ข่าวในประเทศ - ค่ายนิสสันยิ้มรับตลาดโตจากนโยบายรถยนต์คันแรก พร้อมปรับยอดขายปีนี้เป็น 1.2 แสนคัน ครองส่วนแบ่งตลาด 10% ย้ำ“มาร์ช” “อัลเมร่า” เป็นทีเด็ด และเปิดตัวเก๋งคอมแพกต์ซีดาน“ซิลฟี ใหม่”ดันยอด มั่นใจถึงเป้าหมาย “นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย พาวเวอร์อัพ 2016”แน่นอน
โทชิยูกิ ชิกะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ “นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย พาวเวอร์อัพ 2016” กำลังเดินไปอย่างมีประสิทธิภาพ แม้เศรษฐกิจทั่วโลกยังขาดเสถียรภาพ แต่นิสสันได้พร้อมรับมือและเตรียมกลยุทธ์ที่จำเป็นเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายดังกล่าว
“หลังจากประกาศแผนนิสสันพาวเวอร์อัพ2016 เมื่อปีที่แล้ว โดยตั้งเป้าหมายครองส่วนแบ่งการตลาด15% และเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 2 เท่าจากยอดขายในปีงบประมาณ 1011 ที่ผ่านมา(ทำได้กว่า 76,000 คัน) ซึ่งถึงวันนี้จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด เรามั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายธุรกิจระยะกลางได้แน่นอน ดังจะเห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนความสำเร็จของอีโคคาร์ทั้งนิสสัน มาร์ช และอัลเมร่า ที่มีส่วนแบ่งในตลาดอีโคาร์ถึง 63%”
ขณะเดียวกันด้วยการเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ที่คาดว่าปีนี้จะปิดยอดถึง 1.2 ล้านคัน มากว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งมีผลมาจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล และการทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของหลายค่าย ในส่วนของนิสสันเองยังได้ปรับเป้าหมายตามการขยายตัวของตลาดเป็น 1.2 แสนคัน เพิ่มจากที่ประเมินไว้ช่วงต้นปี 100,000 พร้อมครองส่วนแบ่งการตลาด 10%
นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส การตลาดและขายบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยความแรงของนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ตลอดจนโปรดักต์อย่าง มาร์ช และอัลเมร่า ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดการเปิดตัวเก๋งคอมแพกต์ซีดาน “ซิลฟี ใหม่” เชื่อว่าบริษัทจะทำยอดขายรวมได้ถึง 120,000 คันแน่นอน ซึ่งถือว่าสูงสุดของการขายรถยนต์นิสสันตลอด 60 ปีที่ผ่านมา
สำหรับนิสสัน ซิลฟี เป็นเก๋งคอมแพกต์ซีดานรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมความรูปลักษณ์โดดเด่นหรูหรา และพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารกว้างขวาง รวมถึงออปชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัยมากมาย ด้านเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 131 แรงม้า 1.6 ลิตร 116 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติแบบ CVT โดยแบ่งการขายเป็น 6 รุ่นย่อย ราคา 746,000- 931,000บาท
โดยนิสันคาดว่า ซิลฟี จะได้การตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี และน่าจะทำยอดขายได้ถึง 20,000 คัน ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2555 (ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2556) ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนส่งออกซิลฟีไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย ช่วงเดือนธันวาคมนี้หรืออย่างช้าเดือนมกราคมปีหน้าอีกด้วย
ในส่วนของกำลังการผลิต 2.2 แสนคันที่โรงงานบางนาตราด และจ้างมิตซูบิชิผลิตปิกอัพ นาวารา อีก 40,000 - 60,000 คันต่อปี คาดว่าจะรองรับกับความต้องการทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ในอนาคตถ้ามีความต้องการตลาดมากขึ้น บริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตเช่นกันแต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป
อย่างไรก็ตามในส่วนยอดค้างส่งมอบตอนนี้ นิสสัน อัลเมร่า มีอยู่ประมาณ 4 เดือน ส่วนนิสสัน มาร์ช ประมาณ 3 เดือน ขณะเดียวกันเพื่อรองรับกับปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในอนาคตบริษัทยังเตรียมเปิดโชว์รูมใหม่อีก 20 แห่งในปีนี้ และอีก 19 แห่งในปี 2556 โดยเพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ 171 แห่งทั่วประเทศ
โทชิยูกิ ชิกะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ “นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย พาวเวอร์อัพ 2016” กำลังเดินไปอย่างมีประสิทธิภาพ แม้เศรษฐกิจทั่วโลกยังขาดเสถียรภาพ แต่นิสสันได้พร้อมรับมือและเตรียมกลยุทธ์ที่จำเป็นเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายดังกล่าว
“หลังจากประกาศแผนนิสสันพาวเวอร์อัพ2016 เมื่อปีที่แล้ว โดยตั้งเป้าหมายครองส่วนแบ่งการตลาด15% และเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 2 เท่าจากยอดขายในปีงบประมาณ 1011 ที่ผ่านมา(ทำได้กว่า 76,000 คัน) ซึ่งถึงวันนี้จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด เรามั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายธุรกิจระยะกลางได้แน่นอน ดังจะเห็นได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนความสำเร็จของอีโคคาร์ทั้งนิสสัน มาร์ช และอัลเมร่า ที่มีส่วนแบ่งในตลาดอีโคาร์ถึง 63%”
ขณะเดียวกันด้วยการเติบโตของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ที่คาดว่าปีนี้จะปิดยอดถึง 1.2 ล้านคัน มากว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งมีผลมาจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล และการทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของหลายค่าย ในส่วนของนิสสันเองยังได้ปรับเป้าหมายตามการขยายตัวของตลาดเป็น 1.2 แสนคัน เพิ่มจากที่ประเมินไว้ช่วงต้นปี 100,000 พร้อมครองส่วนแบ่งการตลาด 10%
นายประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส การตลาดและขายบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยความแรงของนโยบายคืนภาษีรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ตลอดจนโปรดักต์อย่าง มาร์ช และอัลเมร่า ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดการเปิดตัวเก๋งคอมแพกต์ซีดาน “ซิลฟี ใหม่” เชื่อว่าบริษัทจะทำยอดขายรวมได้ถึง 120,000 คันแน่นอน ซึ่งถือว่าสูงสุดของการขายรถยนต์นิสสันตลอด 60 ปีที่ผ่านมา
สำหรับนิสสัน ซิลฟี เป็นเก๋งคอมแพกต์ซีดานรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมความรูปลักษณ์โดดเด่นหรูหรา และพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารกว้างขวาง รวมถึงออปชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัยมากมาย ด้านเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 131 แรงม้า 1.6 ลิตร 116 แรงม้า มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติแบบ CVT โดยแบ่งการขายเป็น 6 รุ่นย่อย ราคา 746,000- 931,000บาท
โดยนิสันคาดว่า ซิลฟี จะได้การตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี และน่าจะทำยอดขายได้ถึง 20,000 คัน ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2555 (ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2556) ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนส่งออกซิลฟีไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และออสเตรเลีย ช่วงเดือนธันวาคมนี้หรืออย่างช้าเดือนมกราคมปีหน้าอีกด้วย
ในส่วนของกำลังการผลิต 2.2 แสนคันที่โรงงานบางนาตราด และจ้างมิตซูบิชิผลิตปิกอัพ นาวารา อีก 40,000 - 60,000 คันต่อปี คาดว่าจะรองรับกับความต้องการทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ในอนาคตถ้ามีความต้องการตลาดมากขึ้น บริษัทมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตเช่นกันแต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป
อย่างไรก็ตามในส่วนยอดค้างส่งมอบตอนนี้ นิสสัน อัลเมร่า มีอยู่ประมาณ 4 เดือน ส่วนนิสสัน มาร์ช ประมาณ 3 เดือน ขณะเดียวกันเพื่อรองรับกับปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในอนาคตบริษัทยังเตรียมเปิดโชว์รูมใหม่อีก 20 แห่งในปีนี้ และอีก 19 แห่งในปี 2556 โดยเพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ 171 แห่งทั่วประเทศ