xs
xsm
sm
md
lg

‘เชฟโรเลต’จัดชุดใหญ่ ปรับ-เพิ่มรถใหม่เพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เก๋งซับคอมแพ็กต์ “เชฟโรเลต โซนิค”
การเติบโตอย่างต่อเนื่องของรถยนต์ “เชฟโรเลต” ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปีที่ผ่านมาทะยานเพิ่มเป็นเท่าตัว หรือกว่า 3 หมื่นคัน ส่วนหนึ่งมาจากการมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด อย่างเชฟโรเลต ครูซ หรือเอสยูวีรุ่นแคปติวา และเมื่อปลายปีที่แล้วได้มีการเปิดตัวโฉมใหม่ปิกอัพ “เชฟโรเลต โคโลราโด” ยิ่งเสมือนติดปีกให้กับแบรนด์โบว์ไทรายนี้ จึงไม่แปลกที่จะตั้งเป้ายอดขายปี 2555 ทะยานเพิ่มมากกว่าเท่าตัว แต่นั่นคงเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีกลยุทธ์การตลาดดันยอดขายอีกมาก ซึ่งล่าสุดได้เริ่มปฏิบัติการณ์แล้ว กับการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด One Day in Life พร้อมแนะนำพรีเซนเตอร์ชื่อดัง “พลอย-เฌอมาลย์” และ “อเล็กซ์-ธีรเดช” เพื่อรุกการสื่อสารทางการตลาดเชิงลึกให้กับตัวผลิตภัณฑ์ พร้อมต่อยอดด้วยภาพยนตร์สั้นบนโลกออนไลน์ 3 เรื่อง และที่สำคัญนับจากนี้ไปเชฟโรเลตจะมีทีเด็ด ทยอยออกมาดึงลูกค้าอีกเพียบ...

“นอกจากเปิดตัวพรีเซนเตอร์และภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ออกมาแล้ว ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ จะมีการแนะนำเชฟโรเลต ครูซ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตรใหม่สู่ตลาดด้วย ซึ่งจะมีกำลังและแรงบิดสูงกว่าตัวปัจจุบันมาก และหากเทียบกับคู่แข่งเครื่องยนต์ดีเซลด้วยกัน ครูซนับว่าโดดเด่นอย่างชัดเจน”

อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด หรือจีเอ็ม (GM) ในประเทศไทย และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยและว่า การเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ของครูซ คงจะต้องมีการปรับราคาใหม่ แต่ไม่มากและมีความเหมาะสม ถือเป็นราคาที่คุ้มค่ากับสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับอย่างแน่นอน

โดยเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ของเชฟโรเลต ครูซนี้ ยังผ่านมาตรฐานไอเสียระดับยูโร 4 ที่เริ่มบังคับใช้ในปีนี้ และเชฟโรเลต แคปติวา จะมีการปรับให้ผ่านมาตรฐานดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งจริงๆ แล้วบริษัทมีความพร้อมในการปรับให้ได้มาตรฐานอยู่แล้ว เพียงแต่ปัจจุบันน้ำมันมาตรฐานยูโร4 มีให้บริการน้อย แต่เอสยูวีรุ่นแคปติวาก็สามารถเติมได้ไม่มีปัญหา แม้รุ่นปัจจุบันจะอยู่ในระดับ 3 ก็ตาม
ภายใน เชฟโรเลต โซนิค
ทั้งนี้ตามรายงานข่าวระบุว่า เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ที่จะนำวางในเชฟโรเลต ครูซ เป็นบล็อกเดียวกับที่วางในเชฟโรเลต แคปติวา เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

นี่จึงเป็นอีกกลยุทธ์เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดคอมแพ็กต์คาร์ โดยซาร่าบอกว่าในปีที่ผ่านมา เชฟโรเลตมีส่วนแบ่งการตลาด หรือแชร์ในเซกเม้นท์นี้ประมาณ 10% หรือจำนวน 10,000คัน ซึ่งปีนี้คาดว่าจะรักษาส่วนแบ่งไว้ แต่เชื่อมั่นน่าจะขยายตัวเพิ่มเล็กน้อย จากการเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ และล่าสุดได้เปิดตัวสีแดงใหม่ Sizzle Red รวมถึงพรีเซนเตอร์และภาพยนตร์โฆษณาใหม่

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสำหรับผู้จองเชฟโรเลต ครูซ ทุกรุ่น ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ดอกเบี้ยต่ำ 2.22 % หรือดาวน์เริ่มต้นเพียง 9% ผ่อนนาน 84 เดือน และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี แต่ที่ไม่ตั้งเป้าหมายไว้สูงมาก เพราะปีนี้ตลาดคอมแพ็กต์คาร์จะมีการแข่งขันอย่างหนัก จากการเปิดตัวรถใหม่หลายรุ่นเช่นกัน
เชฟโรเลต โซนิค ตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู
“ยอดขายหลักของเชฟโรเลตปีนี้ที่ตั้งไว้ 85,000 คัน ประมาณ 30-40% จะมาจากปิกอัพรุ่นโคโลราโด ส่วนรุ่นที่เหลือจะเฉลี่ยใกล้เคียงกัน แต่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น เพราะในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2012 ช่วงปลายมีนาคม-เมษายนปีนี้ เชฟโรเลตจะแนะนำรถใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รถอเนกประสงค์แบบพีพีวี(PPV) เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ และเก๋งซับคอมแพ็กต์ “เชฟโรเลต โซนิค” ซาร่ากล่าวและว่า

สำหรับเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ (Chevrolet Trailblazer) เป็นรถที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานและเครื่องยนต์เดียวกับปิกอัพรุ่นโคโลราโด แต่พัฒนาให้เป็นรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี โดยซาร่าบอกว่ารุ่นที่โดดเด่นของปิกอัพโคโลราโด เป็นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ขณะที่พีพีวีรุ่นเทรลเบลเซอร์จะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลขนาด 2.8 ลิตร ซึ่งสามารถตอบสนองในเรื่องของกำลังและสมรรถนะการขับขี่ได้เป็นอย่างดี

โดยเทรลเบลเซอร์มีกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ชีวิต หรือทำงาน และมีการเดินทางจริงๆ แตกต่างจากรุ่นแคปติวาที่เป็นรถเอสยูวี(SUV) เน้นการใช้งานในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนกรุงเทพฯ หรือในเมืองมากกว่า 50% แต่เทรลเบลเซอร์จะเป็นกลุ่มนี้เพียง 35-45% โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานในต่างจังหวัด

“เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ เป็นรถที่มีสมรรถนะการขับขี่และเกาะถนนดี หากเทียบกับคู่แข่งในตลาด จะเห็นความโดดเด่นอย่างชัดเจน ดังนั้นจึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทย”

ในส่วนของเก๋งซับคอมแพกต์ เชฟโรเลต โซนิค (Chevrolet Sonic) ซาร่าระบุว่าจะมีการนำมาเผยโฉมในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2012 แต่จะเริ่มทำตลาดจริงในช่วงปลายปีนี้ ดังนั้นจึงยังไม่สามารถช่วยผลักดันยอดขายได้มากนัก แต่ในปี 2556 เชฟโรเลต โซนิค จะเป็นรถที่มีสัดส่วนการขาย สูงเป็นอันดับสองรองจากปิกอัพโคโลราโด เพราะเก๋งซับคอมแพ็กต์เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก ขณะที่เชฟโรเลต อาวีโอ จะยังคงทำตลาดต่อไปในเฉพาะรุ่นใช้ก๊าซธรรมชาติ หรือซีเอ็นจี(CNG) เพราะมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการพอสมควร

ทั้งนี้ตามรายงานข่าว เชฟโรเลต โซนิค จริงๆ แล้วคือการโมเดลเชนจ์ของรุ่นอาวีโอ แต่ครั้งนี้ได้เปลี่ยนชื่อให้เหมือนกับตลาดสหรัฐอเมริกา และจะทำตลาดครบทั้งตัวถังแบบซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบ็ก 5 ประตู เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ที่มีให้เลือกระหว่างรุ่น 1.4 ลิตร และ 1.6 ลิตรเช่นเดิม ซึ่งเป็นสไตล์ของรถอเมริกัน เหมือนกับ “ฟอร์ด เฟียสต้า”
 “เชฟโรเลต ครูซ” กับพรีเซ็นเตอร์คนใหม่
“เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์” เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร บุกตลาดรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี
นั่นเป็นในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่ ขณะที่เครือข่ายการขายและบริการหลังการขาย ซาร่ายืนยันตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ มีความพร้อมเพื่อที่จะขายรถรุ่นใหม่และที่มีอยู่ปัจจุบันแล้ว พร้อมกันนี้เชฟโรเลตมีแผนในการพัฒนาบริการหลังการขาย ด้วยแคมเปญต่างๆ เพื่อยกระดับการบริการ ที่เชื่อว่าจะสร้างความแตกต่างให้เชฟโรเลตเหนือกว่าคู่แข่ง ตลอดจนการบริการด้านการขายที่จะมอบความสะดวกสบายให้ลูกค้า ทั้งการเพิ่มรถเดโมคาร์หรือรถทดสอบ เพิ่มจำนวนรถที่จอดโชว์ในโชว์รูม หรือรถดิสเพลย์ให้มากขึ้น พร้อมกับการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะช่างเทคนิค ให้มีความเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำลูกค้า หรือบำรุงรักษารถลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และรวดเร็วกว่าเดิม

นับว่าเป็นปีที่ท้าทายอย่างยิ่งของเชฟโรเลต จากยอดขาย 3 หมื่นคันในปีที่ผ่านมา ปรับเพิ่มปีนี้เป็นกว่า 8.5 หมื่นคัน แต่เมื่อดูกลยุทธ์การตลาด และผลิตภัณฑ์ใหม่ ถือว่าเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้เช่นกัน ทีนี้ก็มาลุ้นกันว่ากลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ดังกล่าว... จะโดนใจผู้บริโภคหรือไม่?

กำลังโหลดความคิดเห็น