หากจะพูดถึงตลาดรถอเนกประสงค์ ในบ้านเรา ส่วนใหญ่เป็นรถนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซียเกือบหมด ทั้งนี้เนื่องจากเป็นฐานการผลิตรถแบบเอ็มพีวีในภูมิภาคนี้ ดังนั้นเราจึงเห็นรถอเนกประสงค์ที่ค่ายรถนำเข้ามาจำหน่ายในไทยหลายรุ่น หลากยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น เชฟโรเลต สปิน ,ซูซูกิ เออร์ติกา ,ฮอนด้า ฟลีต ,โตโยต้า อแวนซา (3 แถว 7 ที่นั่ง) และล่าสุดค่ายนิสสัน นำ “ลิวิน่า” มาชิงเค้กก้อนนี้เพิ่มขึ้นอีกราย แม้จะเปิดตัวว่าเป็นคอมแพ็คเอสยูวีมี 2 แถว5 ที่นั่งก็ตาม แต่อรรถประโยชน์ใช้สอยใกล้เคียงกับรุ่นรถที่กล่าวมาข้างต้น โดยเฉพาะแหล่งที่มา
นิสสัน ลิวิน่า (Nissan Livina) แนะนำสู่ตลาดเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา พร้อมกวาดยอดขายกว่า 1,000 คันต่อเดือน และถูกจัดวางในตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่จับกลุ่มลูกค้าแบบครอบครัว ถึงแม้ขนาดจะไม่ใหญ่โตเท่าเอสยูวีปกติก็ตาม ล่าสุดบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จัดทดสอบรถรุ่นดังกล่าวบนเส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี ด้วยระยะทางกว่า 300 กม.
สำหรับดีไซน์การออกแบบภายนอกของ ลิวิน่า มากับกระจังหน้าทรงวีเชพ (V Shape )เอกลักษณ์เฉพาะนิสสัน รับกับไฟหน้าแบบฮาโลเจน พร้อมไฟท้ายดีไซน์เฉี่ยว เสริมด้วยกันชนมาดเข้มสีดำ พร้อมการ์ดกันกระแทกรอบคันสีเงินเมทัลลิก อีกทั้งตกแต่งสปอยเลอร์หลังและราวหลังคา (Roof Rail) ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ซึ่งดูด้วยโดยรวมแล้วในความคิดเห็นส่วนตัวถือว่า ผ่าน
ขณะที่ภายในห้องโดยสาร ตกแต่งโทนสีดำและเงินเมทัลลิก สไตล์เรียบง่ายดูดี มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิงครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่น DVD หน้าจอทัชสกรีนขนาด 6.1 นิ้ว และระบบเชื่อต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย สะดวกด้วยช่องต่อ USB และ AUX รวมถึงเบาะหนัง (ตัวท็อป) ช่องเก็บของจุกจิกและวางแก้วน้ำ แถมมีช่องแอร์สำหรับที่นั่งด้านหลังอีกต่างหาก
จะว่าไปแล้วภายในกว้างขวางพอสมควรหลังเขาไปนั่ง ไม่อึดอัด โดยเฉพาะด้านหลังมีช่องว่างของช่วงขามาก บวกกับความจุดสัมภาระสูงสุดได้ 769 ลิตร และเบาะที่นั่งสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 หรือจะพับเบาะด้านหลังให้ราบลงแม้จะไม่เรียบ แต่ก็สามารถจุของได้หลายขนาดและเยอะกว่าซีดานทั่วไป
และด้วยจุดเด่นที่นิสสันคุยว่า ลิวิน่า มีระยะความสูงจากพื้น 175 มิลลิเมตร สูงกว่ารถแฮทช์แบค หรือซีดานทั่วไป จึงทำให้ทัศนวิสัยในการมอง-การขับขี่ ที่เหนือว่า ขับง่ายขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางในเมืองจากจุดสตาร์ทอาคารนันทวัน สู่ถนนพระราม 4 ซึ่งมีรถค่อนข้างเยอะ ความคล่องตัวของ ลิวิน่า ทำได้ดีทีเดียว
ลิวิน่า มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.6 ลิตร พร้อมระบบหัวฉีดคู่ (Dual Injector System) ระบบวาล์วแปรผันคู่คู่ Twin C-VTC ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 153 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT เป็นไปอย่างนุ่มนวล ไม่มีสะดุด
ขณะที่วิ่งนอกเมือง ความสามารถตอบสนองอาจจะไม่ทันใจเท่าที่ควร หากต้องการเร่งแซงหรือเรียกความเร็วทำได้พอประมาณ ในบางจังหวะอาจะต้องใช้การคลิกดาวน์ช่วยบ้าง และหากกดแรง ๆ หน่อย จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างดังเข้ามาในห้องโดยสาร แต่ถ้าขับแบบเรื่อย ๆ ไม่เน้นแรง ก็ถือว่าเป็นรถขับง่าย ขับสบาย ส่วนช่วงล่างและสมรถนะการทรงตัว ให้ความนุ่มนวลและหนึบ เกาะถนน
สำหรับมิติรถที่ยาวถึง 4,310 มิลลิเมตร กว้างถึง 1,735 มิลลิเมตร สูง 1,635 มิลลิเมตร และฐานล้อที่ยาวถึง 2,600 มิลลิเมตร พร้อมระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านความปลอดภัยก็ไม่น้อยหน้าใคร มาทั้งกุญแจอัจฉริยะ Immobilizer ทุกรุ่นมาพร้อมกับสัญญากันขโมยเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมคู่หน้า SRS Airbags ระบบเบรกกันล้อล็อค ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบเซ็นทรัลล็อค ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
สรุป หากคุณกำลังมองหารถเล็ก สำหรับครอบครัวเล็กๆ ขนของได้เยอะ ไม่ต้องใหญ่โตมาก ขับง่าย ขับสบาย ไม่เน้นแรง ลิวิน่า เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ราคาตัวท็อปสูงเอาการอยู่เหมือนกัน ลิวิน่า มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น 1.6E MT ราคา 6.72 แสนบาท รุ่น 1.6E CVT ราคา 7.12 แสนบาท และรุ่น 1.6V CVT ราคา 7.42 แสนบาท
