xs
xsm
sm
md
lg

“ทุนตุรกี” เจาะตลาดอาเซียน ชู “ไทย” ฮับเครื่องไฟฟ้า “เบคโก้”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - “เบคโก้” เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติตุรกีพร้อมลุยเอเชีย หวัง 3 ปีรายได้ทะลุ 1.6 หมื่นล้านบาท หลังประสบความสำเร็จรั้งบัลลังก์อันดับ 1 ในอังกฤษมาแล้ว เล็งปั้น “ไทย” เป็นฮับอาเซียน คาดใช้งบกว่า 3.2 พันล้านบาท

นายเลแวนต์ ชาคึโอลู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทั่วโลก บริษัท อาร์เซลิก เอเอส จำกัด เจ้าของแบรนด์ “เบคโก้” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “คอช กรุ๊ป” (Koc Group) มีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เปิดเผยว่า “เบคโก้” ถือเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำของโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในอังกฤษ และเป็นอันดับ 2 ในยุโรป ซึ่งปัจจุบันมีจำหน่ายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก หรือเข้าถึงผู้ใช้งานกว่า 440 ล้านคน

ล่าสุดบริษัทฯ มีความพร้อมในการทำตลาดในเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนที่กำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 โดยมอบหมายให้บริษัท ไตตัน โค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นตัวแทนการจัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายในประเทศไทย ด้วยความพร้อมในแง่พนักงานที่มีกว่า 220 คน เชื่อว่าใน 2 ปีจะมียอดขายคิดเป็น 5% ของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนของอาเซียน หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท จากการจำหน่ายในประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยในส่วนของประเทศไทยคาดว่าจะมีรายได้คิดเป็น 10-12% จากยอดขายที่วางไว้

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมีแผนศึกษาใช้ไทยเป็นฐานการผลิตสำหรับตลาดในประเทศและในอาเซียนด้วย โดยจะสรุปให้เรียบร้อยภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 3.2 พันล้านบาท สำหรับโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ทั้งตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องล้างจาน เป็นต้น จากปัจจุบัน “เบคโก้” มีฐานผลิตทั่วโลกกว่า 14 แห่ง
ผลิตภัณฑ์ตู้เย็น 1 ในเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มโฮมแอพพลายแอนซ์ที่ “เบคโก้” สินค้าจากตุรกีจะรุกตลาดประเทศไทย
“สาเหตุที่เลือกประเทศไทยเป็นฐานผลิตแห่งใหม่ เนื่องจากเห็นว่ามีความแข็งแกร่งในหลายๆ ด้าน และมีพื้นที่ตั้งเป็นใจกลางของอาเซียน ที่สำคัญมีความพร้อมในระบบสาธารณูปโภค รวมถึงมีโรงงานผลิตชิ้นส่วนต่างๆ มากมาย และมีบรรยากาศที่น่าจะลงทุน ที่สำคัญคนไทยมีนิสัยที่ดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน”

นายเลแวนต์ กล่าวต่อว่า สำหรับการทำตลาดในไทยนั้นเบื้องต้นจะวางจำหน่ายตู้เย็น เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้า เป็นการนำเข้ามาวางจำหน่ายในราคาที่ใกล้เคียงกับแบรนด์ชั้นนำ ภายใต้จุดแข็งในเรื่องคุณภาพ เทคโนโลยี และดีไซน์ พร้อมรับประกัน 12 ปี โดยจะวางจำหน่ายที่ร้านค้าพรีเมี่ยมกว่า 30 แห่ง เช่น เพาเวอร์บาย, เพาเวอร์มอลล์, โฮมโปร และร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านชั้นนำ และจะขยายเป็น 100 ร้านค้าในปี 2558

สำหรับ “คอช กรุ๊ป” มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี มียอดขายรวมกันประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท (3.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ) จาก 4 กลุ่มธุรกิจใหญ่คือ สินค้าอุปโภคบริโภคประเภทคงทนถาวร เครื่องใช้ไฟฟ้า พลังงาน ยานยนต์ และบริการทางการเงิน โดยในอนาคตยังมีแผนที่จะนำธุรกิจในเครือเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยและเอเชียอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น