ค่ายรถภารตะ “ทาทา” ในประเทศไทย เกิดความสั่นคลอนไม่น้อย เมื่อผู้บริหารไทยระดับสูงลาออกพร้อมๆ กัน ท่ามกลางกระแสข่าวเกิดปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจ แม้จะมีการส่งกรรมการผู้จัดการ ทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย คนใหม่จากอินเดียวมากุมบังเหียนก็ตาม จากปัญหาและการเปลี่ยนแปลงการบริหารใหม่ “คาร์ล สลิม” นายใหญ่ของทาทา มอเตอร์ส ประเทศอินเดียบริษัทแม่ จึงต้องออกโรงทำความเข้าใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า รวมถึงพันธมิตรต่างๆ ในไทย…
ข่าวปัญหารถและผู้บริหารลาออก
ปัญหาของทาทาในประเทศไทยมีอยู่จริง แต่ไม่มากเหมือนกับข่าวที่เกิดขึ้น ยิ่งปัญหาสภาพคล่องขอยืนยันว่าไม่มี ขณะที่เรื่องของตัวรถอาจจะมีปัญหาบ้าง แต่ปัจจุบันทาทาได้แก้ไขเรียบร้อย และในส่วนรถลูกค้ากำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ สำหรับผู้บริหารชาวไทยที่ลาออกไม่ใช่เกิดจากปัญหา แต่มาจากเหตุผลส่วนตัวมากกว่า และตอนนี้ได้มีการแต่งตั้งคุณซานเจย์ มิชรา เป็นกรรมการผู้จัดการทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทยคนใหม่ มาแทนคุณอาจิต เวนทาคารามาน ที่จะย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ในอินเดีย นอกจากนี้ตัวผมเองยังเข้ามาดูแลการดำเนินงานใกล้ชิด ด้วยการเป็นประธานกรรมการของบอร์ดบริหารในไทยด้วย และที่สำคัญทาทาพร้อมเปิดกว้างรับผู้บริหารทุกเชื้อชาติเข้ามาร่วมงานเพิ่ม
ทิศทางของทาทาในไทยจากนี้ไป
ตลาดไทยมีความสำคัญและมีโอกาสในการที่เราจะเติบโต เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ และแอฟริกาใต้ การที่ผมเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดในตลาดเหล่านี้ จึงแสดงให้เห็นความสำคัญ ไม่ใช่มาไทยเพราะมีปัญหา ผมเข้ารับตำแหน่งทาทา มอเตอร์สเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มีนโยบายชัดเจนที่จะเน้นธุรกิจในระดับนานาชาติ นอกเหนือจากตลาดอินเดีย เพราะประเทศที่กล่าวมาล้วนมีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของทาทาให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ดังนั้นจึงได้กำหนดภารกิจไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตลาด และผลิตภัณฑ์ที่จะต้องหลากหลาย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว และปัจจุบันทาทามีผลิตภัณฑ์ที่สามารถรองรับตลาดได้ยาวถึง 4 ปีข้างหน้า ที่สำคัญตลาดขนาดใหญ่อย่างไทยและอาเซียน จำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรองรับ มีเครือข่ายและบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง ความพร้อมทางด้านการเงิน และการให้ความสำคัญกับลูกค้า ซึ่งจากการเดินทางมาครั้งนี้ได้พบกับตัวแทนจำหน่าย สถาบันการเงิน และโรงงานประกอบรถยนต์ให้กับทาทา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดี
ผลิตภัณฑ์ใหม่จะนำมาทำตลาด
ทาทายังคงจะเน้นที่ไปตลาดรถเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของทาทาไม่ว่าจะเป็นในไทยหรือทั่วโลก จะเห็นว่าทาทามียอดขายในตลาดเพื่อรถการพาณิชย์เป็นอันดับ 4 ของโลก ปัจจุบันไทยมีรถทำตลาดเป็นปิกอัพ ทาทา ซีนอน ที่มีทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจี (CNG) รวมถึงปิกอัพที่มีเพลาลอยเพื่อการบรรทุกหนัก และปิกอัพเล็ก ทาทา ซูเปอร์เอช เครื่องยนต์ดีเซล 1.4 ลิตรทำตลาด
แต่แน่นอนหลังจากนั้นจะมีการขยายไปยังรถยนต์นั่ง โดยในช่วงไตรมาสสามของปีนี้จะมีการเปิดตัว “ทาทา นาโน” สู่ตลาดไทย หลังจากได้มีการนำเข้าบางส่วนมาทดลองตลาด ปรากฎว่าได้รับการตอบรับดีพอสมควร จึงเชื่อมั่นว่าหลังจากเปิดตัวสู่ตลาดไทยอย่างเป็นทางการ จะช่วยผลักดันยอดขายของทาทาได้เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีคู่แข่งในตลาด
นาโนในอินเดียยอดขายชะลอตัว
การเปิดตัวทาทา นาโน ในอินเดียครั้งแรก ถูกวางให้เป็นรถราคาถูก เพื่อให้ประชาชนชาวอินเดียเป็นเจ้าของได้ง่าย เป็นเรื่องของการวางตำแหน่งสินค้า แต่ไม่ใช่ว่าตัวผลิตภัณฑ์ไม่ดี ตรงนี้อาจจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ไม่ดีนัก แต่หลังจากเข้ามารับตำแหน่งได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ โดยได้มีการปรับรายละเอียดอุปกรณ์ให้เยอะขึ้น และเช่นเดียวกับประเทศไทยได้มีสเปกที่เป็นเฉพาะของตลาดไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของคนไทยโดยตรง
ลงทุนใหม่และจะตั้งโรงงานเอง
จนถึงปัจจุบันทาทาได้มีการลงทุนไปมากกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการดำเนินงานในไทย และทาทาจะพยายามทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด จึงยังไม่มีการลงทุนใหม่ในช่วงนี้ แต่แน่นอนเมื่อมียอดขายระดับ 20,000 คันต่อปี จุดนั้นทาทาจะต้องตั้งโรงงานเป็นของตนเอง จากปัจจุบันที่จ้างโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ ในฐานะผู้ถือหุ้นบางส่วนในการประกอบรถทาทาในไทยให้อยู่ และเป็นไปได้ที่จะใช้ไทยเป็นฐานผลิต ทาทา นาโน ส่งออกภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ทาทายังมีการเซ็นสัญญา เป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซีย และขณะกำลังดำเนินการในรายละเอียดอยู่ แต่จะเป็นแบบไหนดูที่ความเหมาะสมเป็นหลัก ทั้งนี้การขยายการลงทุนไปอินโดนีเซีย จะเป็นการสนับสนุนระหว่างทาทาในไทยและอินโดนีเซีย ไม่ใช่การแข่งขันแน่นอน
การยอมรับต่อแบรนด์ทาทา
ภาพลักษณ์ของแบรนด์ทาทาอาจจะเกิดปัญหาบ้าง แต่จากการดำเนินงานจากนี้ไป เชื่อว่าลูกค้าจะยังให้โอกาสอยู่ และที่สำคัญทาทามีมากกว่า 100 ธุรกิจ ตรงนี้น่าจะส่งเสริมให้กับแบรนด์ทาทาได้ แต่สิ่งสำคัญที่จะได้รับการยอมรับ ต้องมาจากการกระทำมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ คุณภาพ และบริการ สิ่งเหล่านี้จะแปรมาเป็นการยอมรับของลูกค้าดีที่สุด
ข่าวปัญหารถและผู้บริหารลาออก
ปัญหาของทาทาในประเทศไทยมีอยู่จริง แต่ไม่มากเหมือนกับข่าวที่เกิดขึ้น ยิ่งปัญหาสภาพคล่องขอยืนยันว่าไม่มี ขณะที่เรื่องของตัวรถอาจจะมีปัญหาบ้าง แต่ปัจจุบันทาทาได้แก้ไขเรียบร้อย และในส่วนรถลูกค้ากำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ สำหรับผู้บริหารชาวไทยที่ลาออกไม่ใช่เกิดจากปัญหา แต่มาจากเหตุผลส่วนตัวมากกว่า และตอนนี้ได้มีการแต่งตั้งคุณซานเจย์ มิชรา เป็นกรรมการผู้จัดการทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทยคนใหม่ มาแทนคุณอาจิต เวนทาคารามาน ที่จะย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ในอินเดีย นอกจากนี้ตัวผมเองยังเข้ามาดูแลการดำเนินงานใกล้ชิด ด้วยการเป็นประธานกรรมการของบอร์ดบริหารในไทยด้วย และที่สำคัญทาทาพร้อมเปิดกว้างรับผู้บริหารทุกเชื้อชาติเข้ามาร่วมงานเพิ่ม
ทิศทางของทาทาในไทยจากนี้ไป
ตลาดไทยมีความสำคัญและมีโอกาสในการที่เราจะเติบโต เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ และแอฟริกาใต้ การที่ผมเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดในตลาดเหล่านี้ จึงแสดงให้เห็นความสำคัญ ไม่ใช่มาไทยเพราะมีปัญหา ผมเข้ารับตำแหน่งทาทา มอเตอร์สเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มีนโยบายชัดเจนที่จะเน้นธุรกิจในระดับนานาชาติ นอกเหนือจากตลาดอินเดีย เพราะประเทศที่กล่าวมาล้วนมีศักยภาพในการเติบโต ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของทาทาให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ดังนั้นจึงได้กำหนดภารกิจไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตลาด และผลิตภัณฑ์ที่จะต้องหลากหลาย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว และปัจจุบันทาทามีผลิตภัณฑ์ที่สามารถรองรับตลาดได้ยาวถึง 4 ปีข้างหน้า ที่สำคัญตลาดขนาดใหญ่อย่างไทยและอาเซียน จำเป็นต้องมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรองรับ มีเครือข่ายและบริการหลังการขายที่แข็งแกร่ง ความพร้อมทางด้านการเงิน และการให้ความสำคัญกับลูกค้า ซึ่งจากการเดินทางมาครั้งนี้ได้พบกับตัวแทนจำหน่าย สถาบันการเงิน และโรงงานประกอบรถยนต์ให้กับทาทา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดี
ผลิตภัณฑ์ใหม่จะนำมาทำตลาด
ทาทายังคงจะเน้นที่ไปตลาดรถเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของทาทาไม่ว่าจะเป็นในไทยหรือทั่วโลก จะเห็นว่าทาทามียอดขายในตลาดเพื่อรถการพาณิชย์เป็นอันดับ 4 ของโลก ปัจจุบันไทยมีรถทำตลาดเป็นปิกอัพ ทาทา ซีนอน ที่มีทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจี (CNG) รวมถึงปิกอัพที่มีเพลาลอยเพื่อการบรรทุกหนัก และปิกอัพเล็ก ทาทา ซูเปอร์เอช เครื่องยนต์ดีเซล 1.4 ลิตรทำตลาด
แต่แน่นอนหลังจากนั้นจะมีการขยายไปยังรถยนต์นั่ง โดยในช่วงไตรมาสสามของปีนี้จะมีการเปิดตัว “ทาทา นาโน” สู่ตลาดไทย หลังจากได้มีการนำเข้าบางส่วนมาทดลองตลาด ปรากฎว่าได้รับการตอบรับดีพอสมควร จึงเชื่อมั่นว่าหลังจากเปิดตัวสู่ตลาดไทยอย่างเป็นทางการ จะช่วยผลักดันยอดขายของทาทาได้เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีคู่แข่งในตลาด
นาโนในอินเดียยอดขายชะลอตัว
การเปิดตัวทาทา นาโน ในอินเดียครั้งแรก ถูกวางให้เป็นรถราคาถูก เพื่อให้ประชาชนชาวอินเดียเป็นเจ้าของได้ง่าย เป็นเรื่องของการวางตำแหน่งสินค้า แต่ไม่ใช่ว่าตัวผลิตภัณฑ์ไม่ดี ตรงนี้อาจจะทำให้เกิดภาพลักษณ์ไม่ดีนัก แต่หลังจากเข้ามารับตำแหน่งได้มีการปรับเปลี่ยนใหม่ โดยได้มีการปรับรายละเอียดอุปกรณ์ให้เยอะขึ้น และเช่นเดียวกับประเทศไทยได้มีสเปกที่เป็นเฉพาะของตลาดไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของคนไทยโดยตรง
ลงทุนใหม่และจะตั้งโรงงานเอง
จนถึงปัจจุบันทาทาได้มีการลงทุนไปมากกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการดำเนินงานในไทย และทาทาจะพยายามทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด จึงยังไม่มีการลงทุนใหม่ในช่วงนี้ แต่แน่นอนเมื่อมียอดขายระดับ 20,000 คันต่อปี จุดนั้นทาทาจะต้องตั้งโรงงานเป็นของตนเอง จากปัจจุบันที่จ้างโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ ในฐานะผู้ถือหุ้นบางส่วนในการประกอบรถทาทาในไทยให้อยู่ และเป็นไปได้ที่จะใช้ไทยเป็นฐานผลิต ทาทา นาโน ส่งออกภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ทาทายังมีการเซ็นสัญญา เป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซีย และขณะกำลังดำเนินการในรายละเอียดอยู่ แต่จะเป็นแบบไหนดูที่ความเหมาะสมเป็นหลัก ทั้งนี้การขยายการลงทุนไปอินโดนีเซีย จะเป็นการสนับสนุนระหว่างทาทาในไทยและอินโดนีเซีย ไม่ใช่การแข่งขันแน่นอน
การยอมรับต่อแบรนด์ทาทา
ภาพลักษณ์ของแบรนด์ทาทาอาจจะเกิดปัญหาบ้าง แต่จากการดำเนินงานจากนี้ไป เชื่อว่าลูกค้าจะยังให้โอกาสอยู่ และที่สำคัญทาทามีมากกว่า 100 ธุรกิจ ตรงนี้น่าจะส่งเสริมให้กับแบรนด์ทาทาได้ แต่สิ่งสำคัญที่จะได้รับการยอมรับ ต้องมาจากการกระทำมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ คุณภาพ และบริการ สิ่งเหล่านี้จะแปรมาเป็นการยอมรับของลูกค้าดีที่สุด