xs
xsm
sm
md
lg

Mini Coupe : พลิกโฉมลุยตลาดสปอร์ตเต็มตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในที่สุดผลผลิตที่นำออกจัดแสดงในงาน “แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009” ก็กำลังจะกลายเป็นความจริงแล้ว เมื่อมินิเผยโฉมเวอร์ชันสปอร์ตคูเป้ที่เน้นความโฉบเฉี่ยวและเร้าใจในแบบกะทัดรัดออกมาแล้ว เตรียมขายจริงปลายปีนี้ โดยมีให้เลือกทั้งแบบรุ่นธรรมดาไล่ไปจนถึงตัวแรงแบบโหดๆ อย่างรหัส JCW ที่มีม้าในคอกถึง 211 ตัว

มินิ คูเป้ ถือเป็นผลิตตัวถังที่ 5 จ่ายแบรนด์ดังค่ายนี้ต่อจากคูเป้, เปิดประทุน, แวกอน (ขายในชื่อคลับแมน) และเอสยูวี (คันทรี่แมน) อีกทั้งตัวถังที่ 6 เตรียมจ่อคิววางขายด้วยเช่นกัน เพราะในงาน IAA 2009 นอกจากรุ่นคูเป้ต้นแบบแล้ว รถยนต์ตัวถังนี้ยังมีคู่ควงอย่างรุ่นเปิดประทุนหรือ Roadster มาจัดแสดงด้วย เพียงแต่เมื่อถึงเวลาขายจริง มินิขอเลือกรุ่นคูเป้ออกทำตลาดก่อน ส่วนรุ่น Roadster ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะเปิดตัวต้นปี 2012


รุ่นนี้มีการพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับมินิ คูเปอร์ โดยเน้นคอนเซ็ปต์ความสนุกสนานในการขับขี่ ด้วยสัมผัสที่ได้รับในแบบที่คล้ายกับการขับโกคาร์ท ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์จากมินิ พร้อมระบบช่วงล่างหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงค์

ขณะที่ตัวถังในแบบคูเป้ 2 ที่นั่งมาพร้อมกับหน้าตาที่ถอดแบบมาจากตัวต้นแบบ เน้นความสวยและโฉบเฉี่ยวรอบคัน ส่วนมิติตัวถังมากับความยาว 3,728-3,734 มิลลิเมตรขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องยนต์ แต่ทว่าทุกรุ่นมีระยะฐานล้อเท่ากันที่ 2,467 มิลลิเมตร

นอกจากนั้น ที่ด้านท้ายมีการติดตั้งสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่แบบพับเก็บได้ ซึ่งจะยกตัวขึ้นเองอัตโนมัติเมื่อความเร็วเกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง และจะพับเก็บลงมาเมื่อความเร็วลดต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความอเนกประสงค์ก็มีให้เช่นกัน เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นสปอร์ตแบบ 2 ที่นั่ง แต่ก็มีห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายขนาดย่อมๆ อีกทั้งผนังกั้นระหว่างห้องโดยสารกับห้องเก็บสัมภาระ ก็มีการเจาะช่องเอาไว้ และสามารถพับลงได้ เพื่อให้บรรทุกสัมภาระที่มีขนาดยาวๆ เช่น อุปกรณ์เล่นสกีได้


หลากทางเลือกของการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์หลายแบบทั้งคนที่ต้องการความสปอร์ตเฉพาะหน้าตา และไม่เน้นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังไปจนถึงรุ่นที่ตอบสนองได้ทั้ง 2 ความต้องการ โดยรุ่นจำหน่ายก็มีทั้ง คูเปอร์ กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,600 ซีซีแบบ Di มีกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.3 กก.-ม. ที่ 4,250 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 9.0 วินาที และความเร็วสูงสุด 204 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ตามด้วยคูเปอร์ เอส ติดตั้งเทอร์โบแบบ Twin-Scroll และระบบวาล์วแปรผัน VALVETRONIC ตอบสนองการขับเคลื่อนด้วยกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 24.5 กก.-ม. ที่ 1,600-5,000 รอบ/นาที และ 26.5 กก.-ม. ที่ 1,700-4,500 รอบ/นาทีในโหมด Overboost พกอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตร/ชั่วโมง

หรือถ้าไม่ชอบเครื่องยนต์เบนซิน ทางมินิก็เตรียมทางเลือกของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลรอไว้ด้วย เป็นแบบ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบมีครีบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 31.1 กก.-ม. ที่ 1,750-2,700 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 7.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดอยู่ในระดับ 216 กิโลเมตร/ชั่วโมง


แต่ถ้าทั้งหมดยังไม่สามารถตอบสนองการกดคันเร่งของเท้าขวาได้ ก็ต้องมาเจอกับรุ่นตัวแรงแบบพิเศษ JCW หรือ John Cooper Works เพิ่มมัดกล้ามให้กับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,600 ซีซี เทอร์โบ สามารถตอบสนองการขับเคลื่อนด้วยความกระฉับกระเฉงมากขึ้น

กำลังที่ได้ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 211 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 26.5 กก.-ม. ที่ 2,000-5,100 รอบ/นาที ซึ่งเมื่อใช้โหมด Overboost จะขยับตัวเลขชั่วคราวขึ้นมาอยู่ในระดับ 28.5 กก.-ม. ที่ 1,700-4,500 รอบ/นาทีพร้อมกับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง


เตรียมเงินรอกันได้เลย เพราะหลังจากเปิดตัวในงาน IAA 2011 ที่เยอรมนีช่วงเดือนกันยายนแล้ว มินิจะส่งขายทั้งรุ่นพวงมาลัยซ้ายและขวา โดยในอังกฤษ ตั้งราคาเอาไว้ระหว่าง 16,640-23,795 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยแบบยังไม่รวมภาษีนำเข้าก็อยู่ราวๆ 820,000-1,120,000 บาท

กำลังโหลดความคิดเห็น