“ชัจจ์”เรียกร.ฟ.ท.ไล่บี้คลอดทีโออาร์เปิดประมูลจัดซื้อหัวรถจักร- รถโดยสาร -รถสินค้า วงเงิน 1.7 หมื่นล.ภายในปีนี้ หวังแก้ปัญหาขาดแคลน ตั้งเป้ารับมอบต้นปี 57 พร้อมเร่งพัฒนาคนร.ฟ.ท.ยกระดับการทำงานแก้ปัญหารถตกรางบ่อย
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ได้สั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เร่งรัดการจัดซื้อหัวรถจักรและรถโดยสาร วงเงินรวมประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาทเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการทั้งรถสินค้าและรถโดยสาร โดยให้เร่งจัดทำร่างเงื่อนไขการเชิญชวนเอกชน หรือทีโออาร์ เปิดประกวดราคาภายในเดือนตุลาคม 2555 เนื่องจากจะต้องเวลาในการดำเนินการจัดหากว่า 1 ปี โดยคาดว่าจะมีรถใหม่เข้ามาประมาณต้นปี 2557
ทั้งนี้ รูปแบบประกวดราคาจะมีทั้งวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Aution) และประกวดราคาแบบนานาชาติ (เปิดกว้างให้ผู้ผลิตทั่วโลกร่วมประมูลแข่งขัน) ประกอบด้วย 1. การจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าพร้อมอะไหล่ขนาด 20ตัน/เพลา 20 คัน สำหรับรถสินค้า วงเงิน 3,300 ล้านบาท 2. การจัดซื้อรถจักรดีเซลพร้อมอะไหล่ขนาด 16ตัน/เพลา 50 คัน สำหรับรถโดยสารวงเงิน 6,562 ล้านบาท 3. จัดซื้อรถโบกี้บรรทุกสินค้า (แคร่) 308 คันวงเงิน 770 ล้านบาท 4. จัดซื้อรถโดยสารรุ่นใหม่สำหรับบริการเชิงพาณิชย์ 115 คัน วงเงิน 4,981 ล้านบาท 5. ซ่อมบูรณะรถจักรดีเซลไฟฟ้าอัลสตอม 56 คัน วงเงิน 3,360 ล้านบาท
ต้องเร่งรัดการประมูลเพราะทั้งหัวรถจักร รถโดยสารและแคร่สำหรับรถสินค้านั้นใช้เวลาจัดหากว่า 1 ปี ขณะนี้มีปัญหาหัวรถจักรไม่เพียงพอ ส่วนการจัดหาที่ผ่านมามีความล่าช้า เนื่องจากติดปัญหาน้ำท่วม ร.ฟ.ท.มีภาระหนี้สิน รวมถึงยังไม่ได้รับความเห็นชอบจาก สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งล่าสุด ทางร.ฟ.ท.แจ้งว่ามีความพร้อมที่จะเปิดประมูลได้แล้ว ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อมีหัวรถจักร รถสินค้า มากเพียงพอ จะทำให้การขนส่งสินค้าทางรางด้วยตู้คอนเทนเนอร์จากภาคอีสาน ภาคเหนือ และไอซีดีลาดกระบังไปยังท่าเรือแหลมฉบังได้เพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของประเทศลงได้ตามเป้าหมาย ”พล.ต.ท.ชัจจ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่การจัดซื้อรถใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ ร.ฟ.ท.จะต้องเร่งปรับปรุงพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อยกระดับการทำงาน ทั้งด้านการตรวจและซ่อมบำรุงทางและรถจักรที่มี การตรวจทางและบูรณะเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ไม่ให้เกิดเหตุการณ์รถตกรางและอุบัติเหตุบ่อยเหมือนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า บุคลากรของรถไฟในปัจจุบันคุณภาพการทำงานต่ำมาก