ธุรกิจของผู้ผลิตและดัดแปลงตัวถัง ชื่อของ Zagato ถือว่าอยู่ในระดับแถวหน้าและมีประวัติความเป็นมายาวนานนับจากปี 1922 โดยผลงานที่ฝากให้จดจำมีนับไม่ถ้วน แต่ที่เด่นๆ เช่น อัลฟา จูเลีย TZ, ลัมบอร์กินี 3500 GTZ ฯลฯ โดยที่แอสตัน มาร์ติน V12 ซากาโต้ คอนเซ็ปต์เป็นผลงานล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ ร้อนๆ
การเปิดตัวมีขึ้นที่งานแสดงรถยนต์โบราณสุดคลาสสิคที่จัดขึ้นในโรงแรมริมทะเลสาปโคโม ประเทศอิตาลีอย่างรายการ Villa D'Este Concours และนับเป็น 1 ใน 2 รถยนต์ต้นแบบที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานอย่างมาก โดยอีกคันก็คือบีเอ็มดับเบิลยู 328 Hommage ที่ทางผู้จัดการมอเตอริงเคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้
ความร่วมมือระหว่างซากาโต้ และแอสตัน มาร์ติน ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีมานานแล้ว และถ้าให้ไล่เรียงกันจริงๆ ก็เริ่มตั้งแต่รุ่น DB4 Zagato ในปี 1960 เพียงแต่เมื่อเปรียบเทียบกับค่ายอิตาลีอย่างอัลฟา และมาเซราติแล้ว บวกกับการเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตที่มีจำนวนโมเดลไม่มากนัก ปริมาณผลผลิตแห่งความร่วมมือหลังจากนั้นก็มีไม่มาก รวมรุ่นนี้เข้าไปด้วยก็แค่ 4 รุ่นเท่านั้น คือ วี8 ซากาโต้ในปี 1986 ตามด้วย DB7 ซากาโต้ และ DR1 ในปี 2002 และ 2003 แล้วก็ V12 ซากาโต้ คอนเซ็ปต์ที่เห็นอยู่นี้
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการนำรถสปอร์ตรุ่น V12 Vantage มาดัดแปลงและเสริมความโฉบเฉี่ยวและดุดันตามคอนเซ็ปต์ของทางซากาโต้ ซึ่งโปรเจ็กต์นี้มีจุดเริ่มต้นการทำงานมาตั้งแต่ปีปลายปี 2010 ซึ่งทีมออกแบบของทั้ง 2 ส่วนมีการทำงานร่วมกันและผสมผสานไอเดียในการดัดแปลงตัวรถเพื่อให้เกิดความแตกต่างแต่ไม่สูญเสียเอกลักษณ์ และบุคลิกของแต่ละฝ่าย
‘แนวทางและสไตล์การออกแบบของซากาโต้ถือว่าเป็นการจับคู่กับงานออกแบบและงานด้านวิศวกรรมของแอสตัน มาร์ตินอย่างลงตัว ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ทั้ง 2 บริษัทมีการร่วมมือพัฒนาและเปิดตัวรถยนต์มากมายหลายรุ่น สามารถสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับโลกยานยนต์มาโดยตลอด’ ดร. อุลริช เบซ ซีอีโอของแอสตัน มาร์ตินกล่าว
ทีมออกแบบของแอสตัน มาร์ตินที่เกย์ดอน ประเทศอังกฤษและทีมงานของซากาโต้เห็นพ้องต้องกันในการนำสไตล์และกลิ่นอายของรุ่น DB4GT ที่เปิดตัวช่วงทศวรรษที่ 1960 มาใช้ในการดัดแปลงตัวรถ โดยเฉพาะตัวถังด้านท้าย ซึ่งถูกดัดแปลงให้มีลักษณะลาดเทไปทางด้านหลังเพื่อสัมผัสแห่งความสปอร์ตอย่างแท้จริง ซึ่งการดัดแปลงตัวถังถือว่าเป็นงานแฮนด์เมดที่ต้องใช้ทักษะในการดัดแปลงอะลูมิเนียมให้มีความโค้งมน และเหลี่ยมสันตามต้องการ
สำหรับเครื่องยนต์ยังเป็นหน้าที่ของขุมพลังวี12 ทวินแคม 48 วาล์ว 6,000 ซีซีรับหน้าที่ในการสร้างเรี่ยวแรงสำหรับขับเคลื่อนตัวถัง โดยมีกำลังสูงสุดเท่ากับเวอร์ชันเดิม คือ 510 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 58.0 กก.-ม. โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้ยกมาจากซูเปอร์คาร์รุ่น DBS
อย่างไรก็ตาม เรื่องการผลิตจริงยังไม่มีการบอกกล่าวอะไรออกมา เพราะดูเหมือนว่าโปรเจ็กต์จะเน้นทำโชว์ และทำแข่ง เนื่องจากว่าหลังจากที่มีการเปิดตัวคันจริงให้เห็นแล้ว ทางแอสตัน มาร์ตินบอกว่าจะมีการผลิตต้นแบบรุ่นนี้ลงแข่งรายการแข่งมาราธอน 24 ชั่วโมงที่สนามนูร์บูร์กริงอีกด้วยเหมือนกับที่ DB4GT ลงแข่ง
แน่นอนว่า นักแข่งก็ยังเหมือนเดิมนำทัพโดย ดร.เบซ ซีอีโอของบริษัทที่นั่งประจำหลังพวงมาลัยมาเป็นปีที่ 6 แล้ว
