ข่าวในประเทศ-โยโกฮามาทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท หนุนทีมแข่งและนักขับชั้นนำเมืองไทย ลุยทำศึก BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL 2012 กระตุ้นการรับรู้ผู้บริโภค พร้อมตั้งเป้ายอดขายปี 2555 ไว้มากกว่า 300,000 เส้น เพิ่มจากปีก่อนหน้ากว่า 25% หวังครองส่วนแบ่งตลาด 5% จาก 6 ล้านเส้นของตลาดรวมยางรถเก๋งและรถกระบะ
ยูทากะ ฟูรูกาวา กรรมการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงความสำเร็จในการสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ Super Car Thailand Bangsaen Festival ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมหกรรมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL 2012 ซึ่งจัดการแข่งขันไปเมื่อวันที่ 1-5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สามารถตอกย้ำการรับรู้แบรนด์ “โยโกฮามา” ว่า เป็นยางรถยนต์ระดับ Hyperformance ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านสมรรถนะและประสิทฺธิภาพสูง ให้ความนุ่มนวลและความเงียบ สะท้อนถึงปรัชญาบริษัทและความโดดเด่นของยางโยโกฮามาจากสนามแข่งสู่ท้องถนน
“เราให้ความสำคัญกับ Sport Marketing จึงทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท มากกว่าปีก่อน เนื่องจากโยโกฮามามุ่งมั่นทำตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น โดยนำยางสมรรถนะสูงจากต่างประเทศมาใช้ในกิจกรรมนี้ โดยเฉพาะกว่า 2,000 เส้น จัดงบสนับสนุนทีมแข่งอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งนำยางโยโกฮามารุ่นต่างๆ ที่มีจำหน่ายในปัจจุบันมาจัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อโชว์เทคโนโลยีการผลิตและออกแบบยางรถยนต์โยโกฮามา ให้ความรู้ในการใช้ยางแก่ผู้สนใจทั่วไป โดย 3 ปีที่ผ่านมาที่โยโกฮามาเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบ กิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตนอกจากจะสะท้อนถึง DNA ผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังทำให้โยโกฮามาประสบความสำเร็จในตลาดยางรถยนต์เมืองไทยอย่างรวดเร็ว”
ยูทากะ ฟูรูกาวา คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดยางรถยนต์เมืองไทยปี 2555 จะมีปริมาณขายรวมทั้งสิ้นกว่า 8 ล้านเส้น แบ่งเป็นตลาดยางรถเก๋งและรถกระบะ 6 ล้านเส้น อีก 2 ล้านเส้นเป็นยางรถขนาดใหญ่ โดยมีปัจจัยบวกจากภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่คาดว่าจะกลับมาดีขึ้น โดยโยโกฮามาตั้งเป้าขายมากกว่า 300,000 เส้น เพิ่มจากปี 2554 กว่า 25% หรือมีสัดส่วนการครองตลาดที่ 5% จากจำนวน 6 ล้านเส้นของตลาดรวมยางรถเก๋งและรถกระบะ
“ปีที่ผ่านมาเราทำยอดขายเกือบ 300,000 เส้น ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย มีสาเหตุจากต้นปีไม่มียางป้อนตลาดเพียงพอ ปลายปีเกิดวิกฤติน้ำท่วม และเพื่อการเติบโตทางยอดขายมากกว่าปีที่ผ่านมา 25% จึงเน้นดำเนินกลยุทธ์อย่างเข้มข้น โดยใช้งบกว่า 50 ล้านบาทใน 3 ส่วน คือ กลยุทธ์ด้านมอเตอร์สปอร์ต เพื่อสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ การประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่กว่า 300 แห่ง ด้วยแคมเปญและโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่างๆ รวมถึงแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในกลุ่มยางรถยนต์ประเภท SUV ออกสู่ตลาด ซึ่งยางรุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวที่ญี่ปุ่น และที่สำคัญในปีนี้โยโกฮามาเน้นนโยบายทางการตลาดภายใต้แนวคิด “Quality Over Quantity” หรือ เน้นคุณภาพผลิตภัณฑ์และการให้การบริการมากกว่าปริมาณการขายและเพิ่มจำนวนผู้แทนจำหน่าย ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วนในช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน 2555) ที่จะใช้ขับเคลื่อนให้โยโกฮามาบรรลุเป้าหมาย”
ด้านแผนการลงทุนเพิ่มเติมนั้น ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าวว่า ล่าสุด ทางโรงงานจะขยายไลน์การผลิตยางรุ่นใหม่ประเภทรถยนต์นั่ง ณ โรงงานผลิตยางรถยนต์แห่งเดิมที่จังหวัดระยอง ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีกำลังผลิตสูงสุด 3 ล้านเส้นต่อปี แบ่งเป็นไลน์การผลิตยางรถยนต์ขนาดใหญ่ ยางรถกระบะ และยางรถเก๋ง ที่เพิ่งเปิดไลน์ผลิตเมื่อปีที่ผ่านมา
ยูทากะ ฟูรูกาวา กรรมการ บริษัท โยโกฮามา ไทร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงความสำเร็จในการสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ Super Car Thailand Bangsaen Festival ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมหกรรมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ BANGSAEN THAILAND SPEED FESTIVAL 2012 ซึ่งจัดการแข่งขันไปเมื่อวันที่ 1-5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สามารถตอกย้ำการรับรู้แบรนด์ “โยโกฮามา” ว่า เป็นยางรถยนต์ระดับ Hyperformance ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในด้านสมรรถนะและประสิทฺธิภาพสูง ให้ความนุ่มนวลและความเงียบ สะท้อนถึงปรัชญาบริษัทและความโดดเด่นของยางโยโกฮามาจากสนามแข่งสู่ท้องถนน
“เราให้ความสำคัญกับ Sport Marketing จึงทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท มากกว่าปีก่อน เนื่องจากโยโกฮามามุ่งมั่นทำตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น โดยนำยางสมรรถนะสูงจากต่างประเทศมาใช้ในกิจกรรมนี้ โดยเฉพาะกว่า 2,000 เส้น จัดงบสนับสนุนทีมแข่งอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งนำยางโยโกฮามารุ่นต่างๆ ที่มีจำหน่ายในปัจจุบันมาจัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อโชว์เทคโนโลยีการผลิตและออกแบบยางรถยนต์โยโกฮามา ให้ความรู้ในการใช้ยางแก่ผู้สนใจทั่วไป โดย 3 ปีที่ผ่านมาที่โยโกฮามาเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบ กิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตนอกจากจะสะท้อนถึง DNA ผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังทำให้โยโกฮามาประสบความสำเร็จในตลาดยางรถยนต์เมืองไทยอย่างรวดเร็ว”
ยูทากะ ฟูรูกาวา คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดยางรถยนต์เมืองไทยปี 2555 จะมีปริมาณขายรวมทั้งสิ้นกว่า 8 ล้านเส้น แบ่งเป็นตลาดยางรถเก๋งและรถกระบะ 6 ล้านเส้น อีก 2 ล้านเส้นเป็นยางรถขนาดใหญ่ โดยมีปัจจัยบวกจากภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่คาดว่าจะกลับมาดีขึ้น โดยโยโกฮามาตั้งเป้าขายมากกว่า 300,000 เส้น เพิ่มจากปี 2554 กว่า 25% หรือมีสัดส่วนการครองตลาดที่ 5% จากจำนวน 6 ล้านเส้นของตลาดรวมยางรถเก๋งและรถกระบะ
“ปีที่ผ่านมาเราทำยอดขายเกือบ 300,000 เส้น ต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย มีสาเหตุจากต้นปีไม่มียางป้อนตลาดเพียงพอ ปลายปีเกิดวิกฤติน้ำท่วม และเพื่อการเติบโตทางยอดขายมากกว่าปีที่ผ่านมา 25% จึงเน้นดำเนินกลยุทธ์อย่างเข้มข้น โดยใช้งบกว่า 50 ล้านบาทใน 3 ส่วน คือ กลยุทธ์ด้านมอเตอร์สปอร์ต เพื่อสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ การประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมการขายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่กว่า 300 แห่ง ด้วยแคมเปญและโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่างๆ รวมถึงแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในกลุ่มยางรถยนต์ประเภท SUV ออกสู่ตลาด ซึ่งยางรุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวที่ญี่ปุ่น และที่สำคัญในปีนี้โยโกฮามาเน้นนโยบายทางการตลาดภายใต้แนวคิด “Quality Over Quantity” หรือ เน้นคุณภาพผลิตภัณฑ์และการให้การบริการมากกว่าปริมาณการขายและเพิ่มจำนวนผู้แทนจำหน่าย ซึ่งถือเป็นนโยบายเร่งด่วนในช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน 2555) ที่จะใช้ขับเคลื่อนให้โยโกฮามาบรรลุเป้าหมาย”
ด้านแผนการลงทุนเพิ่มเติมนั้น ยูทากะ ฟูรูกาวา กล่าวว่า ล่าสุด ทางโรงงานจะขยายไลน์การผลิตยางรุ่นใหม่ประเภทรถยนต์นั่ง ณ โรงงานผลิตยางรถยนต์แห่งเดิมที่จังหวัดระยอง ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีกำลังผลิตสูงสุด 3 ล้านเส้นต่อปี แบ่งเป็นไลน์การผลิตยางรถยนต์ขนาดใหญ่ ยางรถกระบะ และยางรถเก๋ง ที่เพิ่งเปิดไลน์ผลิตเมื่อปีที่ผ่านมา
