บูมกระแสให้กระหึ่ม โหมเครื่องมือทางการตลาดทุกทิศทุกทาง หลังการเปิดตัว “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เรียกว่ามองไปทางไหนก็เห็นแต่ “คริสเตียโน โรนัลโด” แอ็กชันทำเท่กับ “ปิกอัพขวัญใจมหาชน” ที่เพิ่งปรับโฉมครั้งใหญ่
เหมือนทุกครั้งหลังการเปิดตัว โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย (ทีเอ็มที) รีบจัดงานทดสอบให้สื่อมวลชน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์อีกหนึ่งทาง ซึ่งทริปนี้เราเริ่มต้นขับจากโรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้า สำโรง สมุทรปราการ มุ่งสู่เป้าหมาย คีรีมายา รีสอร์ท เขาใหญ่ ระยะทางเกือบ300 กิโลเมตร
รุ่นใหม่อะไรเปลี่ยน
“ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้ลองขับ พรีรันเนอร์ ตัวถังดับเบิลแค็บ 3.0 เกียร์อัตโนมัติ ราคา 889,000 บาท (สีเมทัลลิกเพิ่ม 7,000 บาท) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสองรุ่นย่อยใหม่ที่โตโยต้าเสริมทัพเข้ามาใน “ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” (อีกรุ่นคือ ตัวถังสมาร์ทแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ 2.5 วีเอ็นเทอร์โบ เกียร์ธรรมดา)
สำหรับ “วีโก้ ใหม่” ปรับโฉมไปเยอะพอสมควร โดยเฉพาะด้านหน้าถือว่าเปลี่ยนยกแผก ไล่ตั้งแต่แผงกันชน กระจัง โคมไฟ ฝากระโปรง ช่องดักลม ซุ้มโป่งล้อ ล้อแมกซ์อัลลอยลายใหม่ ส่วนด้านหลังเปลี่ยนรายละเอียดในกรอบไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 ใช้กรอบสีขาว(หลอดยังแดงเหมือนเดิม) รวมถึงหันมาใช้เสาอากาศแบบสั้นติดบนหลังคาเหมือนรถเก๋งรุ่นใหม่ๆ
ภายในเปลี่ยนพวงมาลัยใหม่ หรือยกของคัมรี่มาเลย ซึ่งจะมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์ ช่วยอำนวยความสะดวกและดูทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ลูกบิดปรับระบบแอร์ก็เปลี่ยนลายใหม่ รวมถึงชุดเครื่องเสียง มาพร้อมจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว เครื่องเล่นซีดี ดีวีดี 1 แผ่น รองรับไฟล์ MP3 WMA และเพิ่มช่องต่ออุปกรณ์ภายนอก USB/AUX นอกจากนี้ในรุ่นพรีรันเนอร์และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 3.0G ยังติดตั้งกล้องมองหลัง ช่วยให้การกะระยะถอยปลอดภัยสบายใจยิ่งขึ้น
ลองขับจับสมรรถนะ
โตโยต้าย้ำเสมอว่า รถยนต์ทุกรุ่นรวมถึงปิกอัพวีโก้จะพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ขณะเดียวกัน อะไรที่เป็นจุดด้อยและถูกบ่นจุกจิกมาตลอดก็พร้อมรับพิจารณาและปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยในรุ่นใหม่นี้โตโยต้า พยายามสื่อสารด้วยคำว่า “Diamond Tech” หรือ “เทคโนโลยีระดับเพชร” (ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เบรก และอัตราบริโภคน้ำมัน โตโยต้าคุยว่ายอดเยี่ยมระดับเพชร)
อีกนัยหนึ่งโตโยต้าพยายามบอกว่า หลังการทำตลาด “วีโก้” มานานหลายปี ผ่านประสบการณ์จากผู้ใช้จริง และนำความต้องการต่างๆ ของลูกค้ามาปรับพัฒนาเรื่อยมา จนสุดท้ายในรุ่นใหม่นี้ ก็เปรียบเสมือน “เพชร” ที่ผ่านการเจียระไน และกลายเป็นสุดยอดปิกอัพที่ซื้อไปแล้วไม่ผิดหวัง
ส่วนตัวผู้เขียนเองในชีวิตไม่เคยซื้อเพชร แต่ก็พอจะได้ยินสรรพคุณมูลค่า รวมถึงคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมที่ถูกนำมาใช้ในเชิงวิศวกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ซึ่งหลังจากลองขับจริง กับเส้นทางไกลๆ ขึ้นเขา-ลงเขา พร้อมพายุฝนกระหน่ำตลอดเส้นทาง ผู้เขียนไม่แน่ใจว่า “ปิกอัพระดับเพชร” จะเป็นคำจำกัดความที่เหมาะสมหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ขับแล้วรู้สึกดีกว่า “วีโก้ พรีรันเนอร์” รุ่นเดิมที่เคยลองมาตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา
เดิม “พรีรันเนอร์” หรือรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ ยกสูง มีแต่เกียร์ธรรมดาล้วนๆ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 3.0ลิตร และ 2.5 วีเอ็นเทอร์โบ ดังนั้น พอเพิ่มรุ่นเกียร์อัตโนมัติมาในไลน์อัพ จึงถือว่าน่าสนใจ และคาดว่าจะทำยอดขายกระฉูดแน่นอน
เครื่องยนต์ดีเซล 1KD - FTV ขนาด3.0ลิตร เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด163 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,200 รอบต่อนาที เมื่อส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ยังคงขับสนุก พละกำลังจัดจ้านมาทันใจ และไหลตามแรงกดของฝ่าเท้าอย่างนุ่มนวลต่อเนื่อง
เกียร์อัตโนมัติแบบขั้นบันไดโยกง่ายสับคล่อง ซึ่งจริงๆ ก็แช่ไว้ที่เกียร์ D เฉยๆ นั่นละครับ การขับขี่ยอดเยี่ยมทุกย่านความเร็ว ทั้งจังหวะออกตัว และเร่งแซงกะทันหัน แต่กระนั้นถ้าขับทางลงเขายาวๆ ก็ดันลงมาที่เกียร์ 3 ช่วยให้รถดึงต้านขับมั่นใจมากขึ้น
ด้านการบังคับควบคุมผ่านพวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนียน ยังเป็นจุดเด่นเมื่อขับทางดำถนนดี วงเลี้ยวตอบสนองแม่นยำ สั่งงานซ้าย-ขวากระชับมือ เรียกว่าทั้งเครื่องยนต์ระบบส่งกำลังและการควบคุม ออกแนวสปอร์ต ขับมันมือสนุกเท้าที่สุดในบรรดาปิกอัพที่ขายในท้องตลาดไทยตอนนี้
ในส่วนของช่วงล่างแม้โตโยต้าบอกว่าจะปรับแหนบและโช้คหลังให้นุ่มขึ้น เพราะเชื่อว่าคนขับพรีรันเนอร์ไม่น่าจะเน้นการบรรทุกมากมาย แต่หลังจากการลองขับ ผู้เขียนพบว่าการรองรับแรงสะเทือนก็ยังเด้งแข็งเหมือนเดิม ขับทางไกลความเร็ว 100 กม./ชม. ช่วงผ่านรอยต่อพื้นถนน รับรู้อาการสะท้านส่งคืนมาในห้องโดยสารพอสมควร
แต่ด้วยการเซตช่วงล่างแบบนี้ กับการเป็นรถยกสูง ก็ช่วยให้การขับความเร็วสูง รถยังทรงตัวนิ่ง การเข้า-ออกโค้งมั่นใจ บอดี้โยนตัวน้อย ที่สำคัญในรุ่นใหม่นี้ วิศวกรโตโยต้ายังใจดีติดแผ่นรองใต้ห้องเครื่อง ซึ่งมีส่วนช่วยเรื่องการรีดลม ส่งผลให้รถทรงตัวดีขึ้นเมื่อใช้ความเร็ว 100 กม./ชม.ขึ้นไป
ออปชันความปลอดภัย
อีกจุดที่ผู้เขียนรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง ของ “วีโก้ แชมป์ พรีรันเนอร์ ” คือระบบเบรกครับ กับหน้าดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน หลังเป็นดรัมพร้อมระบบวาล์วปรับแรงดันน้ำมันเบรก LSPV โดยน้ำหนักการกดแป้นเบรกดีขึ้น มีจังหวะหนึบหนับจับตามเท้า (ไม่เบาลึกเหมือนรุ่นเก่า) ทั้งยังบรกได้นุ่มนวล ถ่ายเทน้ำหนักหน้าหลังได้ยอดเยี่ยม ซึ่งวิศวกรโตโยต้าไม่ได้บอกรายละเอียดลึกๆของการปรับบุคลิกที่ดีขึ้นของเบรกชุดนี้ แต่แจ้งเพียงว่า “วีโก้ แชมป์” จะเพิ่มแรงดันเบรกมากขึ้นเท่านั้น
เหนืออื่นใดระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ที่จัดเป็นมาตรฐานในวีโก้ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตรทุกรุ่น ยังมาพร้อมความปลอดภัยระดับ ถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้า กระจกบังลมหน้าแบบอัดซ้อนนิรภัยพร้อมแถบกรองแสง โครงสร้างนิรภัย GOA พร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง พวงมาลัย-แป้นเบรกยุบตัว เข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด ปรับระดับสูงต่ำได้
ด้านอัตราบริโภคน้ำมัน จากการขับหลากหลายทั้งรถติด วิ่งทางไกล และขึ้น-ลงเขาคดเคี้ยว บนสภาพอากาศไม่เป็นใจ สุดท้ายหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแจ้งไว้ 11-12 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ... “วีโก้ ไมเนอร์เชนจ์” มาเต็มจัดหนัก เพื่อเตรียมสู้ศึกกับคู่แข่งที่จะทยอยเปิดตัวใหม่นับจากนี้ ส่วนรุ่น “พรีรันเนอร์ 3.0” ที่เสริมเกียร์อัตโนมัติเข้ามา น่าจะตอบสนองลูกค้าชอบเท่ ไม่เน้นลุยหนัก แถมขับสะดวก (ไม่ต้องโยกเกียร์ เหยียบคลัตช์) สมรรถนะการขับขี่ออกแนวสปอร์ต เร่งดี พลังแรง ช่วงล่างหนึบแน่น แต่ก็เด้งกระดอนตามสไตล์ปิกอัพ เบรกปรับมาให้ตอบสนองดีขึ้น ขณะเดียวกัน ด้วยตัวถังดับเบิลแค็บของวีโก้ ถือว่าออกแบบห้องโดยสารด้านหลังให้กว้างนั่งสบายที่สุดในบรรดาปิกอัพด้วยกัน
...สุภาษิตไทยโบราณกล่าวไว้ว่า “อันเพชรดีมีราคา ก็ควรอยู่กับคนที่รู้ค่า” ฉันใดฉันนั้น ถ้าคุณจะเลือกซื้อปิกอัพสักคัน ก็ควรพิจารณารุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิต พร้อมเรียนรู้บุคลิกของมัน เพื่อการขับขี่เต็มสมรรถนะและปลอดภัยสูงสุด สุดท้ายถ้าปิกอัพคันนี้ช่วยคุณวิ่งงานอย่างคุ้มค่า สร้างเงินอย่างภาคภูมิ...แบบนี้เราจะเรียก “คุณค่าระดับเพชร” ได้รึเปล่า?
เหมือนทุกครั้งหลังการเปิดตัว โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย (ทีเอ็มที) รีบจัดงานทดสอบให้สื่อมวลชน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์อีกหนึ่งทาง ซึ่งทริปนี้เราเริ่มต้นขับจากโรงงานผลิตรถยนต์โตโยต้า สำโรง สมุทรปราการ มุ่งสู่เป้าหมาย คีรีมายา รีสอร์ท เขาใหญ่ ระยะทางเกือบ300 กิโลเมตร
รุ่นใหม่อะไรเปลี่ยน
“ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้ลองขับ พรีรันเนอร์ ตัวถังดับเบิลแค็บ 3.0 เกียร์อัตโนมัติ ราคา 889,000 บาท (สีเมทัลลิกเพิ่ม 7,000 บาท) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสองรุ่นย่อยใหม่ที่โตโยต้าเสริมทัพเข้ามาใน “ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์” (อีกรุ่นคือ ตัวถังสมาร์ทแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ 2.5 วีเอ็นเทอร์โบ เกียร์ธรรมดา)
สำหรับ “วีโก้ ใหม่” ปรับโฉมไปเยอะพอสมควร โดยเฉพาะด้านหน้าถือว่าเปลี่ยนยกแผก ไล่ตั้งแต่แผงกันชน กระจัง โคมไฟ ฝากระโปรง ช่องดักลม ซุ้มโป่งล้อ ล้อแมกซ์อัลลอยลายใหม่ ส่วนด้านหลังเปลี่ยนรายละเอียดในกรอบไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 ใช้กรอบสีขาว(หลอดยังแดงเหมือนเดิม) รวมถึงหันมาใช้เสาอากาศแบบสั้นติดบนหลังคาเหมือนรถเก๋งรุ่นใหม่ๆ
ภายในเปลี่ยนพวงมาลัยใหม่ หรือยกของคัมรี่มาเลย ซึ่งจะมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์ ช่วยอำนวยความสะดวกและดูทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ลูกบิดปรับระบบแอร์ก็เปลี่ยนลายใหม่ รวมถึงชุดเครื่องเสียง มาพร้อมจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว เครื่องเล่นซีดี ดีวีดี 1 แผ่น รองรับไฟล์ MP3 WMA และเพิ่มช่องต่ออุปกรณ์ภายนอก USB/AUX นอกจากนี้ในรุ่นพรีรันเนอร์และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 3.0G ยังติดตั้งกล้องมองหลัง ช่วยให้การกะระยะถอยปลอดภัยสบายใจยิ่งขึ้น
ลองขับจับสมรรถนะ
โตโยต้าย้ำเสมอว่า รถยนต์ทุกรุ่นรวมถึงปิกอัพวีโก้จะพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ขณะเดียวกัน อะไรที่เป็นจุดด้อยและถูกบ่นจุกจิกมาตลอดก็พร้อมรับพิจารณาและปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยในรุ่นใหม่นี้โตโยต้า พยายามสื่อสารด้วยคำว่า “Diamond Tech” หรือ “เทคโนโลยีระดับเพชร” (ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง เบรก และอัตราบริโภคน้ำมัน โตโยต้าคุยว่ายอดเยี่ยมระดับเพชร)
อีกนัยหนึ่งโตโยต้าพยายามบอกว่า หลังการทำตลาด “วีโก้” มานานหลายปี ผ่านประสบการณ์จากผู้ใช้จริง และนำความต้องการต่างๆ ของลูกค้ามาปรับพัฒนาเรื่อยมา จนสุดท้ายในรุ่นใหม่นี้ ก็เปรียบเสมือน “เพชร” ที่ผ่านการเจียระไน และกลายเป็นสุดยอดปิกอัพที่ซื้อไปแล้วไม่ผิดหวัง
ส่วนตัวผู้เขียนเองในชีวิตไม่เคยซื้อเพชร แต่ก็พอจะได้ยินสรรพคุณมูลค่า รวมถึงคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมที่ถูกนำมาใช้ในเชิงวิศวกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ซึ่งหลังจากลองขับจริง กับเส้นทางไกลๆ ขึ้นเขา-ลงเขา พร้อมพายุฝนกระหน่ำตลอดเส้นทาง ผู้เขียนไม่แน่ใจว่า “ปิกอัพระดับเพชร” จะเป็นคำจำกัดความที่เหมาะสมหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ขับแล้วรู้สึกดีกว่า “วีโก้ พรีรันเนอร์” รุ่นเดิมที่เคยลองมาตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา
เดิม “พรีรันเนอร์” หรือรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ ยกสูง มีแต่เกียร์ธรรมดาล้วนๆ ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 3.0ลิตร และ 2.5 วีเอ็นเทอร์โบ ดังนั้น พอเพิ่มรุ่นเกียร์อัตโนมัติมาในไลน์อัพ จึงถือว่าน่าสนใจ และคาดว่าจะทำยอดขายกระฉูดแน่นอน
เครื่องยนต์ดีเซล 1KD - FTV ขนาด3.0ลิตร เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด163 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-3,200 รอบต่อนาที เมื่อส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ยังคงขับสนุก พละกำลังจัดจ้านมาทันใจ และไหลตามแรงกดของฝ่าเท้าอย่างนุ่มนวลต่อเนื่อง
เกียร์อัตโนมัติแบบขั้นบันไดโยกง่ายสับคล่อง ซึ่งจริงๆ ก็แช่ไว้ที่เกียร์ D เฉยๆ นั่นละครับ การขับขี่ยอดเยี่ยมทุกย่านความเร็ว ทั้งจังหวะออกตัว และเร่งแซงกะทันหัน แต่กระนั้นถ้าขับทางลงเขายาวๆ ก็ดันลงมาที่เกียร์ 3 ช่วยให้รถดึงต้านขับมั่นใจมากขึ้น
ด้านการบังคับควบคุมผ่านพวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนียน ยังเป็นจุดเด่นเมื่อขับทางดำถนนดี วงเลี้ยวตอบสนองแม่นยำ สั่งงานซ้าย-ขวากระชับมือ เรียกว่าทั้งเครื่องยนต์ระบบส่งกำลังและการควบคุม ออกแนวสปอร์ต ขับมันมือสนุกเท้าที่สุดในบรรดาปิกอัพที่ขายในท้องตลาดไทยตอนนี้
ในส่วนของช่วงล่างแม้โตโยต้าบอกว่าจะปรับแหนบและโช้คหลังให้นุ่มขึ้น เพราะเชื่อว่าคนขับพรีรันเนอร์ไม่น่าจะเน้นการบรรทุกมากมาย แต่หลังจากการลองขับ ผู้เขียนพบว่าการรองรับแรงสะเทือนก็ยังเด้งแข็งเหมือนเดิม ขับทางไกลความเร็ว 100 กม./ชม. ช่วงผ่านรอยต่อพื้นถนน รับรู้อาการสะท้านส่งคืนมาในห้องโดยสารพอสมควร
แต่ด้วยการเซตช่วงล่างแบบนี้ กับการเป็นรถยกสูง ก็ช่วยให้การขับความเร็วสูง รถยังทรงตัวนิ่ง การเข้า-ออกโค้งมั่นใจ บอดี้โยนตัวน้อย ที่สำคัญในรุ่นใหม่นี้ วิศวกรโตโยต้ายังใจดีติดแผ่นรองใต้ห้องเครื่อง ซึ่งมีส่วนช่วยเรื่องการรีดลม ส่งผลให้รถทรงตัวดีขึ้นเมื่อใช้ความเร็ว 100 กม./ชม.ขึ้นไป
ออปชันความปลอดภัย
อีกจุดที่ผู้เขียนรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง ของ “วีโก้ แชมป์ พรีรันเนอร์ ” คือระบบเบรกครับ กับหน้าดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน หลังเป็นดรัมพร้อมระบบวาล์วปรับแรงดันน้ำมันเบรก LSPV โดยน้ำหนักการกดแป้นเบรกดีขึ้น มีจังหวะหนึบหนับจับตามเท้า (ไม่เบาลึกเหมือนรุ่นเก่า) ทั้งยังบรกได้นุ่มนวล ถ่ายเทน้ำหนักหน้าหลังได้ยอดเยี่ยม ซึ่งวิศวกรโตโยต้าไม่ได้บอกรายละเอียดลึกๆของการปรับบุคลิกที่ดีขึ้นของเบรกชุดนี้ แต่แจ้งเพียงว่า “วีโก้ แชมป์” จะเพิ่มแรงดันเบรกมากขึ้นเท่านั้น
เหนืออื่นใดระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ที่จัดเป็นมาตรฐานในวีโก้ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตรทุกรุ่น ยังมาพร้อมความปลอดภัยระดับ ถุงลมนิรภัยคู่ด้านหน้า กระจกบังลมหน้าแบบอัดซ้อนนิรภัยพร้อมแถบกรองแสง โครงสร้างนิรภัย GOA พร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง พวงมาลัย-แป้นเบรกยุบตัว เข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด ปรับระดับสูงต่ำได้
ด้านอัตราบริโภคน้ำมัน จากการขับหลากหลายทั้งรถติด วิ่งทางไกล และขึ้น-ลงเขาคดเคี้ยว บนสภาพอากาศไม่เป็นใจ สุดท้ายหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแจ้งไว้ 11-12 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ... “วีโก้ ไมเนอร์เชนจ์” มาเต็มจัดหนัก เพื่อเตรียมสู้ศึกกับคู่แข่งที่จะทยอยเปิดตัวใหม่นับจากนี้ ส่วนรุ่น “พรีรันเนอร์ 3.0” ที่เสริมเกียร์อัตโนมัติเข้ามา น่าจะตอบสนองลูกค้าชอบเท่ ไม่เน้นลุยหนัก แถมขับสะดวก (ไม่ต้องโยกเกียร์ เหยียบคลัตช์) สมรรถนะการขับขี่ออกแนวสปอร์ต เร่งดี พลังแรง ช่วงล่างหนึบแน่น แต่ก็เด้งกระดอนตามสไตล์ปิกอัพ เบรกปรับมาให้ตอบสนองดีขึ้น ขณะเดียวกัน ด้วยตัวถังดับเบิลแค็บของวีโก้ ถือว่าออกแบบห้องโดยสารด้านหลังให้กว้างนั่งสบายที่สุดในบรรดาปิกอัพด้วยกัน
...สุภาษิตไทยโบราณกล่าวไว้ว่า “อันเพชรดีมีราคา ก็ควรอยู่กับคนที่รู้ค่า” ฉันใดฉันนั้น ถ้าคุณจะเลือกซื้อปิกอัพสักคัน ก็ควรพิจารณารุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิต พร้อมเรียนรู้บุคลิกของมัน เพื่อการขับขี่เต็มสมรรถนะและปลอดภัยสูงสุด สุดท้ายถ้าปิกอัพคันนี้ช่วยคุณวิ่งงานอย่างคุ้มค่า สร้างเงินอย่างภาคภูมิ...แบบนี้เราจะเรียก “คุณค่าระดับเพชร” ได้รึเปล่า?