สำหรับพวกที่ยึดติดในแบรนด์แบบขึ้นสมอง โดยเฉพาะพวกคอรถสปอร์ต แม้ปัจจุบันรถประเภทนี้จะถูกออกแบบมาให้ขับขี่ง่ายขึ้น แต่การควบคุมความเร้าใจที่มีม้าในคอกระดับ 400-500 ตัว หากนำมาใช้งานในเมืองและต้องฝ่าการจราจรที่ติดขัด ถือเป็นเรื่องที่ชวนปวดหัวได้เหมือนกัน และงานนี้อาจจะลำบากใจหน่อยหากต้องการใช้รถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ สำหรับเดินทาง...แบบว่าทำใจไม่ได้
แต่สำหรับแฟนของแอสตัน มาร์ติน ตอนนี้ไม่ต้องปวดหัวแล้ว
นั่นเป็นเพราะแอสตัน มาร์ตินจัดการผลักดันโครงการ Cygnet ให้กลายเป็นความจริงแล้ว หลังจากที่เป็นต้นแบบสำหรับอวดโฉมในงานมอเตอร์โชว์มาตั้งแต่ต้นปี 2010
แอสตัน มาร์ตินสร้างความฮือฮาให้กับคนทั่วโลกไม่น้อย ถึงแผนการที่กล้าพลิกโฉมหน้าและแนวคิดของตัวเอง เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผลิตเองทั้งหมด แต่การนำซิตี้คาร์รุ่น iQ มาดัดแปลงและขายด้วยชื่อของตัวเองนั้นถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ที่มีประวัติศาสตร์ผูกพันอยู่กับรถสปอร์ต และรถยนต์ระดับหรูในกลุ่มไฮเอนด์มาโดยตลอด
การนำ iQ มาทั้งคันโดยที่ไม่ปรับแต่งอะไรเลย เห็นทีจะเป็นเรื่องลำบาก ดังนั้น ทีมออกแบบของแอสตัน มาร์ตินจึงเปลี่ยนโฉมหน้าของ iQ ใหม่โดยยึดเอกลักษณ์แบบฉบับรถสปอร์ตของแอสตัน มาร์ตินเอาไว้
ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ดูแล้วคล้ายกับปาก และช่องระบายอากาศที่ติดตั้งอยู่บนซุ้มล้อหน้า ส่วนภายในห้องโดยสารก็มีการตกแต่งและอัพเกรดทุกรายละเอียดให้สปอร์ตและหรูหรามากขึ้น เช่น การเปลี่ยนแผงมาตรวัดใหม่ การใช้หนังหุ้มตามจุดชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวรถอย่าง วงพวงมาลัย แผงด้านข้างประตู เบาะนั่ง...เรียกว่าเป็นการอัพเกรดในทุกรายละเอียดเพื่อสลัดกลิ่นอายของซิตี้คาร์แดนปลาดิบออกไปให้หมดก็ว่าได้
ดร.อุลริช เบซ ซีอีโอของแอสตัน มาร์ตินกล่าวว่า ถ้าต้องทำอะไรสักอย่าง แอสตัน มาร์ตินจะเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ถ้าต้องการสมรรถนะ แอสตัน มาร์ตินก็จะทำให้เกิดสมรรถนะ และทางบริษัทไม่ต้องการลดขนาดของตัวรถ หรือเปลี่ยนแปลงอะไรที่ส่งผลกระทบต่อเอกลักษณ์รถสปอร์ตของตัวเอง
“ดังนั้น Cygnet มาพร้อมกับความพยายามในการสนองตอบต่อข้อกำหนดในด้านมลพิษ และแน่นอนว่ารถยนต์รุ่นนี้เกิดขึ้นมาภายใต้คอนเซปต์เดียวกับรถสปอร์ตทุกรุ่นของแอสตัน มาร์ติน คือ การไม่ยอมเปลี่ยนหรือสูญเสียอะไรบางอย่างเพื่อให้ได้มาเพื่ออีกสิ่งหนึ่ง กล่าวคือลูกค้าของเราต้องการรถยนต์ขนาดเล็กสำหรับการใช้งานในเมือง และพวกเขาต้องการรถยนต์ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของเขา นี่คือ พลังของการสร้างสรรค์ที่ถูกผสมผสานอย่างลงตัวเพื่อตอบรับกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ”
อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวที่ไม่ได้โดนเปลี่ยนสำหรับรถยนต์รุ่นนี้คือ การใช้เครื่องยนต์สุดประหยัดของโตโยต้า โดยเป็นขุมพลัง 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว ที่มีความจุในพิกัด 1329 ซีซี 98 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.5 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่วนระบบเกียร์ก็มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา 6 จังหวะ หรือแบบอัตโนมัตอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หรือ CVT
บทสรุปของ Cygnet จะเป็นรถยนต์รุ่นที่ 8 ของแอสตัน มาร์ตินที่ได้รับการผลิตจากไลน์ของโรงงาน Gaydon ประเทศอังกฤษ ส่วนราคาตั้งเอาไว้ในระดับ 30,000-50,000 ปอนด์ หรือล้านกลางๆ ไล่ไปจนถึง 2 ล้านต้นๆ ...ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับซิตี้คาร์ระดับไฮเอนด์รุ่นนี้