ASTVผู้จัดการรายวัน - น้ำประปาไทย ตั้งงบลงทุน 5 ปี 1.9 พันล้านบาท ลงทุนซื้อกิจการธุรกิจพลังงานสะอาดหวังกระจายฐานรายได้ไปธุรกิจพลังงาน ยันไม่มีแผนเพิ่มทุน คงจ่ายปันผลต่อเนื่อง ปีหน้าทุ่มเงิน 7 พันล้านบาท ซื้อกิจการ 6 แห่ง "ผู้บริหาร" เผยรายได้ปี 55 โต 15% จากปีนี้ 4.6 พันล้านบาท คาดกำไรสุทธิทะลุ 2.3 พันล้านบาท เตรียมออกหุ้นกู้ 3.5 พันล้านบาท ก.พ.ปีหน้า
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงาน 5 ปี (55-59) บริษัทตั้งงบลงทุน 19,000 ล้านบาท ในการเข้าไปซื้อกิจการ เข้าไปลงทุน หรือควบรวมกิจการธุรกิจที่เกี่ยวกับน้ำ ไฟฟ้า พลังงานสะอาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทจะ เน้นลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับไฟฟ้าและธุรกิจ พลังงานสะอาดเพื่อกระจายรายได้และเป็นการลดความเสี่ยงธุรกิจจากปัจจุบันที่รายได้หลักของบริษัทจะมาจากธุรกิจน้ำ ถึง 96% ซึ่งจำหน่ายให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค โดยบริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะมีสัดส่วนรายจากธุรกิจน้ำอยู่ที่ 65% ธุรกิจพลังงานอยู่ที่ 35%
ทั้งนี้ เม็ดเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากการกู้เงินจากสถาบัน การออกหุ้นกู้ และใช้กระแสเงินสดของบริษัท โดยบริษัทยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มทุนในช่วง 5 ปี และบริษัทจะยังคงมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 55 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 7,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาประมาณ 6 โครงการ
สำหรับบริษัทคาดว่าในไตรมาส 1/55 จะสามารถสรุปดีลได้ 3 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 4,500 ล้านบาท ซึ่ง 1 ใน 3 โครงการ คือ การเข้าซื้อหุ้นสามัญ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด และ คาดว่าในไตรมาส 2 และ 3 จะสามารถสรุปได้อีก 3 โครงการ มูลค่าลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อม
นายสมโพธิ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าปี 55 จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้รวม 4,600 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิก่อนหักภาษีมากกว่า 2,350 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะปรับราคา ขายน้ำเพิ่มอีก 3.5-4% ซึ่งบริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำในพื้นที่ปทุมธานี-รังสิต จาก 3.8 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 4.5 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยบริษัท คาดว่าจะจ่ายน้ำประปารวม 274.31 ล้าน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากปีนี้ที่จำหน่ายน้ำได้ 18.31 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน นอก จากนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัท ซี เค พาวเวอร์ ในปีหน้าอีก 190 ล้านบาท
"ในเดือน ก.ค.ปีหน้าบริษัทจะต้องเสียภาษีนิติบุคคล จากที่บีโอไอหมดแล้ว ในส่วนของการผลิตน้ำ 3 แสนคิวแรก แต่บริษัทมั่นใจว่ากำไรของบริษัทจะเป็นบวก ซึ่งคาดว่ากำไรก่อนหักภาษีจะทะลุ 2,350 ล้านบาทแน่นอน ซึ่งจากสถานการณ์น้ำท่วม นั้นมีผลกระทบต่อการจ่ายน้ำของบริษัท 1 เดือนในเขตปทุมธานี-รังสิต คิดเป็นสัดส่วน รายได้เพียง 1% เท่านั้น โดยรายได้รวมปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าเล็กน้อยเพียง 50 ล้านบาท ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 4.7 พันล้านบาท จากที่มีการจ่ายน้ำซ้ำซ้อนกับประปาภูมิภาค" นายสมโพธิ กล่าว
สำหรับในเดือนกุมภาพันธ์ปี 55 หุ้นกู้ของบริษัทมูลค่า 3.5 พันล้านบาท จะครบกำหนดไถ่ถอน ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นเพื่อรองรับหุ้นกู้เดิมที่หมดอายุ มูลค่า 3.5 พันล้านบาท แต่บริษัทจะมีการออกระยะเวลาให้ยาวมากขึ้น เป็น 7-10 ปี และแผนการกู้เงินและออกหุ้นกู้นั้น เพื่อให้ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนหรือ D/E RATIO ไม่เกิน 2 เท่า ตามมติของคณะกรรมการบริษัท และคาดว่าปี 55 ปีหน้า D/E จะอยู่ที่ 1.4 เท่า จากปัจจุบันที่ 1 เท่า
นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงาน 5 ปี (55-59) บริษัทตั้งงบลงทุน 19,000 ล้านบาท ในการเข้าไปซื้อกิจการ เข้าไปลงทุน หรือควบรวมกิจการธุรกิจที่เกี่ยวกับน้ำ ไฟฟ้า พลังงานสะอาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทจะ เน้นลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับไฟฟ้าและธุรกิจ พลังงานสะอาดเพื่อกระจายรายได้และเป็นการลดความเสี่ยงธุรกิจจากปัจจุบันที่รายได้หลักของบริษัทจะมาจากธุรกิจน้ำ ถึง 96% ซึ่งจำหน่ายให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค โดยบริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปี จะมีสัดส่วนรายจากธุรกิจน้ำอยู่ที่ 65% ธุรกิจพลังงานอยู่ที่ 35%
ทั้งนี้ เม็ดเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากการกู้เงินจากสถาบัน การออกหุ้นกู้ และใช้กระแสเงินสดของบริษัท โดยบริษัทยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มทุนในช่วง 5 ปี และบริษัทจะยังคงมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 55 บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 7,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาประมาณ 6 โครงการ
สำหรับบริษัทคาดว่าในไตรมาส 1/55 จะสามารถสรุปดีลได้ 3 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 4,500 ล้านบาท ซึ่ง 1 ใน 3 โครงการ คือ การเข้าซื้อหุ้นสามัญ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด และ คาดว่าในไตรมาส 2 และ 3 จะสามารถสรุปได้อีก 3 โครงการ มูลค่าลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อม
นายสมโพธิ กล่าวว่า บริษัทคาดว่าปี 55 จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้รวม 4,600 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิก่อนหักภาษีมากกว่า 2,350 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะปรับราคา ขายน้ำเพิ่มอีก 3.5-4% ซึ่งบริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำในพื้นที่ปทุมธานี-รังสิต จาก 3.8 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 4.5 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยบริษัท คาดว่าจะจ่ายน้ำประปารวม 274.31 ล้าน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จากปีนี้ที่จำหน่ายน้ำได้ 18.31 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน นอก จากนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัท ซี เค พาวเวอร์ ในปีหน้าอีก 190 ล้านบาท
"ในเดือน ก.ค.ปีหน้าบริษัทจะต้องเสียภาษีนิติบุคคล จากที่บีโอไอหมดแล้ว ในส่วนของการผลิตน้ำ 3 แสนคิวแรก แต่บริษัทมั่นใจว่ากำไรของบริษัทจะเป็นบวก ซึ่งคาดว่ากำไรก่อนหักภาษีจะทะลุ 2,350 ล้านบาทแน่นอน ซึ่งจากสถานการณ์น้ำท่วม นั้นมีผลกระทบต่อการจ่ายน้ำของบริษัท 1 เดือนในเขตปทุมธานี-รังสิต คิดเป็นสัดส่วน รายได้เพียง 1% เท่านั้น โดยรายได้รวมปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าเล็กน้อยเพียง 50 ล้านบาท ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 4.7 พันล้านบาท จากที่มีการจ่ายน้ำซ้ำซ้อนกับประปาภูมิภาค" นายสมโพธิ กล่าว
สำหรับในเดือนกุมภาพันธ์ปี 55 หุ้นกู้ของบริษัทมูลค่า 3.5 พันล้านบาท จะครบกำหนดไถ่ถอน ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นเพื่อรองรับหุ้นกู้เดิมที่หมดอายุ มูลค่า 3.5 พันล้านบาท แต่บริษัทจะมีการออกระยะเวลาให้ยาวมากขึ้น เป็น 7-10 ปี และแผนการกู้เงินและออกหุ้นกู้นั้น เพื่อให้ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนหรือ D/E RATIO ไม่เกิน 2 เท่า ตามมติของคณะกรรมการบริษัท และคาดว่าปี 55 ปีหน้า D/E จะอยู่ที่ 1.4 เท่า จากปัจจุบันที่ 1 เท่า