xs
xsm
sm
md
lg

“ชาร์ป”เมินส่วนลดของรัฐ ลงทุนผลิตสินค้ากลุ่มใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “ชาร์ป” เมินร่วมโครงการเงินส่วนลด 2,000 บาท ของภาครัฐ แต่ยืนยันลงทุนไทยไม่หนีไปไหน มั่นใจศักยภาพ ปีหน้าเตรียมลงทุนผลิตสินค้ากลุ่มใหม่ พร้อมขยายกำลังผลิตตู้เย็น คาดปีงบประมาณ 54 อาจจะโตต่ำเป้าเล็กน้อยเหตุน้ำท่วม
นายทัตซึยะ มิยากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เปิดเผยถึงนโยบายของภาครัฐบาลเกี่ยวกับการแจกคูปองส่วนลด 2,000 บาท ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่ออซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ว่า บริษัทฯคงจะไม่เข้าร่วมกับโครงการนี้ เนื่องจากสินค้าของชาร์ปเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านกลุ่มภาพและเสียงเป็นหลัก และมีราคาค่อนข้างสูง อีกทั้งสินค้าในสต๊อกเวลานี้ก็มีไม่มากพอด้วย ขณะเดียวกันชาร์ปเองก็ได้จัดโปร
โมชั่นลดค่าอะไหล่มากถึง 50% และฟรีค่าซ่อมด้วย
อย่างไรก็ตาม นโยบายของบริษัทฯยังคงให้ความสำคัญและลงทุนในไทยต่อเนื่อง เพราะมั่นใจศักยภาพของประเทศไทย แม้ที่ผ่านมาจะเกิดปัญหาน้ำท่วมก็ตาม ซึ่งงบริษัทฯเองก็ได้รับผลกรทบด้วย แต่ก็เริ่มกลับมาผลิตสินค้าได้อีกครั้งในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากเส้นทางขนส่งเกิดปัญหาน้ำท่วมทั้งหมด และกระทบต่อการผลิตตู้เย็นขนาด 2 ประตู ที่ผู้ผลิตไม่สามารถจัดส่งชิ้นส่วนได้ คาดว่าปัญหาดังกล่าวจะคลี่คลายภายในไตรมาสแรกของปีหน้า
โดยปีหน้า มีแผนที่จะลงทุนผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มใหม่ ในโรงงานที่ บริษัท ชาร์ปแมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จ.นครปฐม เพื่อทดแทนการลดการผลิตสินค้าจอแก้ว (ซีอาร์ที) ซึ่งโรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานที่ผลิตโทรทัศน์ และเครื่องถ่ายเอกสาร ส่วนอีกโรงงานคือ โรงงานในบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ชื่อ บริษัท ชาร์ป อัพพลายแอนซ์ ซึ่งผลิตสินค้ากลุ่มตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องปรับอากาศ และเครื่องซักผ้า ซึ่งจะลงทุนขยายกำลังการผลิตตู้เย็น
ล่าสุด ชาร์ปได้เปิดตัว จอแสดงผลโต้ตอบแบบสัมผัส (อินเทอร์แอคทีฟ ไวท์บอร์ด) โดยเป็นจอภาพแบบสัมผัส ที่สามารถเขียนข้อมูลผ่านจอภาพได้ และสามารถลบข้อความออกจากระดานเหมือนกระดานปกติได้ทันที หรือสามารถเก็บข้อมูลเพื่อบันทึกลงคอมพิวเตอร์และถ่ายเอกสารได้ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายลูกค้าองค์กร ที่เป็นโรงเรียน บริษัทต่างๆ วางราคาขายไว้ 300,000 บาทในขนาดเครื่อง 70 นิ้ว มั่นใจจะสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 1,000 เครื่องภายในเวลา 1 ปี
สำหรับผลประกอบการของชาร์ป ปีงบประมาณ 2554 (เม.ย.54-มี.ค.55) คาดว่าจะมีรายได้รวม 5,000 ล้านบาท หรือเติบโต 15% ซึ่งต่ำก่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะเติบดต 20% เพราะผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม
กำลังโหลดความคิดเห็น