นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการเตรียมตัวการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ล่าสุดทางกระทรวงพาณิชย์เตรียมปรับหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจ สำหรับการลงทุนในประเทศไทย โดยให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างการทบทวนข้อมูล และคำชี้แจงในรายละเอียดต่างๆ ของหลักเกณฑ์การดูแลตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เช่น เรื่องการถือครองหุ้น การครอบงำหรือมีอิทธิพลในบริษัท การโหวตและตัดสินใจแต่ละเรื่อง อำนาจการจัดการบริหาร การกู้เงิน การจ่ายเงินปันผล ซึ่งตามกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวปี 2542 ที่ใช้กันอยู่ กำหนดเพียงแค่ว่าต่างชาติถือครองหุ้นได้ไม่เกิน 49 เปอร์เซ็นต์ และคนไทย 51 เปอร์เซ็นต์ แต่ว่าหลังจากเปิดเออีซี ในบางธุรกิจนั้นจะต้องเปิดให้นักลงทุนในอาเซียน สามารถเข้ามาถือหุ้นได้สูงสุดถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการปรับหลักเกณฑ์นี้จะสร้างความชัดเจน และความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้ ว่าเข้ามาอย่างถูกต้องไม่ผิดกฎหมาย โดยคาดว่าจะประกาศหลักเกณฑ์ได้ภายใน 1-2 เดือน และหัวหน้าสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศทั่วโลก จะชี้แจงให้นักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนได้รับทราบว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะมีมาตรการเข้มงวด เน้นที่บริษัทนิติบุคคลที่มีต่างชาติถือครองหุ้น และได้รับอนุญาตจากกรมจำนวน 27,000 ราย ถ้าหากว่าเห็นว่านิติบุคคลต่างด้าวมีสิ่งผิดปกติ จะร่วมกับดีเอสไอตรวจสอบในเชิงลึกต่อไป