INDIAN-VICTORY”
นายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวว่า เมื่อเปิดเขตการค้าเสรีภูมิภาคอาเซียน (AEC) ผู้ขับขี่บิ๊กไบค์เพื่อมาท่องเที่ยวเมืองไทย และลูกค้าของบริษัทจะได้รับประโยชน์จากอุปกรณ์พิเศษนี้ หากเกิดปัญหาและอยู่ไกลศูนย์บริการ บริษัทสามารถส่งทีมช่างหรือรถโมบายเซอร์วิส ที่มีอุปกรณ์พิเศษนี้ไปช่วยแก้ไขได้ทันที และยังดึงฐานข้อมูลรถลูกค้าจากชาตินั้นๆ มาประกอบการซ่อมบำรุงได้ง่าย สะท้อนให้เห็นว่า INDIAN-VICTORY THAILAND ไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่มีเน็ตเวิร์คเชื่อมต่อกันทั่วโลก รวมถึงโรงงานผลิตรถมาให้การสนับสนุน ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจการบริการหลังการขายที่ดีมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
“ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บริการที่ซอยพัฒนาการ 76 มากเป็น 3 เท่าหรือเพิ่มขึ้นจากช่วงแรกๆ ที่เปิดทำตลาดเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา จาก 30 คันต่อเดือนมาเป็น 100 คันต่อเดือน รวมถึงรถแบรนด์อื่นๆ ที่ไว้วางใจในศักยภาพทีมช่างเทคนิคของเรา เข้ามาใช้บริการซ่อมบำรุงเบื้องต้นอีกส่วนหนึ่ง จึงมีแผนขยายพื้นที่ศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีกราว 3 เท่า จากเดิม 150 ตารางเมตรมาเป็น 400 ตารางเมตร เพิ่มช่องซ่อมจาก 2 ช่องมาเป็น 5-6 ช่อง เพื่อรองรับการบริการทั้งรถรุ่นใหม่ที่จะนำเข้ามาทำตลาด รถจากลูกค้าเดิม และรถแบรนด์อื่นๆ คาดว่าภายในไตรมาสแรกปี 2015 จะแล้วเสร็จ และพร้อมให้การบริการ โดยล่าสุดได้จัดซื้ออุปกรณ์พิเศษมาเพิ่มเติมแล้ว อีกทั้งปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ INDIAN-VICTORY จะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่ขึ้นเป็นแห่งที่ 2 ที่จังหวัดนครราชสีมา”
นายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวในท้ายสุดว่า การเร่งขยายพื้นที่การให้บริการในส่วนของศูนย์บริการและจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ ถือเป็นการยกระดับการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดกับผู้ขับขี่ INDIAN-VICTORY ภายใต้นโยบายหลักที่มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์การบริการที่เป็นเลิศ และรองรับการเปิดเป็นศูนย์ฝึกอบรมทีมช่างเทคนิค สำหรับโชว์รูม-ศูนย์บริการใหม่ขึ้นเป็นแห่งที่ 2 ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่จะเปิดตัวช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ และแห่งใหม่ที่จะทยอยเปิดตัวตามมาในอนาคต
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
นายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเดียน วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิล จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน INDIAN และ VICTORY อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงการส่งทีมช่างเทคนิคของบริษัทเข้าร่วมฝึกอบรมทักษะช่างทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ภายใต้กิจกรรม Polaris Technical Training ณ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย สำนักงานใหญ่ INDIAN-VICTORY ประเทศออสเตรเลีย ที่ดูแลด้านการทำตลาดในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งจัดขึ้นประจำทุกๆ ปี โดยมีผู้แทนจำหน่ายที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค และลาตินอเมริกา (Apla) ประกอบด้วย ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไต้หวัน-ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน อินโดนีเซีย และไทย ภายใต้การกำกับของบริษัทแม่ “โพราริส อินดัสทรีส์” (Polaris Industries สหรัฐอเมริกา) เข้าร่วมอบรมว่า นอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีและงานซ่อมบำรุงรถบิ๊กไบค์ให้ทีมช่างแล้ว ยังเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการนำเข้ารถบิ๊กไบค์ INDIAN และ VICTORY รุ่นใหม่ปี 2015 ที่จะนำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2014
สำหรับโปรแกรมฝึกอบรมครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เริ่มด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นปี 2015 ทั้ง INDIAN รุ่น Scout รุ่น Roadmaster และ VICTORY รุ่น Magnum ในด้านคุณสมบัติ รูปลักษณ์ และส่วนประกอบต่างๆ ครอบคลุมถึงการขับขี่ใช้งานของรถรุ่นใหม่ ขณะที่ภาคปฏิบัติ ทีมวิศวกร (โพราริส) ทำการถอดชิ้นส่วนเครื่องยนต์และถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีต่างๆ ให้ผู้เข้าอบรมได้ศึกษา พร้อมเปิดโอกาสให้ทีมช่างทุกชาติลงมือปฏิบัติตาม
“เครื่องยนต์ ถือเป็นหัวใจสำคัญของรถ หากเรียนรู้ภาคทฤษฏีแล้วไม่ได้นำมาปฏิบัติจริงหรือปฏิบัติเฉพาะในห้องเวิร์คช็อปก็จะไม่มีประโยชน์ เหตุนี้ทีมช่างของเรา ซึ่งมีประสบการณ์สูงเคยผ่านงานซ่อมรถบิ๊กไบค์มาทุกแบรนด์ เป็นผู้ที่ขับขี่รถเองด้วย ที่สำคัญผ่านการอบรมลักษณะนี้ทุกปี จึงขออนุญาตวิศวกรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อขอทบทวนความรู้และลงมือปฏิบัติจริงเป็นการส่วนตัวในทุกขั้นตอนจนประสบความสำเร็จ ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้ทีมช่างเราเกิดความมั่นใจในการนำทักษะความรู้เหล่านี้มาดูแลลูกค้า เพื่อให้เกิดความพึงพอใจและมีประสิทธิภาพสูงสุด”
นอกจากนี้ ทีมวิศวกร (โพราริส) ยังเพิ่มพูนความรู้กับการใช้อุปกรณ์พิเศษใหม่ล่าสุด ซึ่งบริษัทแม่ได้พัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการศึกษาวิธีการซ่อมบำรุง วิธีการส่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ ที่สามารถสื่อสารเชื่อมโยงระหว่างดีลเลอร์กับดีลเลอร์ ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ของโลก และบริษัแม่เข้าด้วยกัน
“โพราริสได้อัพเกรดอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่น ทำงานผ่าน Smart Phone หรือโทรศัพท์มือถือระบบ Android (แอนดรอยด์) เชื่อมต่อเข้า Module เพื่อช่วยในการสื่อสารและงานซ่อมบำรุงรถที่ง่ายและรวดเร็ว แทนแล็ปท็อปที่มีขนาดใหญ่ที่ทำให้การอ่านข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟ และระบบกลไกต่างๆ ของเครื่องยนต์ได้ทันทีทันใดว่า รถเกิดอาการใด ต้องซ่อมบำรุงในส่วนไหนอย่างไร พร้อมทั้งประมวลผล แสดงค่าออกมาเป็นกราฟ ถือได้ว่าเป็นบริษัทรถบิ๊กไบค์รายแรกที่นำแอพพลิเคชั่นดังกล่าวนี้ นำมาใช้งานซ่อมบำรุงอย่างเป็นทางการ สามารถถ่ายรูปหรือถ่าย VDO แล้วส่งไปยังเครือข่ายเน็ตเวิร์คทั่วโลก เพื่อร่วมกันศึกษาและส่งความคิดเห็นถึงกัน ซึ่งช่วยพัฒนาความรู้และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถของ INDIAN-VICTORY”
นายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวว่า เมื่อเปิดเขตการค้าเสรีภูมิภาคอาเซียน (AEC) ผู้ขับขี่บิ๊กไบค์เพื่อมาท่องเที่ยวเมืองไทย และลูกค้าของบริษัทจะได้รับประโยชน์จากอุปกรณ์พิเศษนี้ หากเกิดปัญหาและอยู่ไกลศูนย์บริการ บริษัทสามารถส่งทีมช่างหรือรถโมบายเซอร์วิส ที่มีอุปกรณ์พิเศษนี้ไปช่วยแก้ไขได้ทันที และยังดึงฐานข้อมูลรถลูกค้าจากชาตินั้นๆ มาประกอบการซ่อมบำรุงได้ง่าย สะท้อนให้เห็นว่า INDIAN-VICTORY THAILAND ไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่มีเน็ตเวิร์คเชื่อมต่อกันทั่วโลก รวมถึงโรงงานผลิตรถมาให้การสนับสนุน ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจการบริการหลังการขายที่ดีมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
“ปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บริการที่ซอยพัฒนาการ 76 มากเป็น 3 เท่าหรือเพิ่มขึ้นจากช่วงแรกๆ ที่เปิดทำตลาดเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา จาก 30 คันต่อเดือนมาเป็น 100 คันต่อเดือน รวมถึงรถแบรนด์อื่นๆ ที่ไว้วางใจในศักยภาพทีมช่างเทคนิคของเรา เข้ามาใช้บริการซ่อมบำรุงเบื้องต้นอีกส่วนหนึ่ง จึงมีแผนขยายพื้นที่ศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีกราว 3 เท่า จากเดิม 150 ตารางเมตรมาเป็น 400 ตารางเมตร เพิ่มช่องซ่อมจาก 2 ช่องมาเป็น 5-6 ช่อง เพื่อรองรับการบริการทั้งรถรุ่นใหม่ที่จะนำเข้ามาทำตลาด รถจากลูกค้าเดิม และรถแบรนด์อื่นๆ คาดว่าภายในไตรมาสแรกปี 2015 จะแล้วเสร็จ และพร้อมให้การบริการ โดยล่าสุดได้จัดซื้ออุปกรณ์พิเศษมาเพิ่มเติมแล้ว อีกทั้งปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ INDIAN-VICTORY จะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่ขึ้นเป็นแห่งที่ 2 ที่จังหวัดนครราชสีมา”
นายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวในท้ายสุดว่า การเร่งขยายพื้นที่การให้บริการในส่วนของศูนย์บริการและจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ เหล่านี้ ถือเป็นการยกระดับการบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดกับผู้ขับขี่ INDIAN-VICTORY ภายใต้นโยบายหลักที่มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์การบริการที่เป็นเลิศ และรองรับการเปิดเป็นศูนย์ฝึกอบรมทีมช่างเทคนิค สำหรับโชว์รูม-ศูนย์บริการใหม่ขึ้นเป็นแห่งที่ 2 ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่จะเปิดตัวช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ และแห่งใหม่ที่จะทยอยเปิดตัวตามมาในอนาคต
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring