นิสสัน กรีน โปรแกรม 2016 (Nissan Green Program 2016) เป็นแผนด้านสิ่งแวดล้อมฉบับที่ 3 ของทางบริษัท มีวัตถุประสงค์ในการบรรลุเป้าหมายภายในปี 2016 เพื่อขึ้นสู่ผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์ไร้มลพิษ (Zero Emission) โดยตั้งเป้ายอดขายรวมของรถยนต์ไร้มลพิษ 1.5 ล้านคันภายใต้ความร่วมมือของพันธมิตรเรโนลต์ และนิสสัน ด้วยการพัฒนาปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีก 35% และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 20% ต่อคัน รวมถึงการเป็นผู้นำระบบรีไซเคิลแบบปิด ประยุกต์ใช้วัสดุของเหลือจากการผลิตและชิ้นส่วนที่หมดอายุใช้งานแล้ว เพื่อการผลิตรถคันใหม่ โดยนิสสันลงทุนกับโครงการนี้มากถึง 3,940 ล้านดอลลาร์ ทั้งยังสะท้อนถึงแนวคิดสำคัญเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนภายใต้โปรแกรมนิสสัน บลู ซิติเซ็นต์ชิพ (Nissan’s Blue Citizenship) ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของบริษัทที่ครอบคลุมถึงกิจกรรมในการแสดงความรับผิดชอบ ต่อสังคม
นายคาร์ลอส กอส์น ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่าสำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ในอนาคตจะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้มากขึ้น อาทิ รถยนต์ที่ใช้น้ำมันปกติ ก็จะมีการหาแหล่งพลังงานทดแทน เช่น เอทานอล, ไบโอดีเซล,อีวีและไฮโดรเจน โดยจะไม่ใช่แค่การพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์เท่านั้น แต่จะเป็นการพัฒนาเกี่ยวกับพลังงานควบคู่ไปด้วย ซึ่งในส่วนของนิสสัน ก็ได้มีการวางแผนงานเพื่อรองรับการเติบโตในทิศทางดังกล่าว
"มีลูกค้าจำนวนมากในปัจจุบันที่มองหายานพาหนะที่ตอบโจทย์ต่อค่านิยม ซึ่งรวมถึงรถยนต์และรถบรรทุกที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ ขณะเดียวกันทางนิสสันได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในโรงงาน เพื่อให้การผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น นิสสันมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอยานยนต์เพื่อสังคมที่ยั่งยืนและเพื่อเป็นการสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงสร้างความแตกต่างเชิงกลยุทธ์ให้กับนิสสันในตลาดระดับโลกอีกด้วย"
การเตรียมรุกตลาดรถพลังงานไฟฟ้าของนิสสันในครั้งนี้เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง หลังจากก่อนหน้านี้นิสสันประสบความสำเร็จอย่างมากในการบุกเบิกตลาดรถยนต์อีโคคาร์ หรือรถประหยัดพลังงาน ที่สำคัญคณะกรรมการรางวัลรถยนต์แห่งปียังประกาศให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นลีฟ (LEAF) ของนิสสันเป็นรถยนต์แห่งปีของญี่ปุ่นประจำปี 2554-2555 (เลือกจากรถยนต์ที่จำหน่ายในญี่ปุ่นในช่วงระหว่างวันที่ 1 พ.ย.ของปีก่อนถึงวันที่ 30 ก.ย.ของปีปัจจุบัน) ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
"ลีฟ" เป็นรถยนต์ไฟฟ้า100% รุ่นแรกหรือ EV (Electric Vehicle) ขนาด 5 ที่นั่งและสามารถจำหน่ายได้แล้วประมาณ 20,000 คันทั่วโลก ใช้พลังงานจากแบตเตอรีลิเธียมไอออนและมีระยะขับขี่ประมาณ 160 กิโลเมตรต่อการชาร์ต 1 ครั้ง นอกจากนี้"ลีฟ"ยังได้รับรางวัล RJC Car of the Year ในเดือนพ.ย.จากที่ประชุมนักวิจัยและผู้สื่อข่าวด้านรถยนต์ของญี่ปุ่น
นายโทชิยูกิ ชิกะ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า สิ่งที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายๆ รายต้องการนอกเหนือจากการปรับโครงสร้างภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตสำหรับรถประเภทนี้คือ การต้องได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อให้รถประเภทนี้มีราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่าย ปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้เงินอุดหนุนสำหรับผู้ที่ซื้อรถพลังงานไฟฟ้าถึง 50% ของมูลค่าตัวรถ ขณะที่สหรัฐอเมริกานั้นช่วยสนับสนุนด้านราคาสูงสุด 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ
ดังนั้นหากแผนการทำตลาดรถพลังงานไฟฟ้าของนิสสัน ถูกผลักดันขึ้นอย่างจริงจัง นิสสันจะเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในตลาดรถประหยัดพลังงานและรถพลังงานไฟฟ้าขึ้นมาในทันที เนื่องจากทั้ง 2 ตลาดยังมีอนาคตที่สดใสและความต้องการจะสูงขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน....