ต่อเนื่องจากการเปิดตัว “บริโอ้” ตัวถังแฮทช์แบ็กเมื่อปีที่แล้ว มาถึงปีนี้ค่ายฮอนด้าปล่อยหมัดเด็ดระลอกสองด้วยตัวถังซีดาน สูตรพิมพ์นิยมของเก๋งเล็กเวอร์ชันอีโคคาร์ ไม่ว่าจะเป็น“นิสสัน มาร์ช”ต่อเนื่องด้วย“อัลเมรา” ขณะที่มิตซูบิชิ“มิราจ”ก็เตรียมพัฒนาตัวถังซีดานตามออกมาในปีหน้าเช่นกัน
ในส่วนของชื่อการทำตลาด อีโคคาร์ ตัวถังซีดานรุ่นใหม่ ฮอนด้ายังอุบเงียบ (ไม่น่าจะใช้ชื่อบริโอ้ ซีดาน) ซึ่งรถคันจริงเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ หรือก่อนวันงาน“มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012” จะเริ่มไม่นาน
ก่อนถึงวันเปิดตัวและเปิดเผยชื่อจริง บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนกลุ่มเล็กๆไปสัมผัส “อีโคคาร์ ตัวถังซีดานรุ่นใหม่”พื้นฐานการพัฒนาเดียวกับบริโอ้ ที่สนามแข่งรถแก่งกระจาน เซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวานนี้(30 ต.ค.)
สำหรับ“อีโคคาร์ ตัวถังซีดาน” ที่ฮอนด้านำมาให้ลองขับเป็นรถ“พรีโปรดักต์ชัน” ยังไม่ได้ขึ้นไลน์ผลิตจริง ดังนั้นวัสดุ-อุปกรณ์ การประกอบอาจจะยังไม่เนี้ยบเหมือนตัวขายจริง100% ขณะเดียวกันยังถูกพรางหน้าปิดตาด้วยสติกเกอร์ 3M รอบคัน(เห็นว่าม้วนละ 90,000 บาท นำเข้ามาจากต่างประเทศ)
ทั้งนี้ก่อนการลองขับ วิศวกรผู้พัฒนาได้แจงรายละเอียดของรถ ให้บรรดาผู้สื่อข่าวทราบพอเป็นพิธี โดยเริ่มจากแนวคิดที่ฮอนด้าตั้งไว้คือ สมาร์ท(Smart) ไมโคร(micro) และ ลิมูซีน (Limousine)
“สมาร์ท” คือสไตล์การออกแบบที่โดดเด่นสวยงาม เห็นแล้วอยากเป็นเจ้าของ ส่วน“ไมโคร” ฮอนด้าหมายถึง รถเล็กขนาดกะทัดรัด ขับขี่คล่องตัวแถมประหยัดน้ำมัน สุดท้าย “ลิมูซีน” มุ่งหมายแสดงความโอ่อ่า พื้นที่กว้างขวางนั่งสบายของผู้โดยสารด้านหลัง
ในส่วนตัวถังยาว 3,990 มม. หรือยาวกว่าบริโอ้ แฮทช์แบ็ก 380 มม. ความกว้าง 1,680 มม. และสูง 1,485มม.เท่ากัน ขณะที่ระยะฐานล้อ 2,405 มม. มากกว่าบริโอ้ 60 มม.ส่งผลให้พื้นที่ว่างของผู้โดยสารด้านหลังขยับขยายได้มากขึ้น และโดยเฉพาะระยะห่างช่วงขา (leg room)จะมากกว่าบริโอ้ 61 มม. ตลอดจนพื้นที่เก็บสำภาระใต้ฝากระโปรงหลังยังจุถึง 400 ลิตร ซึ่งฮอนด้าย้ำว่าสามารถรองรับถุงกอล์ฟใบใหญ่ได้ถึง 2 ใบ
เมื่อภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่าเดิม ฮอนด้าจึงออกแบบโครงสร้างเบาะหน้า-หลังให้หนามากขึ้น ส่วนตัวผู้เขียนไปลองนั่งเบาะผู้โดยสารด้านหลัง รู้สึกว่าการรองรับดีกว่า“บริโอ้” พอสมควร คนสูงเกิน 175 ซม.ยังพิงหลัง เอนกายได้สบาย ขณะที่แผงข้างประตูก็เก็บงานเรียบเป็นวัสดุชิ้นเดียว และไม่เห็นเนื้อสีของตัวถังเหทือนกับบริโอ้
…หลังจากผู้เขียนได้ลองขับอีโคคาร์ ตัวถังซีดานรุ่นใหม่ของฮอนด้า ระยะทาง 2.9 กิโลเมตรต่อรอบ และวิ่งอยู่ 3 รอบ รวมเวลาประมาณ 8 นาที พบว่าสมรรถนะจี๊ดจ๊าดเกินตัว ด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC SOHC 1198 ซีซี 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT เรียกว่ายกชุดมาจากบริโอ้ไม่ผิดเพี้ยน ดังนั้นจึงตอบสนองการขับขี่ได้ดีเยี่ยม พละกำลังรีดมาให้ขับสนุกเร้าใจกว่าอีคาร์ทุกรุ่นในตลาด
ในส่วนของน้ำหนักตัว“อีโคคาร์ ตัวถังซีดาน ใหม่” จะมากกว่าบริโอ้อยู่ 26 กิโลกรัม ซึ่งตัวเลขนี้ วิศวกรฮอนด้าเคลมว่าไม่มีผลต่ออัตราบริโภคน้ำมัน และค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน ดังนั้นตัวเลข 20 กม./ลิตรคงไม่หนีไปไหน
ด้านพวงมาลัยไม่เบาหวิวเหมือนคู่แข่ง แถมควบคุมซ้ายขวาแม่นยำ ย่านความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ยังนิ่งให้ความมั่นใจ ส่วนช่วงล่างผู้เขียนว่า หนึบแน่นกว่า“บริโอ้”นิดๆ อาจจะด้วยน้ำหนักตัวและการเซ็ทช่วงล่างใหม่ ทำให้การเข้าโค้ง-ออกโค้งในสนามแก่งกระจาน เซอร์กิตทำได้ดีเกินคาด แม้จะใช้เพียงล้ออัลลอยด์ 14 นิ้ว ประกบยาง 175/65R14 ก็ตาม
อย่างไรก็ตามวิศวกรผู้พัฒนา ยืนยันว่าช่วงล่างจะหนึบหนับกว่าบริโอ้เดิม และใช้สปริงหลังที่แข็งกว่าบริโอ้เพื่อรองรับกับโครงสร้างและน้ำที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังเพิ่มแผ่นซับเสียงจากห้องเครื่องยนต์และพื้นตัวถัง หวังให้การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารเงียบขึ้นอีกด้วย
...นั่นเป็นการลองขับและเปิดเผยข้อมูลน้อยๆของฮอนด้า โดยมุ่งหวังกระจายข่าวให้ลูกค้ารอ อย่าเพิ่งรีบไปซื้อรถคันอื่น เพราะจะว่าไปอีโคคาร์ ซีดานรุ่นนี้ ฮอนด้าร่นแผนการทำตลาดมาเร็วขึ้น หวังโหนยอดขายนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล หรือรีบเปิดตัวตุนยอดจองเอาไว้ก่อนนั่นเอง
การเปิดตัวรถคันจริงจะมีขึ้นปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมส่งมอบรถได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป โดยอีโคคาร์ ตัวถังซีดานรุ่นใหม่ ฮอนด้าจะวางระดับการตลาดไว้สูงกว่าบริโอ้นิดๆ หรือราคาจะแพงกว่าเล็กน้อย ส่วนตัวท็อปค่าตัวคงป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ 540,000-550,000 บาท
ในส่วนของชื่อการทำตลาด อีโคคาร์ ตัวถังซีดานรุ่นใหม่ ฮอนด้ายังอุบเงียบ (ไม่น่าจะใช้ชื่อบริโอ้ ซีดาน) ซึ่งรถคันจริงเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ หรือก่อนวันงาน“มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012” จะเริ่มไม่นาน
ก่อนถึงวันเปิดตัวและเปิดเผยชื่อจริง บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนกลุ่มเล็กๆไปสัมผัส “อีโคคาร์ ตัวถังซีดานรุ่นใหม่”พื้นฐานการพัฒนาเดียวกับบริโอ้ ที่สนามแข่งรถแก่งกระจาน เซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวานนี้(30 ต.ค.)
สำหรับ“อีโคคาร์ ตัวถังซีดาน” ที่ฮอนด้านำมาให้ลองขับเป็นรถ“พรีโปรดักต์ชัน” ยังไม่ได้ขึ้นไลน์ผลิตจริง ดังนั้นวัสดุ-อุปกรณ์ การประกอบอาจจะยังไม่เนี้ยบเหมือนตัวขายจริง100% ขณะเดียวกันยังถูกพรางหน้าปิดตาด้วยสติกเกอร์ 3M รอบคัน(เห็นว่าม้วนละ 90,000 บาท นำเข้ามาจากต่างประเทศ)
ทั้งนี้ก่อนการลองขับ วิศวกรผู้พัฒนาได้แจงรายละเอียดของรถ ให้บรรดาผู้สื่อข่าวทราบพอเป็นพิธี โดยเริ่มจากแนวคิดที่ฮอนด้าตั้งไว้คือ สมาร์ท(Smart) ไมโคร(micro) และ ลิมูซีน (Limousine)
“สมาร์ท” คือสไตล์การออกแบบที่โดดเด่นสวยงาม เห็นแล้วอยากเป็นเจ้าของ ส่วน“ไมโคร” ฮอนด้าหมายถึง รถเล็กขนาดกะทัดรัด ขับขี่คล่องตัวแถมประหยัดน้ำมัน สุดท้าย “ลิมูซีน” มุ่งหมายแสดงความโอ่อ่า พื้นที่กว้างขวางนั่งสบายของผู้โดยสารด้านหลัง
ในส่วนตัวถังยาว 3,990 มม. หรือยาวกว่าบริโอ้ แฮทช์แบ็ก 380 มม. ความกว้าง 1,680 มม. และสูง 1,485มม.เท่ากัน ขณะที่ระยะฐานล้อ 2,405 มม. มากกว่าบริโอ้ 60 มม.ส่งผลให้พื้นที่ว่างของผู้โดยสารด้านหลังขยับขยายได้มากขึ้น และโดยเฉพาะระยะห่างช่วงขา (leg room)จะมากกว่าบริโอ้ 61 มม. ตลอดจนพื้นที่เก็บสำภาระใต้ฝากระโปรงหลังยังจุถึง 400 ลิตร ซึ่งฮอนด้าย้ำว่าสามารถรองรับถุงกอล์ฟใบใหญ่ได้ถึง 2 ใบ
เมื่อภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่าเดิม ฮอนด้าจึงออกแบบโครงสร้างเบาะหน้า-หลังให้หนามากขึ้น ส่วนตัวผู้เขียนไปลองนั่งเบาะผู้โดยสารด้านหลัง รู้สึกว่าการรองรับดีกว่า“บริโอ้” พอสมควร คนสูงเกิน 175 ซม.ยังพิงหลัง เอนกายได้สบาย ขณะที่แผงข้างประตูก็เก็บงานเรียบเป็นวัสดุชิ้นเดียว และไม่เห็นเนื้อสีของตัวถังเหทือนกับบริโอ้
…หลังจากผู้เขียนได้ลองขับอีโคคาร์ ตัวถังซีดานรุ่นใหม่ของฮอนด้า ระยะทาง 2.9 กิโลเมตรต่อรอบ และวิ่งอยู่ 3 รอบ รวมเวลาประมาณ 8 นาที พบว่าสมรรถนะจี๊ดจ๊าดเกินตัว ด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC SOHC 1198 ซีซี 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT เรียกว่ายกชุดมาจากบริโอ้ไม่ผิดเพี้ยน ดังนั้นจึงตอบสนองการขับขี่ได้ดีเยี่ยม พละกำลังรีดมาให้ขับสนุกเร้าใจกว่าอีคาร์ทุกรุ่นในตลาด
ในส่วนของน้ำหนักตัว“อีโคคาร์ ตัวถังซีดาน ใหม่” จะมากกว่าบริโอ้อยู่ 26 กิโลกรัม ซึ่งตัวเลขนี้ วิศวกรฮอนด้าเคลมว่าไม่มีผลต่ออัตราบริโภคน้ำมัน และค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน ดังนั้นตัวเลข 20 กม./ลิตรคงไม่หนีไปไหน
ด้านพวงมาลัยไม่เบาหวิวเหมือนคู่แข่ง แถมควบคุมซ้ายขวาแม่นยำ ย่านความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ยังนิ่งให้ความมั่นใจ ส่วนช่วงล่างผู้เขียนว่า หนึบแน่นกว่า“บริโอ้”นิดๆ อาจจะด้วยน้ำหนักตัวและการเซ็ทช่วงล่างใหม่ ทำให้การเข้าโค้ง-ออกโค้งในสนามแก่งกระจาน เซอร์กิตทำได้ดีเกินคาด แม้จะใช้เพียงล้ออัลลอยด์ 14 นิ้ว ประกบยาง 175/65R14 ก็ตาม
อย่างไรก็ตามวิศวกรผู้พัฒนา ยืนยันว่าช่วงล่างจะหนึบหนับกว่าบริโอ้เดิม และใช้สปริงหลังที่แข็งกว่าบริโอ้เพื่อรองรับกับโครงสร้างและน้ำที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังเพิ่มแผ่นซับเสียงจากห้องเครื่องยนต์และพื้นตัวถัง หวังให้การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารเงียบขึ้นอีกด้วย
...นั่นเป็นการลองขับและเปิดเผยข้อมูลน้อยๆของฮอนด้า โดยมุ่งหวังกระจายข่าวให้ลูกค้ารอ อย่าเพิ่งรีบไปซื้อรถคันอื่น เพราะจะว่าไปอีโคคาร์ ซีดานรุ่นนี้ ฮอนด้าร่นแผนการทำตลาดมาเร็วขึ้น หวังโหนยอดขายนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล หรือรีบเปิดตัวตุนยอดจองเอาไว้ก่อนนั่นเอง
การเปิดตัวรถคันจริงจะมีขึ้นปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมส่งมอบรถได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป โดยอีโคคาร์ ตัวถังซีดานรุ่นใหม่ ฮอนด้าจะวางระดับการตลาดไว้สูงกว่าบริโอ้นิดๆ หรือราคาจะแพงกว่าเล็กน้อย ส่วนตัวท็อปค่าตัวคงป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ 540,000-550,000 บาท