ต้องยอมรับว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของมาสด้าทำออกมาได้เตะตาโดนใจจริงๆ โดยเฉพาะรูปลักษณ์ที่ทำให้หลายคนระทวยและยอมควักเงินจ่ายแบบไม่ต้องลองขับด้วยซ้ำ
...ประมาณว่า “สวยอะชอบ” เรื่องอื่นค่อยว่ากัน
เห็นกระแสดี-แบรนด์มีความเข้มแข็ง(มากขึ้น)อย่างนี้ มาสด้าเขาก็ไม่ยอมหยุดนิ่งนะครับ เพราะนอกจากการสร้างความมั่นใจเรื่องการขาย-บริการหลังการขายแล้ว ในส่วนของตัวโปรดักต์ค่าย“ซูม-ซูม”ยังมีแผนเสริมทัพต่อเนื่อง ซึ่งปีหน้าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเราคงได้เห็นเอสยูวีไซส์เล็ก “ซีเอ็กซ์-5” (CX-5) กับ “มาสด้า6” มาโลดแล่นบนถนนเมืองไทยช่วงต้นปีและปลายปีตามลำดับ
อย่างไรก็ตามโปรดักต์ที่ขายอยู่ในปัจจุบัน มาสด้าเพิ่งเพิ่มทางเลือกให้ มาสด้า3 ด้วยรุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร หลังปล่อยให้รุ่น 2.0 ลิตร โกยยอดไปล่วงหน้าก่อนเป็นปี
สำหรับ“มาสด้า3” รุ่น1.6ใหม่ จะแบ่งขาย 3 รุ่นย่อยคือ Groove ตัวถังซีดานราคา755,000 บาท Spirit ตัวถังซีดาน825,000 บาท และSpirit Sports ตัวถังแฮตช์แบ็ก 869,000 บาท (รุ่น 2.0 ลิตรขายราคาเดียวคือ 1.064 ล้านบาท)
ทั้งนี้ผู้เขียนได้ลองขับรุ่นSpirit Sports ตัวถังแฮตช์แบ็ก ซึ่งดูรูปโฉมภายนอกเผินๆก็เท่เหมือนกับรุ่น 2.0 ลิตร แต่จะมีที่ต่างๆตรงการออกแบบแผงกันชนและกระจังหน้า ทั้งยังไม่มีสเกิร์ตข้าง ไฟหน้าใช้หลอดฮาโลเจน (2.0ใช้ไบซีนอน) ไฟหลังเป็นหลอดธรรมดา (2.0 เป็นLED) กระจกมองข้างไม่มีไฟเลี้ยว รวมถึงล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว (2.0 ใช้ขอบ17 นิ้ว)
หลังจากเข้าไปนั่งภายในสักพักพบว่ารุ่น 1.6 ลิตรไม่มีซันรูฟมาให้ และขาดออปชันอย่างระบบกุญแจอัจฉริยะ-ปุ่มสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ และแพดเดิลชิฟท์เปลี่ยนเกียร์ (แต่คันเกียร์โยกแบบแมนวลได้) ส่วนการตกแต่งและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆนั้นแทบจะยกของรุ่น 2.0 ลิตรมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งหนังทรงสปอร์ตบัคเกตซีท หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยก เครื่องเล่นวิทยุ CD/MP3 6 แผ่น ช่องเชื่อมต่อ AUX พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัยช่องและขับเสียงด้วยลำโพง 6 ตัว
ขณะที่ความปลอดภัยรุ่น 1.6 ยังจัดดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และถุงลมนิรภัยคู่หน้า แต่ลืมใส่ระบบคุมการทรงตัว DSC กับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction control มาให้
ในส่วนของระบบขับเคลื่อนยกชุดมาจากรุ่นเก่า ทั้งเครื่องยนต์ MZR ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Sequential Valve Timing (S-VT) ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
อย่างไรก็ตามวิศวกรมาสด้ายืนยันว่าแม้จะเป็นขุมพลังและเกียร์ชุดเก่า แต่ด้วยโครงสร้างตัวถังใหม่ที่น้ำหนักเบากว่าเดิม พร้อมแอโรไดนามิกที่ดีขึ้น จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ พร้อมกับลดอัตราบริโภคน้ำมันไปในตัว
...ส่วนตัวผู้เขียนเองหลังได้ลองขับระยะทางไกลๆ มาสด้า 1.6ไม่ได้ขี้เหร่อย่างที่คิดครับ จังหวะออกตัวไม่อืดและยังรับรู้ถึงอาการฉุดดึงพอสมควร (อัตราทดเฟืองท้าย 4.416) อย่างช่วงเร่งแซงบี้คันเร่งลงไปให้ลึก พร้อมรอบดีดสูงเกิน 3,500 ขึ้นไป ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด แม้จะดูมุมไหนก็โบราณไปหน่อยกับยุคสมัยนี้ แต่ก็ยังช่วยประคองกำลังรถให้ทะเยอทะยานไปได้สบาย ส่วนความเร็วปลาย 150-160 แอบมีอาการตื้อหมดเหมือนกัน
ด้านช่วงล่างอิสระ 4 ล้อที่ใช้โครงสร้างเหมือนรุ่นเก่าและรุ่น 2.0 ลิตร คือ หน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท โช้คอัพ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง หลังมัลติลิงก์ โช้คอัพ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ซับแรงสะเทือนจากพื้นถนนได้นุ่มกว่ารุ่นเก่า แต่กระนั้นยังมีเสียงจากยางและพื้นถนนแอบสะท้านเข้ามาในห้องโดยสารอยู่นิดๆ ขณะเดียวกันการขับใช้ความเร็วสูงเกิน 120 กม./ชม. ช่วงล่างอาจไม่หนึบนิ่งเท่ากับรุ่น 2.0 ลิตร ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากน้ำหนักตัวที่เบากว่า
ส่วนการควบคุมผ่านพวงมาลัยแรคแอนพิเนียนผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ยังตอบสนองแม่นยำพร้อมให้การขับขี่คล่องตัว ซึ่งประเด็นนี้มาสด้าใช้เทคนิคการเพิ่มตำแหน่งยึดชุดเฟืองบังคับเลี้ยว เพื่อช่วยเรื่องความกระชับสมดุล และผลที่ได้รับก็ยอดเยี่ยมสุดๆ
ด้านอัตราบริโภคน้ำมันสำหรับการขับแบบรีบๆไปต่างจังหวัด สรุปได้ตัวเลขแสดงที่หน้าจอ 7.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 12.6 กิโลเมตรต่อลิตร
รวบรัดตัดความ...ไม่ต้องควักเงินล้าน(รุ่น 2.0 ลิตร) ก็ได้ความหล่อคมพร้อมเอกลักษณ์ที่โดดเด่นบนท้องถนน แม้การขับอาจจะไม่เนียนแน่นเท่า และถูกตัดออปชันออกไปหลายประการ แต่ในภาพรวมมาสด้า 3 รุ่น 1.6 ลิตร ใหม่ พัฒนาความประณีตในงานโครงสร้างไปมาก อันมีส่วนให้บุคลิกรถดูนุ่มนวลและลดความดิบไปพอสมควร