xs
xsm
sm
md
lg

“พ.พีระ” เจ้าชายแห่งสยาม ตำนานนักแข่งรถไทย(ตอนที่1)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 คงไม่มีใครคาดคิดว่า เจ้าชายองค์หนึ่งของสยามประเทศ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับชาวตะวันตกในสมัยนั้น จะเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์นานาชาติทั่วทวีปยุโรป และทรงชนะเลิศอันดับหนึ่ง 3 ปีซ้อน ระหว่างปี พ.ศ. 2479-2481 (ปี 1936-1938) จนสามารถคว้าตำแหน่ง “ดาราทอง” ของสมาคมนักแข่งรถอังกฤษมาครองได้สำเร็จ

เจ้าชายสยามองค์นั้น คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือที่คนไทยเรียกกันสั้นๆ ว่า พระองค์เจ้าพีระฯ หรืออีกชื่อหนึ่งในฐานะนักแข่งรถคือ พ.พีระ (B.Bira) ซึ่งถือเป็นตำนานของนักแข่งรถยนต์ชาวไทย ผู้สร้างชื่อเสียงเกียรติคุณและคุณูปการให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตในบ้านเราจวบจนปัจจุบัน

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ทรงถือกำเนิดเป็นหม่อมเจ้า พระโอรสในเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ สมเด็จกรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ผู้เป็นพระราชอนุชาพระองค์เล็ก ร่วมพระชนกชนนีกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สำหรับหม่อมมารดาของพระองค์เจ้าพีระฯ คือ หม่อมเล็ก สกุลเดิมยงใจยุทธ (เป็นป้าของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ) ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนหม่อมเจ้าพีระ ขึ้นเป็นพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า

อย่างไรก็ตาม ชีวิตของพระองค์เจ้าพีระฯ ในเบื้องต้น ดำเนินไปเหมือนเจ้าชายในเทพนิยาย นอกจากชาติกำเนิดสูงแล้ว ยังมีการศึกษาดีเยี่ยมสำหรับเจ้าชายไทยในสมัยนั้น โดยเสด็จไปศึกษาต่อที่โรงเรียนอีตัน ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมขึ้นชื่อที่สุดของอังกฤษ มีแต่เจ้านายและลูกผู้ดีมีตระกูลเรียนกันทั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็เคยทรงศึกษาที่นี่เช่นกัน
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ (ขวาสุด) และ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช กับรถแข่ง Romulus
ครั้งเสด็จไปอังกฤษ พระองค์เจ้าพีระฯ ทรงพบกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ (พระโอรสในเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ) ซึ่งทรงศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ถ้าลำดับญาติกันแล้ว พระองค์เจ้าพีระฯ อยู่ในฐานะอา และพระองค์จุลฯ เป็นหลาน หากแต่พระองค์จุลฯ ทรงมีพระชันษาแก่กว่า 7 ปี เกิดถูกชะตาเหมือนเป็นพี่ชายน้องชายแท้ๆ พระองค์จุลฯ จึงทรงทูลขอพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอเป็นผู้ปกครองพระองค์เจ้าพีระฯ แทน

สำหรับกีฬาการแข่งขันรถยนต์เป็นที่โปรดปรานของสองพระองค์เป็นอย่างมาก และได้เสด็จไปทอดพระเนตรการแข่งขันในสนามบรู๊กแลนด์เป็นประจำ อีกทั้งพระองค์เจ้าพีระฯ ได้แสดงความเห็นอยู่บ่อยครั้งที่จะขอเข้าร่วมการแข่งขันด้วย แต่พระองค์จุลฯ คอยห้ามปรามเสมอมา เนื่องจากการแข่งรถเต็มไปด้วยอันตราย

จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2478 (ปี 1935) การรบเร้าของพระองค์เจ้าพีระฯ เป็นผลสำเร็จ โดยพระองค์จุลฯ ยินยอมให้ร่วมการแข่งขันได้ และยินดีเป็นผู้อุปการะให้การสนับสนุนการเงินและเป็นผู้จัดการ แต่ขอสัญญาว่าจะให้แข่งแต่รถขนาดเบาในระยะทางสั้นๆ เท่านั้น
พระองค์เจ้าพีระฯ (ซ้าย) - พระองค์จุลฯ (ขวา)

ทั้งนี้ ก่อนจะร่วมทำการแข่งขัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ ร่วมกับเจ้านายหลายพระองค์และข้าราชบริพารชั้นผู้ใหญ่ อาทิ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดชภาณุพันธ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพยอาภา กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ หม่อมเจ้าสกลวรรณากรวรวรรณ พระยานฤเบศร์ จัดตั้งราชยานยนต์สมาคมแห่งสยาม (The Royal Automobile Association of Siam) วัตถุประสงค์ประการแรกเพื่อรับรองทีมและนักแข่งรถของสยามประเทศ เพื่อเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียง หากสมาคมของประเทศให้การรับรองเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ

เมื่อปี พ.ศ.2476 ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เพื่อขอพระบรมราชานุญาต ซึ่งพระองค์ได้มีพระมหากรุณาธิคุณอนุญาตโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อเดือนธันวาคม 2476 และสมาคมเริ่มรับสมัครสมาชิกครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2477

ต่อมาทางรัฐบาลสมัย ฯพณฯ จอมพลแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้เปลี่ยนชื่อประเทศจาก “สยาม” เป็น “ไทย” เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2482 ทางสมาคมจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (The Royal Automobile Association of Thailand Under Royal Patronage) ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบัน


กลับมาที่ชีวิตเจ้าชายแห่งสยาม ตำนานนักแข่งรถไทย ในวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ.2478 (ปี 1935) พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือใช้ชื่อแข่งขันว่า “B.Bira” เริ่มการแข่งขันเป็นครั้งแรกในสังกัด “ทีมหนูขาวสยาม” (White Mouse Siam Team) ณ สนามบรู๊กแลนด์ ด้วยรถยนต์แข่งยี่ห้อ Riley สีน้ำเงิน และได้รับเชิญเข้าเป็นสมาชิกของสโมรสรนักแข่งรถอังกฤษ British Racing Drivers Club (B.R.D.C.)

จากนั้นถึงเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเวลาที่ พ.พีระ มีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้เริ่มขับรถแข่งอย่างจริงจัง โดยเข้าร่วมการแข่งรถเบาระหว่างชาติที่เมืองดิเอปป์ ประเทศฝรั่งเศส ถือกันว่าเป็นการแข่งที่สำคัญในยุโรป มีนักแข่งรถที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติเข้าร่วมมากมาย และเป็นการเข้าสู่สนามเพียงครั้งที่สามของ พ.พีระ แต่ก็สามารถคว้าชัยชนะอันดับที่ 2 มาได้

ต่อมาในเดือนสิงหาคม พระองค์เจ้าพีระฯ ได้เข้าแข่งรถระหว่างชาติเป็นครั้งที่สอง ณ กรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และก็ได้รับชัยชนะอันดับที่ 2 อีกครั้ง ทำให้ชื่อเสียงของ พ.พีระ ติดกลุ่มเป็นนักแข่งที่โด่งดังในยุโรปอย่างรวดเร็ว

จบตอนที่ 1
ข้อมูลและภาพ : จากหนังสือ 8 ทศวรรษ พีระ เจ้าดาราทอง สู่ F1 GRAND PRIX OF THAILAND - การกีฬาแห่งประเทศไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น