ข่าวต่างประเทศ – ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ เป็นรถยนต์นั่งขนาดกลางรุ่นแรกที่ได้รับประโยชน์จากการติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่พัฒนาขึ้นจากการศึกษาการเคลื่อนไหวของนักเล่นสกีลงเขาและนักเล่นสโนว์บอร์ดเพื่อช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ขณะเข้าโค้ง
นวัตกรรมใหม่ที่ติดตั้งในฟอร์ด โฟกัส ใหม่ นี้นอกจากจะออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักขับมือใหม่ด้วยการมอบความรู้สึกถึงการควบคุมรถที่ดียิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นเทคโนโลยีที่จะโดนใจนักขับมือฉมัง ด้วยการติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพเพิ่มขึ้นแบบที่มักจะพบได้ในรถสปอร์ตระดับหรูเท่านั้น
เช่นเดียวกับการทรงตัวของนักเล่นสกีแบบลงเขาและนักเล่นสโนว์บอร์ด ที่จะต้องถ่ายน้ำหนักลงบนด้านข้างของฝ่าเท้ามากขึ้นเมื่อต้องการเปลี่ยนจากการเคลื่อนที่ตรงๆ มาสู่การเข้าโค้ง ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งจะค่อยๆ ส่งแรงเบรกไปยังล้อและยางเมื่อพบว่าล้ออาจเกิดการลื่นไถล ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่และรถสามารถเคลื่อนตัวผ่านทางโค้งไปได้อย่างราบรื่น
ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งเป็นเทคโนโลยีอันทันสมัยที่มักจะพบได้ในรถที่มีราคาสูง ระบบดังกล่าวทำงานคล้ายกับเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ด สลิป ในการควบคุมสมดุลของการกระจายกำลังระหว่างล้อขับเคลื่อนด้านหน้าทั้งสองล้อในขณะเข้าโค้ง ช่วยเพิ่มการเกาะถนนและการควบคุมทิศทางและช่วยลดอาการดื้อโค้ง
ระบบดังกล่าวทำงานโดยใช้ระบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์และการส่งสัญญาญไปยังพื้นผิวการจราจร 100 ครั้งต่อวินาที เมื่อรถเร่งความเร็วขณะอยู่ในโค้ง ระบบจะตรวจจับการทำงานของล้อหน้าที่อยู่ด้านในโค้งและส่งแรงเบรกในระดับที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถรู้สึกได้ไปยังล้อดังกล่าวหากตรวจพบการลื่นไถล ระบบนี้จึงช่วยลดการหมุนของล้อและให้ความรู้สึกประหนึ่งว่ามีการถ่ายเทแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปยังล้อด้านนอกซึ่งสามารถยึดเกาะถนนได้ดีกว่า ดังนั้น จึงช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่และการควบคุมพวงมาลัย
ทั้งนี้ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีทั่วไปใช้วิธีลดกำลังของเครื่องยนต์ แต่การแทรกแซงการทำงานของระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งจะนุ่มนวลกว่ามาก และผู้ขับขี่อาจไม่รู้สึกถึงการทำงานของระบบดังกล่าวเลย
“เมื่อคุณขับรถสไตล์สปอร์ตและต้องเข้าโค้ง ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งช่วยให้รถรู้สึกเหมือนคันเล็กลงและคล่องตัวมากขึ้น ทั้งยังตอบสนองต่อการควบคุมของพวงมาลัยได้เร็วขึ้นอีกด้วย” มาร์ก รัชบรูค ผู้จัดการฝ่ายเสถียรภาพในการขับขี่ของฟอร์ด กล่าว “ความสามารถในการยึดเกาะถนนจะสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ขับขี่มากประสบการณ์ และในขณะเดียวกัน นักขับมือใหม่ก็จะรู้สึกมั่นใจและควบคุมรถได้ดีขึ้นโดยเฉพาะเมื่อต้องขับบนถนนลื่นๆ”
นวัตกรรมใหม่ที่ติดตั้งในฟอร์ด โฟกัส ใหม่ นี้นอกจากจะออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักขับมือใหม่ด้วยการมอบความรู้สึกถึงการควบคุมรถที่ดียิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นเทคโนโลยีที่จะโดนใจนักขับมือฉมัง ด้วยการติดตั้งระบบควบคุมเสถียรภาพเพิ่มขึ้นแบบที่มักจะพบได้ในรถสปอร์ตระดับหรูเท่านั้น
เช่นเดียวกับการทรงตัวของนักเล่นสกีแบบลงเขาและนักเล่นสโนว์บอร์ด ที่จะต้องถ่ายน้ำหนักลงบนด้านข้างของฝ่าเท้ามากขึ้นเมื่อต้องการเปลี่ยนจากการเคลื่อนที่ตรงๆ มาสู่การเข้าโค้ง ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งจะค่อยๆ ส่งแรงเบรกไปยังล้อและยางเมื่อพบว่าล้ออาจเกิดการลื่นไถล ทั้งนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่และรถสามารถเคลื่อนตัวผ่านทางโค้งไปได้อย่างราบรื่น
ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งเป็นเทคโนโลยีอันทันสมัยที่มักจะพบได้ในรถที่มีราคาสูง ระบบดังกล่าวทำงานคล้ายกับเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ด สลิป ในการควบคุมสมดุลของการกระจายกำลังระหว่างล้อขับเคลื่อนด้านหน้าทั้งสองล้อในขณะเข้าโค้ง ช่วยเพิ่มการเกาะถนนและการควบคุมทิศทางและช่วยลดอาการดื้อโค้ง
ระบบดังกล่าวทำงานโดยใช้ระบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์และการส่งสัญญาญไปยังพื้นผิวการจราจร 100 ครั้งต่อวินาที เมื่อรถเร่งความเร็วขณะอยู่ในโค้ง ระบบจะตรวจจับการทำงานของล้อหน้าที่อยู่ด้านในโค้งและส่งแรงเบรกในระดับที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถรู้สึกได้ไปยังล้อดังกล่าวหากตรวจพบการลื่นไถล ระบบนี้จึงช่วยลดการหมุนของล้อและให้ความรู้สึกประหนึ่งว่ามีการถ่ายเทแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปยังล้อด้านนอกซึ่งสามารถยึดเกาะถนนได้ดีกว่า ดังนั้น จึงช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่และการควบคุมพวงมาลัย
ทั้งนี้ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีทั่วไปใช้วิธีลดกำลังของเครื่องยนต์ แต่การแทรกแซงการทำงานของระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งจะนุ่มนวลกว่ามาก และผู้ขับขี่อาจไม่รู้สึกถึงการทำงานของระบบดังกล่าวเลย
“เมื่อคุณขับรถสไตล์สปอร์ตและต้องเข้าโค้ง ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งช่วยให้รถรู้สึกเหมือนคันเล็กลงและคล่องตัวมากขึ้น ทั้งยังตอบสนองต่อการควบคุมของพวงมาลัยได้เร็วขึ้นอีกด้วย” มาร์ก รัชบรูค ผู้จัดการฝ่ายเสถียรภาพในการขับขี่ของฟอร์ด กล่าว “ความสามารถในการยึดเกาะถนนจะสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ขับขี่มากประสบการณ์ และในขณะเดียวกัน นักขับมือใหม่ก็จะรู้สึกมั่นใจและควบคุมรถได้ดีขึ้นโดยเฉพาะเมื่อต้องขับบนถนนลื่นๆ”