xs
xsm
sm
md
lg

“ยามาฮ่า”ลั่นยึดเบอร์หนึ่งบิ๊กไบค์-ลุ้นไทยฐานผลิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดบิ๊กไบค์ในไทยกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากแรงหนุนหลักของหลายยี่ห้อดังประกาศปักหมุดให้เป็นฐานการผลิตที่สำคัญอีกแห่งรองจากประเทศบ้านเกิด ขณะที่อีกหนึ่งค่ายใหญ่จากแดนปลาดิบอย่าง “ยามาฮ่า” หากเทียบกับคู่แข่งสัญชาติเดียวกันแล้ว ดูจะเป็นแบรนด์เดียวที่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือทิศทางที่ชัดเจน...“ASTVผู้จัดการมอเตอร์ริง” จึงขอจับเข่าคุย เกษมพงศ์ สินธุโสภณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายวางแผนการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เกี่ยวกับประเด็นแผนธุรกิจการทำตลาดบิ๊กไบค์ที่สาวกค่ายส้อมเสียงต่างรอคอย
เกษมพงศ์ สินธุโสภณ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายวางแผนการค้า ดูแลการทำตลาดบิ๊กไบค์โดยตรง
ภาพรวมตลาดบิ๊กไบค์

ยามาฮ่ามองตลาดรถประเภทนี้ว่า มีอัตราการเติบโตที่สูงมาก เมื่อเทียบกับยอดขายของ 4-5 ปีที่ผ่านมา และเราให้ความสำคัญมาโดยตลอด เห็นได้จากการที่ยามาฮ่าเริ่มธุรกิจบิ๊กไบค์ตั้งแต่ปี 2007 หรือหากเทียบกับคู่แข่งเราแล้วถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เริ่มบุกเบิกตลาดมาก่อน ซึ่งโมเดลที่วางจำหน่ายเป็นรูปแบบนำเข้าทั้งคันจากประเทศญี่ปุ่น ขณะนั้นตลาดรวมมียอดขายประมาณ 700 คันต่อปี

แต่เมื่อมีการขยายฐานการประกอบในไทย ช่วงหลังตลาดบิ๊กไบค์จึงเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ทำให้ตลาดรวมเริ่มขยับขึ้นไปถึง 6,000 คันต่อปี และล่าสุดปีที่ผ่านมา นับเฉพาะบิ๊กไบค์ขนาด 500 ซีซี.ขึ้นไป มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด สามารถปิดยอดขายรวมกันได้ประมาณ 12,000 คัน หรือเฉลี่ยประมาณ 1,000 คันต่อเดือน ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่า ยามาฮ่าแม้จะมียอดขายเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเติบโตไม่เท่าตลาด เพราะกลุ่มที่มียอดขายมากที่สุดเป็นรถที่ผลิตในประเทศ
ตัวแรงประจำค่าย R1 สนนราคา 799,000 บาท
ประชากรของยามาฮ่า

ยอดขายของยามาฮ่าจากปีแรกๆ ที่เริ่มทำตลาด มีประมาณ 100 คันต่อปี สำหรับปีที่ผ่านมาเราเติบโตมากถึงเกือบ 300 คัน และหากนับประชากรทั้งหมดมีประมาณ 1,000 คัน โดยแบ่งสัดส่วนเป็นประเภทบิ๊กสกู๊ตเตอร์ 40% สปอร์ต 30% เน็กเก็ต 15% และทัวริ่ง 15% ขณะที่ในกลุ่มรถนำเข้าหรือที่นับเป็นคู่แข่งตอนนี้มีฮาเลย์-เดวิดสันเป็นอันดับที่หนึ่ง รองลงมาใกล้เคียงกันระหว่างยามาฮ่าและบีเอ็มดับเบิลยู

เป้าหมายและกลยุทธ์

สำหรับตลาดโดยรวมในปีนี้คาดการณ์ว่าอาจจะสูงถึง 20,000 คัน โดยจำแนกได้เป็นกลุ่มประกอบในประเทศประมาณ 85% และกลุ่มรถนำเข้าประมาณ 15% ส่วนเป้าหมายของยามาฮ่าต้องการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งหวังไว้ว่าจะขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในกลุ่มรถนำเข้าให้ได้ เพราะมั่นใจว่ามีศักยภาพในการรุกตลาดปีนี้ จากโมเดลใหม่ที่ทำราคาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

โดยโมเดลล่าสุดที่เพิ่งนำเข้ามาจำหน่ายรุ่นโบลท์ อาร์ (Bolt R) บิ๊กไบค์ประเภทครุยเซอร์ เครื่องยนต์ขนาด 942 ซีซี. สนนราคา 465,000 บาท เมื่อเทียบกับรถที่ผลิตในประเทศราคาแทบไม่หนีกันมากนัก แต่เราได้เปรียบตรงที่จุดขายของสมรรถนะและภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ต อีกทั้งการเป็นโมเดลนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคันยังเป็นจุดแข็งที่ดี ซึ่งคาดว่ายอดขายของโบลท์ อาร์ จะนำหน้ารถทุกกลุ่ม ล่าสุด มียอดจองไปแล้ว 40 คัน และน่าจะมีสัดส่วนประมาณ 35% จากยอดขายทั้งหมดของบิ๊กไบค์ยามาฮ่าในปี 2014

ทั้งนี้ในส่วนของราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงมากนักจะเป็นตัวช่วยในการต่อยอดให้ลูกค้าขยับมาเล่นรุ่นที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของพฤติกรรมผู้บริโภค ส่วนใหญ่จะเริ่มจากโมเดลล่างสุด เหมือนกับทดลองว่าจะขี่ได้หรือไม่ พอสักพักเมื่อคุ้นมือแล้วจะรู้สึกว่าต้องการความแรงเพิ่มขึ้น
โบลท์ อาร์ เปิดราคา 465,000 บาท กระแสตอบรับดีเกินคาด
แผนส่งเสริมการตลาด

กิจกรรมส่งเสริมการขายเราทำอย่างต่อเนื่อง และเน้นเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง ซึ่งยอมรับว่าคนนอกที่ไม่ได้เล่นบิ๊กไบค์อาจจะรู้จักเราน้อยเกินไป อย่างไรก็ตาม หากลองไปถามคนที่ขี่บิ๊กไบค์ เชื่อว่าต้องรู้จักยามาฮ่าไรเดอร์คลับ(ศูนย์จำหน่ายบิ๊กไบค์ยามาฮ่า) แน่นอน เพราะเราทำตลาดผ่านกิจกรรมที่เกี่ยวกับบิ๊กไบค์ทุกอย่าง จนเกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก หากวัดกันที่ฐานลูกค้า ยามาฮ่าอาจมีไม่เยอะ แต่ถ้าวัดที่ความพึงพอใจเชื่อว่าเราไม่เป็นรองใคร

ยกตัวอย่าง กิจกรรมพาไปดูการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกในรายการโมโต จีพี มีจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และมีอยู่ปีหนึ่ง จังหวะดี โอกาสเหมาะ เราปิดสนามให้ลูกค้าได้ลงไปขี่รถและสัมผัสประสบการณ์ในสนามด้วยตัวเอง ซึ่งกิจกรรมนี้มันเหมือนฝันของนักบิดทุกคน จากครั้งนั้นถึงวันนี้ในกลุ่มลูกค้ายังมีคุยกันเสมอว่าน่าจะทำอีก จึงทำให้หลายคนบอกต่อว่า มาขี่ยามาฮ่าแล้วมีอะไรที่พิเศษเหนือความคาดหมายจริงๆ เมื่อเขานำเรื่องดีๆ ไปบอกต่อ เราจะได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นจากตรงนี้ประมาณ 50% เลยทีเดียว

นอกจากทริปใหญ่ประจำปี สำหรับกิจกรรมที่มีตลอดแทบทุกเดือนคือ การอบรมขับขี่ปลอดภัย เพราะเราเชื่อว่า ความสนุกหรือความสุขของการขี่บิ๊กไบค์คือความปลอดภัย เราจึงเน้นหลักสูตรการสอนไรด์ดิ้งคอร์ส ด้วยความถี่เฉลี่ยเดือนละครั้ง เปิดสอนทั้งที่ศูนย์ใหญ่ถนนบางนา-ตราด และยกโรงเรียนออกไปสอนตามภูมิภาคที่มีดีลเลอร์ของเราตั้งอยู่

เครือข่ายการขายในปัจจุบัน

ช่องทางการจำหน่ายของยามาฮ่าตอนนี้หากนับรวมจำนวนทั้งหมดมี 7 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ใหญ่ในกรุงเทพฯ ที่ถนนรัชดา ในต่างจังหวัดมีดีลเลอร์ที่นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และจุดขายที่พัทยาอีกสองแห่ง โดยมีแผนจะขยายดีลเลอร์ให้มากขึ้น และประมาณกลางปีนี้จะเปิดศูนย์ยามาฮ่าไรเดอร์คลับแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ซึ่งจะย้ายจากถนนรัชดา ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนเลือกสถานที่
Super Tenere ราคาเริ่มต้น 840,000 บาท
โมเดลใหม่ปี 2014

แม้ว่ารุ่นโบลท์ อาร์ จะนำเข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่เรานับเป็นหนึ่งในโมเดลใหม่สำหรับรุกตลาดปี 2014 โดยจะมีตามมาเร็วๆ นี้อีกหนึ่งรุ่นแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งจะเปิดตัวในงานบางกอก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2014 (เลื่อนจากเดิม 5-9 ก.พ. ไปเป็น 2-6 ก.ค.นี้) ส่วนรุ่นอื่นๆ จะเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยนำเซกเม้นใหม่ที่ยังไม่เคยทำตลาด ในขนาดเครื่องยนต์ระดับกลาง พร้อมทยอยเปิดตัวในอันดับต่อไป

(ทั้งนี้สำหรับโมเดลใหม่ แม้ว่าผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายวางแผนการค้า จะไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด แต่ช่วงเวลาดังกล่าวค่อนข้างจะสอดคล้องกับการเปิดรับจองโมเดลใหม่ของดีลเลอร์ที่ขอนแก่น ซึ่งปล่อยภาพรุ่น เอฟแซด-09 (FZ-09) เน็กเก็ตไบค์ล่าสุด เครื่องยนต์ Crossplane 4 จังหวะ 3 สูบเรียง ขนาด 847 ซีซี. โดดเด่นด้วยน้ำหนักตัวรถเพียง 188 กก. ให้ความแรงสูงสุด 115 แรงม้า ไว้ในเครือข่ายสังคมออนไลน์)
ดีลเลอร์ที่ขอนแก่นเปิดรับจองโมเดลใหม่ เอฟแซด-09 ก่อนใครเพื่อน
ลุ้นดันไทยฐานผลิต

สำหรับโอกาสขึ้นไลน์ประกอบบิ๊กไบค์ในไทยมีความเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัทแม่หรือทางยามาฮ่าที่ญี่ปุ่นจะคิดเห็นอย่างไร โดยเรารายงานข้อมูลอยู่ตลอดว่าตลาดในภูมิภาคนี้กำลังเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มราคาตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไป ซึ่งตรงกับข้อมูลที่เขากำลังศึกษาอยู่ด้วย และได้ข้อสรุปว่าในภูมิภาคเอเชียตลาดบิ๊กไบค์กำลังมาแรง และคงต้องมีการขยายฐานการผลิตแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยามาฮ่ามีโรงงานผลิตรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กในแทบทุกประเทศ ทั้งในไทย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินเดีย และจีน ส่วนการผลิตบิ๊กไบค์แม้ว่ายังไม่ตัดสินใจจะใช้ที่ใดเป็นฐานการประกอบ แต่มีจุดสังเกตุว่าทุกยี่ห้อของญี่ปุ่นต่างประกาศเลือกประเทศไทยหมดแล้ว ดังนั้นสำหรับยามาฮ่าเองก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น