แบรนด์โลกไม่ลืมอย่าง “สโกด้า” ดูจะทำตลาดจริงจังและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากกลุ่ม“ดีเอดี ยนตรกิจ” ของ “ วิเชียร ลีนุตพงษ์” ปรับโครงสร้างทางธุรกิจลงตัว ซึ่งนอกจากรถยนต์จากสาธารณรัฐเชกแล้ว ยังมีแบรนด์ดังในมืออย่าง ซีตรอง(ฝรั่งเศส), เอ็มทีเอ็ม(เยอรมัน), สปายเกอร์(ฮอลแลนด์), เซียท(สเปน) และโฟตอน(จีน)
ในส่วนของ“สโกด้า” เพิ่งได้อาวุธใหม่มาเสริมอีก 2 รุ่น และเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2011 คือ คอมแพกต์เอสยูวี “เยติ” (Yeti) และ เก๋งขนาดกลาง “ซูเพิร์บ” (Superb) ซึ่งได้การตอบรับพร้อมทำยอดขายดีเกินคาด
หลังประกาศความพร้อม และยิ้มรับกับยอดจองภายในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ “เสี่ยโต สุวิชชา ลีนุตพงษ์” (ลูกชาย เสี่ยวิเชียร) ไม่รอช้า จัดแจงนำรถทั้งสองรุ่นมาให้“ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง”ลองขับทันที แต่ด้วยเวลาจำกัด ผู้เขียนจึงขอเลือกรุ่น “เยติ” (Yeti) มาทดสอบก่อน
สำหรับ สโกด้า เยติ แบ่งเป็นสองรุ่นย่อยคือ Classic ราคา1.448 ล้านบาท และตัวท็อปAmbiente ที่นำมาลองขับ ราคา 1.598 ล้านบาท
โดยรูปลักษณ์ทรงเหลี่ยม ไม่ออกแนวสปอร์ต ไม่ดูบึกบึน ส่วนชุดโคมไฟหน้า กระจังหน้า เส้นสายด้านข้าง ไล่ไปถึงไฟท้าย รวมๆ ดูไม่โดดเด่น ที่สำคัญยังยึดความอึดของล้อกระทะ(พร้อมฝาครอบ) แทนที่จะเป็นล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ตามสมัยนิยม
ทั้งนี้ในรุ่นท็อปจะจัดออปชันเต็มทั้ง ไฟตัดหมอกหน้า หลังคาแก้วแบบพาโนรามิก(ยาวตลอดหลังคา) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ม่านนิรภัยและถุงลมซ้าย-ขวา รวมถึงกุญแจรีโมท แอร์อัตโนมัติแบบแยกควบคุมซ้าย-ขวา พร้อมความปลอดภัยมาตรฐานอย่าง เบรกABS ระบบกระจายแรงเบรกEBD ระบบรักษาการทรงตัว ESP และระบบช่วยการขับขี่บนทางลาดชัน Hill Control
อย่างที่รู้กันครับว่า “สโกด้า” เป็นแบรนด์ในเครือโฟล์คสวาเกน เยอรมัน ดังนั้นเทคโนโลยีต่างๆ ก็แบ่งใช้ร่วมกัน ซึ่ง “เยติ”เองก็พัฒนามาจากพื้นฐานของ “เอ แพลตฟอร์ม” ที่ใช้สำหรับรถยนต์ของ โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป อย่างเช่น โฟล์คฯ กอล์ฟ, ทัวราน, ทิกวน รวมถึง ออดี้ เอ3, คิว3 ตลอดจน สโกด้า ออกตาเวีย และซูเพิร์บ
ส่วนระบบขับเคลื่อนของเยติ ที่ขายในยุโรปนั้นมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน-ดีเซล และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่สำหรับเมืองไทยมากับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร เทอร์โบTSI ให้กำลังสูงสุด105 แรงม้าที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ที่ 1,550-4,100 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าด้วยเกียร์ดูอัลคลัทซ์ DSG 7 สปีด
แม้จะเป็นเครื่องยนต์บล็อกเล็ก แต่ขึ้นชื่อว่า TSI ประกบกับเกียร์เทพแบบคลัทซ์คู่ ดูแล้วไม่น่าจะทำให้ผิดหวัง ซึ่งหลังจากการเข้าไปนั่งหลังพวงมาลัยแล้วควบตะบึง เยติคันนี้ให้สมรรถนะการขับขี่ยอดเยี่ยม และดีกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเสียด้วย
เรียกว่าถ้ามองแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเรียบๆเฉยๆ คุณอาจจะไม่เชื่อว่า เอสยูวีจากสาธารณรัฐเชกคันนี้ จะขับได้มันมือสนุกเท้าขนาดนี้
...เริ่มจากการออกตัวแบบพุ่งนิดๆ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ประมาณ 12 วินาที ขณะที่จังหวะเปลี่ยนเกียร์รวดเร็ว ส่งกำลังได้ไหลลื่นต่อเนื่อง หรือถ้าอยากเล่นเปลี่ยนเกียร์แบบTiptronic ก็โยกถนัดมือ พร้อมการตอบสนองฉับไวและฉลาดตามใจผู้ขับได้เป็นอย่างดี
ด้านพวงมาลัยน้ำหนักกำลังดี สั่งงานซ้าย-ขวา แม่นยำ หรือกรณีขับความเร็วเกิน 120 กม./ชม.ขึ้นไป ยังหน่วงน้ำหนักและทดระยะควบคุมได้มั่นใจ
ช่วงล่างหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท หลังมัลติลิงค์ เซ็ทมาแนวนุ่มหนึบ หรือได้ความรู้สึกแบบโฟล์คสวาเกน กอล์ฟ นิดๆ กล่าวคือ ถ้าจะขับแบบเอามัน ช่วงล่างก็พร้อมรองรับเกาะถนน แต่ถ้าขับเรื่อยๆ ในเมืองก็ไม่แข็งกระด้างจนเกินงาม
ส่วนดิสก์เบรก 4 ล้อ ทำหน้าที่ชะลอหยุดได้นุ่มนวล แต่อาจจะต้องเหยียบลงไปลึกอีกนิดหนึ่ง ถึงจะรับรู้ถึงการสัมผัสได้เต็มประสิทธิภาพ
สำหรับ เยติ ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นเอสยูวี แต่มีระยะต่ำสุดจากพื้น(Ground Clearance)เพียง 180 มิลลิเมตร ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับคอมแพกต์เอสยูวีทั่วไป ซึ่งตรงนี้ก็มีส่วนช่วยเรื่องการทรงตัวระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันยังส่งผลให้การเข้า-ออกในห้องโดยสารสะดวก บรรดาผู้แก่-เด็กน้อย ไม่ต้องปีนขึ้นให้ลำบาก แต่ส่วนของบานประตูทั้ง 4 ค่อนข้างหนักตามสไตล์รถยุโรป
ด้านเบาะแถว 2 ออกแบบให้เป็น 3 ที่นั่ง แถมยังพับได้อเนกประสงค์หลากหลาย คือจะพับให้เรียบไปกับพื้นที่เก็บสำภาระด้านหลัง หรือจะพับให้เด้งขึ้นไปติดกับเบาะคนขับ-ผู้โดยสารด้านหน้าก็สามารถทำได้เช่นกัน และเหนือไปกว่านั้นยังถอดเบาะแถวหลังออกไปเก็บได้ทั้งยวงอีกด้วย
ความอเนกประสงค์ นั่งสบายของ “สโกด้า เยติ” มาพร้อมอัตราบริโภคน้ำมันประมาณ13-14 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ...ชื่อชั้นแบรนด์และบริการหลังการขาย อาจจะไม่แข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นในเมืองไทย แต่สมรรถนะของการขับขี่รวมๆ ถือว่าสุดยอดไม่มีที่ติ อัตราบริโภคน้ำมันก็ใกล้เคียง หรืออาจจะประหยัดกว่าเอสยูวีเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรที่มีขายในท้องตลาด...จะเสียก็ตรงไม่สวยนี่ละครับ!
