ข่าวในประเทศ - ซันยองเผยนโยบายปีมังกรทอง ครบรอบ 8 ปีก้าวสู่ปีที่ 9 ตั้งเป้ายอดขายรถทุกรุ่น 600 คัน เติบโตขึ้น 25 % เน้นบริการหลังการขาย ขยายศูนย์บริการรองรับต่างจังหวัด ประเดิมต้นปีด้วยฟาสเซอร์วิส สำนักงานใหญ่ ซ่อมเร็วภายใน 30 นาที ด้านการตลาดเน้นโรดโชว์ เฉลี่ย 6 งานใหญ่ใน 12 เดือน พร้อมปรับเพิ่มทางเลือกด้วยรถโฉมใหม่สม่ำเสมอ เริ่มจากปลายไตรมาสแรกเป็นต้นไป
นายวิรัตน์ ผลประดับ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่ซันยอง (ประเทศไทย) ถือเป็นวาระครบรอบ 8 ปีย่างเข้าสู่ปีที่ 9 ที่ได้เปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะมีอัตราเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมาราว 25 เปอเซนต์ เป็นไปตามคาดหมายว่าตลาดรถยนต์จะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเนื่องจากภาวะกำลังซื้อที่จะมากขึ้นหลังจากถูกอั้นมาหลายเดือนต่อเนื่องจากภาวะมหาอุทกภัยในปลายปี 2554
“หลังจากเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป จะมีรถรุ่นใหม่ทยอยออกสู่ตลาดโดยตลอด ภาวะการณ์ซื้อขายจะกลับมาคึกคักทั้งตลาด เนื่องจากกำลังซื้อถูกอั้นมานาน หากไม่มีปัจจัยที่จะส่งผลลบต่อตลาดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ 2 ประเด็นหลักอันได้แก่เรื่องอุทกภัยซ้ำซ้อนและการเมือง ผมเชื่อว่าตลาดคงจะเดินไปได้ด้วยดี โดยปีนี้ซันยองเองตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ราว 600 คันเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่เราปิดยอดไปได้ราว 450 คันพลาดเป้าเล็กน้อยเนื่องจากภาวะอุทกภัยที่ส่งผลกระทบ” นายวิรัตน์กล่าว
นโยบายหลักของซันยองปีนี้ จะเพิ่มศักยภาพของศูนย์บริการ และจุดบริการแก่ลูกค้าในส่วนภูมิภาค โดยประเดิมตั้งแต่ต้นปี ศูนย์บริการฯ ของซันยอง ในรูปแบบฟาสเซอร์วิส ซ่อมเบา เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เช็คระยะภายในเวลา 30 นาที โดยมีความสามารถในการให้บริการได้สูงสุดถึง 16 คันต่อวัน
นายวิรัตน์ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนการตลาด ซันยองเน้นการเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายด้วยการออกโรดโชว์ในพื้นที่ต่างๆ ทั้งพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าเขตกรุงเทพและปริมณฑล โดยเฉพาะงานคาร์โชว์ระดับชั้นนำซึ่งในปีนี้จะมีการจัดงานกันอย่างคึกคักถึง 6 งานใหญ่ในระยะเวลา 12 เดือน ซันยองจะเน้นเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยการตกแต่งรถยนต์ที่มีอยู่ทุกรุ่นให้มีความหลากหลายลงตัวในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น REXTON II, STAVIC, ACTYON, KYRON,และ KORANDO โดยรถโมเดลแรกที่จะนำเสนอเป็นรูปแบบใหม่คือ STAVIC นั้นน่าจะมีเวอร์ชั่นใหม่ออกมาให้เห็นกันในปลายไตรมาสแรกของปีนี้โดยเฉพาะ เพื่อจัดแสดงใน งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2012 เป็นต้นไป
นายวิรัตน์ ผลประดับ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซันยอง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่ซันยอง (ประเทศไทย) ถือเป็นวาระครบรอบ 8 ปีย่างเข้าสู่ปีที่ 9 ที่ได้เปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะมีอัตราเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมาราว 25 เปอเซนต์ เป็นไปตามคาดหมายว่าตลาดรถยนต์จะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเนื่องจากภาวะกำลังซื้อที่จะมากขึ้นหลังจากถูกอั้นมาหลายเดือนต่อเนื่องจากภาวะมหาอุทกภัยในปลายปี 2554
“หลังจากเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป จะมีรถรุ่นใหม่ทยอยออกสู่ตลาดโดยตลอด ภาวะการณ์ซื้อขายจะกลับมาคึกคักทั้งตลาด เนื่องจากกำลังซื้อถูกอั้นมานาน หากไม่มีปัจจัยที่จะส่งผลลบต่อตลาดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะ 2 ประเด็นหลักอันได้แก่เรื่องอุทกภัยซ้ำซ้อนและการเมือง ผมเชื่อว่าตลาดคงจะเดินไปได้ด้วยดี โดยปีนี้ซันยองเองตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ราว 600 คันเพิ่มขึ้นจากปี 2554 ที่เราปิดยอดไปได้ราว 450 คันพลาดเป้าเล็กน้อยเนื่องจากภาวะอุทกภัยที่ส่งผลกระทบ” นายวิรัตน์กล่าว
นโยบายหลักของซันยองปีนี้ จะเพิ่มศักยภาพของศูนย์บริการ และจุดบริการแก่ลูกค้าในส่วนภูมิภาค โดยประเดิมตั้งแต่ต้นปี ศูนย์บริการฯ ของซันยอง ในรูปแบบฟาสเซอร์วิส ซ่อมเบา เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เช็คระยะภายในเวลา 30 นาที โดยมีความสามารถในการให้บริการได้สูงสุดถึง 16 คันต่อวัน
นายวิรัตน์ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของแผนการตลาด ซันยองเน้นการเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายด้วยการออกโรดโชว์ในพื้นที่ต่างๆ ทั้งพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าเขตกรุงเทพและปริมณฑล โดยเฉพาะงานคาร์โชว์ระดับชั้นนำซึ่งในปีนี้จะมีการจัดงานกันอย่างคึกคักถึง 6 งานใหญ่ในระยะเวลา 12 เดือน ซันยองจะเน้นเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยการตกแต่งรถยนต์ที่มีอยู่ทุกรุ่นให้มีความหลากหลายลงตัวในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น REXTON II, STAVIC, ACTYON, KYRON,และ KORANDO โดยรถโมเดลแรกที่จะนำเสนอเป็นรูปแบบใหม่คือ STAVIC นั้นน่าจะมีเวอร์ชั่นใหม่ออกมาให้เห็นกันในปลายไตรมาสแรกของปีนี้โดยเฉพาะ เพื่อจัดแสดงใน งานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2012 เป็นต้นไป
