โค้งสุดท้ายตลาดรถหรูฟาดฟันกันดุเดือดทีเดียว เห็นได้จากการเปิดตัวรถใหม่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นค่ายรถหรูแดนปลาดิบ “เลกซัส” ที่ส่งบิ๊กไมเนอร์เชนจ์รุ่นท็อปไลน์ “LS” สู่ตลาด ตามมาด้วย “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ส่ง 3 ตัวเลือกใหม่ของสปอร์ตซีดานรุ่น “CLS” ที่ไม่เพียงเขย่าตลาดรถหรู แต่ยังเป็นปฏิบัติการทุบผู้นำเข้าอิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต และในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ยังมีรุ่นเล็ก “A-Class” มาถล่มซ้ำอีก ทำให้หลายค่ายรถหรูต้องเตรียมรับมือ ไม่ว่าจะเป็น “วอลโว่” ที่ต้องเร่งอัดแคมเปญสู้ หรือ “ออดี้” เล็งส่งรุ่น A6 และ Q3 มารักษายอดขาย และแน่นอนคู่แข่งสำคัญ “บีเอ็มดับเบิลยู” ย่อมอยู่นิ่งไม่ได้ เตรียมส่งทีเด็ดออกมาแลกหมัด ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ที่จะมีขึ้นปลายเดือนพฤศจิกายนนี้เช่นกัน…
ความเคลื่อนไหวของ “บีเอ็มดับเบิลยู” ในประเทศไทย ปีนี้นับว่ามีความคึกคักมาตั้งแต่ต้นปี เพราะมีการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่น โดยเฉพาะตัวไฮไลต์โฉมใหม่ “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์3” ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2012 แม้จะประเดิมเพียงรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล “บีเอ็มดับเบิลยู 320d” และจากนั้นไม่นานเข้าสู่ครึ่งปีหลังได้ขึ้นไลน์ประกอบในไทยทันที ถือเป็นการรุกตลาดที่ค่อนข้างรวดเร็วมาก และเป็นรถรุ่นธงที่ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยูมียอดขาย 3 ไตรมาส เติบโตกว่า 68% ด้วยจำนวนรวมกว่า 4 พันคัน ไล่จี้คู่แข่งเมอร์เซเดส-เบนซ์แบบหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว
แต่ก่อนจะสิ้นปี 2555 บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย พร้อมเปิดเกมรุกและสวนหมัดคู่แข่งเช่นกัน ด้วยการเปิดตัว 3 รถรุ่นใหม่ เพื่อเสริมทัพให้กับซีรี่ส์3 ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 เป็นต้นไป และไม่เพียงเท่านั้นยังมีการปรับโฉมให้กับรุ่นท็อปไลน์ “ซีรี่ส์7” เพื่อเปิดตัวในเวทีเดียวกันอีกด้วย นี่ยังไม่รวมแคมเปญกระตุ้นการขาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงื่อนไขระบบไฟแนนซ์ หรือการประกันต่างๆ
ทั้งนี้บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์3 รุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวเสริมทัพรุ่นซีดาน 320d โมเดลแรกจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน “บีเอ็มดับเบิลยู 328i” ซึ่งเป็นรุ่นที่เปิดตัวในต่างประเทศพร้อมกับรุ่น 335i และ 320d เมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่เมืองไทยเลือกประเดิมตลาดเฉพาะรุ่น 320d ก่อนตามแผนปูฐานกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล และนี่จึงเป็นเวลาของผู้ที่ชื่นชอบเครื่องยนต์เบนซินเสียที กับการที่จะได้ควบขุมพลัง TwinPower เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ไดเร็คอินเจ็คชั่น ทวินเทอร์โบ ฝาสูบแบบ Doble-Vanos แปรผันแคมชาร์ฟ และ Valvetronic แปรผันวาล์ว ให้กำลังสูงสุด 240 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,250-4,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ด้วยอัตราสิ้นเปลือง 15.8 กิโลเมตรต่อลิตร
ส่วนอีกรุ่นเป็นเครื่องยนต์เบนซินเช่นกัน “บีเอ็มดับเบิลยู 320i” โดยเป็น 1 ใน 3 รุ่น ที่เพิ่งถูกส่งลงมาทำตลาดในช่วงหลัง หรือฤดูใบไม้ผลิปีนี้ที่ผ่านมา โดยรถรุ่นนี้วางขุมพลังทวินเทอร์โบ 2.0 ลิตร 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ซึ่งจะมาเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้บริโภคชาวไทย
โดยบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ใหม่ที่เปิดตัวมาเสริมทัพ ยังคงมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย หรือ 3 แบบการตกแต่งเช่นเดิม ทั้งรุ่นสปอร์ต (Sport) เพื่อคนที่ชื่นชอบแนวสปอร์ต ตามมาด้วยรุ่นใหม่โมเดิร์น (Modern) ที่นำเอาโทนสีอะลูมิเนียมมาตกแต่ง และรุ่นลักชัวรี(Luxury) จะตกแต่งด้วยโครเมียมและสีเงินวาว สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหรูหรา
อย่างไรก็ตาม บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังเพิ่มทางเลือกใหม่กับผู้ที่ชื่นชอบรถแบบครอบครัว จึงได้มีการแนะนำ “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ทัวริง” (BMW 3 Series Touring) หรือในสหรัฐอเมริกาเรียกว่ารุ่น Sport Wagon เปิดตัวสู่ตลาดโลกเมื่อช่วงไตรมาสสองของปีนี้ แต่จะเริ่มส่งมอบรถในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ทำตลาดในไทยพอดี โดยในต่างประเทศมีเครื่องยนต์ให้เลือก 3 รุ่น เป็นรุ่น 328i เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ 245 แรงม้า ตามมาด้วย 2 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ได้แก่ รุ่น 330d ขุมพลัง 6 สูบ เทอร์โบ 258 แรงม้า และรุ่น 320d เครื่องยนต์บล็อก 4 สูบ เทอร์โบ 184 แรงม้า ซึ่งจะเป็นรุ่นที่นำมาทำตลาดในไทยครั้งนี้ เพราะปัจจุบันวางเครื่องบล็อกนี้กับรุ่นซีดานที่ขายในไทยอยู่แล้ว
บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 ทัวริง โฉมใหม่ หากเทียบกับรุ่นที่แล้ว แน่นอนตัวถังที่ใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ย่อมทำให้ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าเดิม เบาะหลังแยกพับได้ 3 ส่วน 40:20:40 ห้องเก็บสัมภาระด้ายท้ายมีความจุรวม 495 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง หรือเพิ่มจากเดิม 35 ลิตร และยังมีความอเนกประสงค์ที่กระจกบานท้ายสามารถเปิดแยกได้ด้วยระบบไฟฟ้า และหลังคาแก้วพาโนรามิคซันรูฟ
นอกจากเสริมทัพ 3 รุ่นใหม่ ให้กับซีรี่ส์ 3 แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังได้มีการแนะนำรุ่นปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ของรุ่นใหญ่ “บีเอ็มดับเบิลยู ซี่ส์ 7” หลังจากทำตลาดมานานประมาณ 4 ปี โดยโฉมใหม่ปี 2013 ที่เปิดตัวไปแล้วในต่างประเทศเมื่อกลางปีที่เพิ่งผ่านมา ได้มีการเปลี่ยนไฟหน้า LED พร้อมวงแหวน และไฟเลี้ยวด้านข้างแบบใหม่ กระจังหน้าปรับลดซี่ลงเหลือเพียง 9 จากเดิม 12 เช่นเดียวกับกันชนหน้าทรงใหม่ ขณะที่ด้านหลังเพิ่มคิ้วโครเมียม เชื่อมต่อระหว่างแถบสะท้อนแสงในกันชน
ส่วนภายในห้องโดยสารมีการเปลี่ยนเบาะคู่หน้า ชุดมาตรวัดดิจิตอลปรับเปลี่ยนได้ 4 โหมด และเปลี่ยนชุดเครื่องเสียงเป็นของ Bang & Olufsen ที่ให้กำลังขับ 1,200 วัตต์ แบบ High End Surround Sound System พร้อมกับมี Rear Seat Entertainment เป็นออปชัน ติดตั้งจอขนาด 9.2 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
สำหรับรุ่นที่จะเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป “บีเอ็มดับเบิลยู 740Li” ซึ่งในต่างประเทศรุ่นปรับโฉมได้มีการใช้เครื่องยนต์ใหม่ N55 แบบ 6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 450 นิวตัน-เมตร มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 12.6 กิโลเมตรต่อลิตร
การเปิดเกมรุกและแลกหมัดของค่ายใบพัดสีฟ้าครั้งนี้ เรียกว่าเป็นการจัดหนักเลยทีเดียว เพราะแต่ละรุ่นที่เปิดตัวออกมา ถือเป็นโมเดลหลักในตลาดของบีเอ็มดับเบิลยูทั้งนั้น!!