ข่าวในประเทศ - ค่ายนิสสันรุกตลาดเก๋ง-ปิกอัพซีเอ็นจี เล็งติดตั้งในซิลฟี 1.6 ลิตร และนาวาราเครื่องยนต์เบนซินใหม่ เชื่อตลาดมีความต้องการสูง พร้อมประกาศเลิกโปรเจกต์พัฒนาปิกอัพโมเดลเชนจ์ร่วมกับมิตซูบิชิ โดยจะดึงแผนกลับมาพัฒนาเองให้เป็นโกลบอลโมเดลและยึดไทยเป็นฐานผลิตสำคัญ
ทาคายูกิ คิมูระ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเพิ่มความหลากหลายให้กับโปรดักต์ที่ทำตลาดในไทย ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาการติดตั้งระบบก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจี กับรถยนต์นั่งรุ่น “ซิลฟี” และปิกอัพ “นาวารา” ส่วนระยะเวลาของการเปิดตัวอย่างเป็นทางการยังไม่สามารถบอกได้
“เราเตรียมขยายไลน์อัพรถพลังงานทางเลือกอย่างก๊าซซีเอ็นจี โดยมุ่งพัฒนาไปที่เก๋งซิลฟีรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร และปิกอัพนาวาราเครื่องยนต์เบนซินใหม่”
ทั้งนี้เมื่อพิจารณากลุ่มรถยนต์นั่งของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นอีโคคาร์มาร์ช-อัลเมร่าเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร และคอมแพกต์คาร์ซิลฟีรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร และ 1.6 ซีเอ็นจีในอนาคต สามารถสู้กับคู่แข่งในกลุ่มซับคอมแพกต์เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรได้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันยังมีซิลฟีเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และรถคอมแพกต์ตัวถังแฮทซ์แบ็กรุ่นใหม่ที่บริษัทเตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้ ซึ่งโปรดักต์ทั้งหมดจะครอบคลุมทุกความต้องการลูกค้าในกลุ่มรถยนต์นั่ง
ในส่วนของปิกอัพ นาวารา ซีเอ็นจี ที่อยู่ในแผนการทำตลาดของบริษัทจะเข้ามาเป็นทางเลือกให้ลูกค้าที่ต้องการรถที่มีความคุ้มค่าสูง ส่วนแผนการเปิดตัวปิกอัพรุ่นใหม่หรือโมเดลเชนจ์ยังไม่อยู่ในสถานะที่เปิดเผยได้ แต่กระนั้นบริษัทก็มีแผนการพัฒนาที่ชัดเจนมากขึ้น โดยบริษัทตัดสินใจยกเลิกความร่วมมือในการพัฒนาร่วมกับมิตซูบิชิ ตามที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ และจากการสรุปแผนล่าสุดนิสสันต้องการทำปิกอัพใหม่แบบโกลบอลโมเดล พร้อมผลิตบนแพลตฟอร์ม(แชสซีส์)ใหม่ที่พัฒนาด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตามการยกเลิกโครงการพัฒนาปิกอัพโมเดลใหม่ร่วมกับมิตซูบิชิ จะไม่มีผลกับความร่วมมือที่บริษัทให้มิตซูบิชิผลิตนาวาราที่โรงงานแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นบริษัทให้มิตซูบิชิผลิต 40,000 คันต่อปี และสามารถเพิ่มได้ถึง 60,000 คัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดในประเทศและส่งออก
นายคิมูระยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยจะเป็นฐานการผลิตสำคัญของนิสสัน และจากทุกแผนงานที่เตรียมไว้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ธุรกิจแน่นอน ส่วนปัญหากำลังการผลิตที่โรงงานนิสสันแน่นหรือเต็มมา 2 ปีแล้ว บริษัทก็กำลังศึกษาการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคตอย่างจริงจังเช่นกัน
ด้านภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้ที่น่าจะทำยอดขายได้ถึง 1.2-1.3 ล้านคัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล แต่สำหรับปีหน้าเมื่อโครงการนี้สิ้นสุดลง บริษัทยังเชื่อว่าภาพรวมของตลาดคงสดใส จากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง การลงทุนในเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล ตลอดจนพื้นฐานความต้องการซื้อรถใหม่ของคนในประเทศยังมีสูง และคาดว่ายอดขายรวมปี 2556 น่าจะทำได้ถึง 1 ล้านคันเป็นอย่างน้อย
ทาคายูกิ คิมูระ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนเพิ่มความหลากหลายให้กับโปรดักต์ที่ทำตลาดในไทย ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาการติดตั้งระบบก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจี กับรถยนต์นั่งรุ่น “ซิลฟี” และปิกอัพ “นาวารา” ส่วนระยะเวลาของการเปิดตัวอย่างเป็นทางการยังไม่สามารถบอกได้
“เราเตรียมขยายไลน์อัพรถพลังงานทางเลือกอย่างก๊าซซีเอ็นจี โดยมุ่งพัฒนาไปที่เก๋งซิลฟีรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร และปิกอัพนาวาราเครื่องยนต์เบนซินใหม่”
ทั้งนี้เมื่อพิจารณากลุ่มรถยนต์นั่งของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นอีโคคาร์มาร์ช-อัลเมร่าเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร และคอมแพกต์คาร์ซิลฟีรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร และ 1.6 ซีเอ็นจีในอนาคต สามารถสู้กับคู่แข่งในกลุ่มซับคอมแพกต์เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรได้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันยังมีซิลฟีเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และรถคอมแพกต์ตัวถังแฮทซ์แบ็กรุ่นใหม่ที่บริษัทเตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้ ซึ่งโปรดักต์ทั้งหมดจะครอบคลุมทุกความต้องการลูกค้าในกลุ่มรถยนต์นั่ง
ในส่วนของปิกอัพ นาวารา ซีเอ็นจี ที่อยู่ในแผนการทำตลาดของบริษัทจะเข้ามาเป็นทางเลือกให้ลูกค้าที่ต้องการรถที่มีความคุ้มค่าสูง ส่วนแผนการเปิดตัวปิกอัพรุ่นใหม่หรือโมเดลเชนจ์ยังไม่อยู่ในสถานะที่เปิดเผยได้ แต่กระนั้นบริษัทก็มีแผนการพัฒนาที่ชัดเจนมากขึ้น โดยบริษัทตัดสินใจยกเลิกความร่วมมือในการพัฒนาร่วมกับมิตซูบิชิ ตามที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ และจากการสรุปแผนล่าสุดนิสสันต้องการทำปิกอัพใหม่แบบโกลบอลโมเดล พร้อมผลิตบนแพลตฟอร์ม(แชสซีส์)ใหม่ที่พัฒนาด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตามการยกเลิกโครงการพัฒนาปิกอัพโมเดลใหม่ร่วมกับมิตซูบิชิ จะไม่มีผลกับความร่วมมือที่บริษัทให้มิตซูบิชิผลิตนาวาราที่โรงงานแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นบริษัทให้มิตซูบิชิผลิต 40,000 คันต่อปี และสามารถเพิ่มได้ถึง 60,000 คัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดในประเทศและส่งออก
นายคิมูระยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยจะเป็นฐานการผลิตสำคัญของนิสสัน และจากทุกแผนงานที่เตรียมไว้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้ธุรกิจแน่นอน ส่วนปัญหากำลังการผลิตที่โรงงานนิสสันแน่นหรือเต็มมา 2 ปีแล้ว บริษัทก็กำลังศึกษาการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคตอย่างจริงจังเช่นกัน
ด้านภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้ที่น่าจะทำยอดขายได้ถึง 1.2-1.3 ล้านคัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล แต่สำหรับปีหน้าเมื่อโครงการนี้สิ้นสุดลง บริษัทยังเชื่อว่าภาพรวมของตลาดคงสดใส จากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง การลงทุนในเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล ตลอดจนพื้นฐานความต้องการซื้อรถใหม่ของคนในประเทศยังมีสูง และคาดว่ายอดขายรวมปี 2556 น่าจะทำได้ถึง 1 ล้านคันเป็นอย่างน้อย