มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เชื่อมั่นตลาดรถช่วงไตรมาสุดท้ายจะฟื้นตัว สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นฟื้นกลับมา เตรียมสู้ศึกโค้งสุดท้ายเสริมความแข็งแกร่งผู้จำหน่าย ปูพรมให้ความรู้ด้านการตลาด พร้อมเดินหน้าจัดอัดแคมเปญ จัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า และขยายโชว์รูมบริการอย่างต่อเนื่อง
มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดรถยนต์ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาว่าตลาดมีการชลอตัวอย่างมาก เห็นได้จากยอดขายรถยนต์รวม(ไม่รวมรถบรรทุก) ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 486,000 คัน ลดลง 39.3% โดยมิตซูบิชิ มียอดขายอยู่ที่ 37,310 คัน และได้ตั้งเป้ายอดการจำหน่ายในปีงบประมาณ 2557 (เมษายน 2557- มีนาคม 2558) ไว้ประมาณ 9% ของตลาดรถรวมในไทยทั้งหมด ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 900,000- 920,000 คัน พร้อมตั้งเป้าการส่งออกไว้ที่ 320,000 คัน เติบโตขึ้น 8%
“บริษัทฯ เชื่อว่ายอดขายรถยนต์ในช่วงไตรมาสุดท้ายของปีนี้น่าจะเติบโตขึ้น สอดคล้องกับการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ระบุว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะมีอัตราการขยายตัวร้อยละ1.5-2.0 โดยจะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง ตามการใช้จ่ายของภาครัฐ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ที่มีต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง” อูเอะกิกล่าวและว่า
สำหรับมาตรการกระตุ้นยอดขาย เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ นอกเหนือจากการแนะนำรถรุ่นใหม่แล้ว บริษัทฯ จะยังคงเน้นการจัดกิจกรรมแบบเข้าถึงตัวลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดกิจกรรมโรดโชว์และการจัดกิจกรรมที่โชว์รูมในรูปแบบต่างๆ ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด พร้อมการจัดทำข้อเสนอพิเศษ ทั้งดอกเบี้ยต่ำที่มาพร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และข้อเสนอพิเศษอื่นๆ
ในขณะที่การจัดกิจกรรมทางการตลาดนั้น บริษัทฯ จะเน้นให้ผู้จำหน่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการจัดกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่มากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดได้ร่วมกับผู้จำหน่ายแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานด้านการตลาดโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำหน้าที่ประสานงานการจัดกิจกรรมต่างๆ ระหว่างผู้จำหน่ายกับสำนักงานใหญ่ รวมทั้งสร้างสรรรค์กิจกรรมตลอดจนดูแลด้านสื่อโฆษณาและงานประชาสัมพันธ์ต่างๆ สำหรับพื้นที่การขายของตนเอง เพราะเชื่อว่าผู้จำหน่ายจะเป็นคนที่เข้าใจการตลาดในพื้นที่ดีที่สุด ซึ่งคาดว่าแนวทางดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งกับลูกค้าและผู้จำหน่ายในพื้นที่
ในส่วนของแผนการดำเนินงานในระยะยาวนั้น นอกเหนือจากการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบัน โดยการกำหนดแนวทางอย่างเป็นระบบ พร้อมกับการจัดกิจกรรมแบบเฉพาะกลุ่มกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของกิจกรรมความบันเทิง ท่องเที่ยว กีฬา และกิจกรรมเพื่อสังคมแล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย โดยการขยายจำนวนโชว์รูมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ลูกค้าหาซื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีโชว์รูม กว่า 217 แห่งทั่วประเทศ และคาดว่าจะขยายเป็น 230 แห่งภายในปีงบประมาณนี้
นอกจากนี้ยังเน้นการปรับปรุงภาพลักษณ์รวมถึงรูปแบบของการบริการหลังการขายของมิตซูบิชิให้มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศโดยมีการอบรมพนักงานของผู้จำหน่ายกว่า 400 หลักสูตรต่อปี พร้อมการประเมิณความรู้ความสามารถของพนักงานอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นและเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการบริการให้เป็นไปตามมาตรฐานของบริษัทฯ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้าที่จะส่งผลต่อการสร้างยอดขายในระยะยาวของบริษัทต่อไป