สัญญาณตลาดรถเริ่มกลับมาคึกคัก! เมื่อค่ายรถญี่ปุ่นเร่งฟื้นการผลิต จากผลกระทบสึนามิเร็วกว่าที่คาดไว้เดิม ค่ายมาสด้ายืนยันเร่งผลิตและเตรียมส่งมอบ “มาสด้า3” โฉมใหม่มิถุนายนนี้ พร้อมเปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาดครบวงจรไปด้วยกัน เช่นเดียวกับมิตซูบิชิที่ชิงเปิดเกมรุก ส่ง “มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน” เวอร์ชั่น NAVI-Limited Edition ชิมลาง ก่อนที่จะแต่งหน้าทาปากให้กับรุ่น “ไทรทัน” รับมือสังเวียนเดือดช่วงปลายปี เมื่อปิกอัพโฉมใหม่รอจ่อเปิดตัวถึง 4 ยี่ห้อ แต่งานนี้ยักษ์โตโยต้าชิงเขย่าตลาดก่อน หลังจากจับมือผู้ผลิตชิ้นส่วนแก้ปัญหาการผลิตได้เร็วกว่าที่คาดไว้ แจ้งดีลเลอร์เตรียมส่ง “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้” รุ่นไมเนอร์เชนจ์ตัดหน้าแย่งลูกค้าปิกอัพคู่แข่ง ประมาณช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ คาดปรับราคาขึ้น 5,000 - 20,000 บาท ขณะที่ค่ายจีเอ็มเปิดเกมรุกเช่นกัน ปลายเดือนมิถุนายนนำร่องส่ง “เชฟโรเลต แคปติวา” ปูทางสร้างกระแส ก่อนเปิดไฮไลต์ปิกอัพโฉมใหม่ “เชฟโรเลต โคโลราโด” ตามมาช่วงท้ายปี
พิษสึนามิที่ญี่ปุ่นทำเอาตลาดรถยนต์ไทย ช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา สะดุดหัวทิ่มกันเลย เพราะกำลังการผลิตหลายค่ายรถของญี่ปุ่นลดลง 50-70% จากการที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนในญี่ปุ่นไม่สามารถผลิตได้ จนทำให้แทบจะไม่มีรถส่งมอบแก่ลูกค้า และยังส่งผลให้ค่ายรถชะลอการจัดกิจกรรมทางการตลาดไปด้วย ทั้งแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริมการขาย ตลอดจนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ จนทำให้บรรยากาศภาพรวมตลาดรถไทย ในช่วงไตรมาสสองเงียบเหงาลงทันที แต่ยังดีว่าค่ายรถและผู้ผลิตชิ้นส่วนพยายามเร่งฟื้นการผลิตอย่างเร่งด่วน ทำให้เดิมการผลิตจะชะลอไปจนถึงเดือนมิถุนายน สามารถกลับมาดำเนินงานได้เร็วๆ ขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยหลายค่ายได้เริ่มกลับค่อยๆ เพิ่มการผลิต จัดกิจกรรมการตลาด และเตรียมเปิดตัวรถใหม่กันบ้างแล้ว
ทั้งนี้ฝั่งค่าย “มาสด้า” ที่ประกาศกลับมาฟื้นการผลิตเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ ในการเร่งจัดหาชิ้นส่วนให้กับไทย แม้จะประสบปัญหาการผลิตจากเหตุการณ์สึนามิเช่นผู้ผลิตรายอื่นๆ ก็ตาม โดยเฉพาะ “มาสด้า3” ที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดไทย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งรถโมเดลนี้เป็นรถที่ทั่วโลกให้การยอมรับสูงมาก เพราะนับแต่เปิดตัวเจนเนอเรชั่นแรก เมื่อเกือบ 8 ปีก่อน จนถึงปัจจุบันมียอดขายไปกว่า 3 ล้านคัน และในไทยร่วม 3 หมื่นคัน
“มาสด้า3 โฉมใหม่ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่เพิ่งแนะนำสู่ตลาดไทย ขณะนี้มียอดจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ในช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาจากเหตุการณ์สึนามิ ทำให้การส่งมอบรถล่าช้าไปบ้าง แต่จากการเร่งฟื้นการผลิต จึงพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป ตามลำดับการจองก่อนและหลัง พร้อมเตรียมโหมกิจกรรมทางการตลาดทันที ด้วยการเปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรของมาสด้า3 ขนาด 2.0 ลิตรใหม่ ภายใต้สโลแกน ‘เปลี่ยน ... ทุกคำจำกัดความที่เคยมี (Create Your Own Definition)’ในเดือนเดียวกันด้วย” สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ขณะที่ “มิตซูบิชิ” ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิมากนัก ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่เต็มที่ จึงสามารถดำเนินการผลิตรถตามแผนที่วางไว้ รวมถึงการจัดกิจกรรมการขาย และเปิดรับจองรถได้ตามปกติ ขณะที่การส่งมอบรถขึ้นอยู่ปริมาณสต็อกรถของผู้แทนจำหน่าย บางรุ่นจะส่งมอบได้ทันที หรือรอแค่เดือนเดียว แต่รุ่นที่ได้รับความนิยมมากอย่างปิกอัพไทรทัน ซีเอ็นจี หรือมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อาจจะต้องรอ 2-3 เดือนตามปกติ
ในส่วนของรถใหม่มิตซูบิชิชิงเปิดเกมรุกก่อนใคร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แนะนำ มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน รุ่นตกแต่งพิเศษ NAVI-Limited Edition โดยมาพร้อมระบบนำทาง (Navigator) พร้อมจอภาพ LED ระบบจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ความละเอียดคมชัดถึง 1.15 ล้านพิกเซล และระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย (Blue tooth) ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า มีทั้งในรุ่น GLS Limited ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,595,000 บาท ในขณะที่รุ่น GT ราคาอยู่ที่ 1,700,000 บาท และหากเป็นสีขาว “ไวท์เพิร์ล” ราคาเพิ่มอีก 15,000 บาท
นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสสุดท้าย หรือประมาณเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ มิตซูบิชิจะทำการปรับโฉม หรือแต่งหน้าทาปากให้กับปิกอัพ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” ให้ดูสดใสขึ้น เพื่อรับมือกับตลาดปิกอัพที่จะแข่งขันรุนแรงในช่วงปลายปีนี้ เพราะจะมีปิกอัพโมเดลเชนจ์แนะนำสู่ตลาดถึง 4 รุ่น ได้แก่ อีซูซุ ดีแมคซ์, เชฟโรเลต โคโรลาโด, ฟอร์ด เรนเจอร์ และมาสด้า บีที-50
แต่ก่อนที่ค่ายรถเหล่านี้จะเปิดตัวปิกอัพใหม่ “โตโยต้า” ที่กลายเป็นยักษ์หลับเมื่อกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ได้ฟื้นตื้นขึ้นมาเขย่าตลาดรถไทยแล้ว หลังจากโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ประเมินสถานการณ์และแก้ไขปัญหา ด้วยความร่วมมือและความพยายามจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน ในการฟื้นฟูกำลังการผลิต ทำให้สามารถจัดส่งชิ้นส่วนมาให้กับโตโยต้า ได้รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และทำให้โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานสำโรง โรงงานเกตเวย์ และโรงงานบ้านโพธิ์ สามารถเริ่มทำการผลิตได้ในระดับปกติ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้มีรายงานจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าระบุว่า ผลจากการฟื้นการผลิตเร็วกว่าที่ประเมินไว้เบื้องต้น ทำให้การส่งมอบรถโตโยต้ากับลูกค้า ที่เดิมบางรุ่นมีปัญหาอาจจะต้องรอนานถึงเดือนสิงหาคม แต่เมื่อโรงงานเริ่มกลับมาเพิ่มกรผลิต ทำให้ร่นระยะเวลาส่งมอบรถลูกค้าเร็วขึ้นด้วย รวมถึงแผนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาด จากที่เคยประเมินอาจจะต้องเลื่อนแผนจากกำหนดเดิมออกไป เมื่อเกิดผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิแรกๆ แต่ล่าสุดได้รับแจ้งว่ายังคงเป็นปกติ
โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้แจ้งคร่าวๆ กับผู้แทนจำหน่ายให้ทราบว่า ประมาณช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ จะมีการเปิดตัวปิกอัพโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งถือว่าอยู่ในระยะเวลาเดิมที่กำหนดไว้ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ และในอีกไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้ โตโยต้าจะเรียกตัวแทนจำหน่ายไปอบรมข้อมูลเกี่ยวกับวีโก้ใหม่นี้ ส่วนราคาคาดว่าจะปรับเพิ่มประมาณ 5,000- 20,000 บาทแล้วแต่รุ่น” ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าระบุ
ในขณะที่ยักษ์ใหญ่โตโยต้ากำลังจะกลับมาเขย่าตลาด ค่าย “จีเอ็ม” ที่ทำตลาดรถในไทยภายใต้แบรนด์ “เชฟโรเลต” ชิงนำร่องรุกตลาดก่อน โดยเตรียมเปิดตัวรถอเนกประสงค์ “เชฟโรเลต แคปติวา” รุ่นไมเนอร์เชนจ์สู่ตลาดไทยช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะส่งไฮไลต์ของค่ายปิกอัพโฉมใหม่ “เชฟโรเลต โคโลราโด” มาสู้ศึกเดือดตลาดปิกอัพช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ ตามที่ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้รายงานไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
(http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9540000063345)
พิษสึนามิที่ญี่ปุ่นทำเอาตลาดรถยนต์ไทย ช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา สะดุดหัวทิ่มกันเลย เพราะกำลังการผลิตหลายค่ายรถของญี่ปุ่นลดลง 50-70% จากการที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนในญี่ปุ่นไม่สามารถผลิตได้ จนทำให้แทบจะไม่มีรถส่งมอบแก่ลูกค้า และยังส่งผลให้ค่ายรถชะลอการจัดกิจกรรมทางการตลาดไปด้วย ทั้งแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริมการขาย ตลอดจนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ จนทำให้บรรยากาศภาพรวมตลาดรถไทย ในช่วงไตรมาสสองเงียบเหงาลงทันที แต่ยังดีว่าค่ายรถและผู้ผลิตชิ้นส่วนพยายามเร่งฟื้นการผลิตอย่างเร่งด่วน ทำให้เดิมการผลิตจะชะลอไปจนถึงเดือนมิถุนายน สามารถกลับมาดำเนินงานได้เร็วๆ ขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยหลายค่ายได้เริ่มกลับค่อยๆ เพิ่มการผลิต จัดกิจกรรมการตลาด และเตรียมเปิดตัวรถใหม่กันบ้างแล้ว
ทั้งนี้ฝั่งค่าย “มาสด้า” ที่ประกาศกลับมาฟื้นการผลิตเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ ในการเร่งจัดหาชิ้นส่วนให้กับไทย แม้จะประสบปัญหาการผลิตจากเหตุการณ์สึนามิเช่นผู้ผลิตรายอื่นๆ ก็ตาม โดยเฉพาะ “มาสด้า3” ที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดไทย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งรถโมเดลนี้เป็นรถที่ทั่วโลกให้การยอมรับสูงมาก เพราะนับแต่เปิดตัวเจนเนอเรชั่นแรก เมื่อเกือบ 8 ปีก่อน จนถึงปัจจุบันมียอดขายไปกว่า 3 ล้านคัน และในไทยร่วม 3 หมื่นคัน
“มาสด้า3 โฉมใหม่ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่เพิ่งแนะนำสู่ตลาดไทย ขณะนี้มียอดจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ในช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาจากเหตุการณ์สึนามิ ทำให้การส่งมอบรถล่าช้าไปบ้าง แต่จากการเร่งฟื้นการผลิต จึงพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป ตามลำดับการจองก่อนและหลัง พร้อมเตรียมโหมกิจกรรมทางการตลาดทันที ด้วยการเปิดตัวแคมเปญสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรของมาสด้า3 ขนาด 2.0 ลิตรใหม่ ภายใต้สโลแกน ‘เปลี่ยน ... ทุกคำจำกัดความที่เคยมี (Create Your Own Definition)’ในเดือนเดียวกันด้วย” สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ขณะที่ “มิตซูบิชิ” ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิมากนัก ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่เต็มที่ จึงสามารถดำเนินการผลิตรถตามแผนที่วางไว้ รวมถึงการจัดกิจกรรมการขาย และเปิดรับจองรถได้ตามปกติ ขณะที่การส่งมอบรถขึ้นอยู่ปริมาณสต็อกรถของผู้แทนจำหน่าย บางรุ่นจะส่งมอบได้ทันที หรือรอแค่เดือนเดียว แต่รุ่นที่ได้รับความนิยมมากอย่างปิกอัพไทรทัน ซีเอ็นจี หรือมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อาจจะต้องรอ 2-3 เดือนตามปกติ
ในส่วนของรถใหม่มิตซูบิชิชิงเปิดเกมรุกก่อนใคร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แนะนำ มิตซูบิชิ สเปซ แวกอน รุ่นตกแต่งพิเศษ NAVI-Limited Edition โดยมาพร้อมระบบนำทาง (Navigator) พร้อมจอภาพ LED ระบบจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ความละเอียดคมชัดถึง 1.15 ล้านพิกเซล และระบบเชื่อมต่อแฮนด์ฟรีแบบไร้สาย (Blue tooth) ซึ่งเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า มีทั้งในรุ่น GLS Limited ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,595,000 บาท ในขณะที่รุ่น GT ราคาอยู่ที่ 1,700,000 บาท และหากเป็นสีขาว “ไวท์เพิร์ล” ราคาเพิ่มอีก 15,000 บาท
นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสสุดท้าย หรือประมาณเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ มิตซูบิชิจะทำการปรับโฉม หรือแต่งหน้าทาปากให้กับปิกอัพ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” ให้ดูสดใสขึ้น เพื่อรับมือกับตลาดปิกอัพที่จะแข่งขันรุนแรงในช่วงปลายปีนี้ เพราะจะมีปิกอัพโมเดลเชนจ์แนะนำสู่ตลาดถึง 4 รุ่น ได้แก่ อีซูซุ ดีแมคซ์, เชฟโรเลต โคโรลาโด, ฟอร์ด เรนเจอร์ และมาสด้า บีที-50
แต่ก่อนที่ค่ายรถเหล่านี้จะเปิดตัวปิกอัพใหม่ “โตโยต้า” ที่กลายเป็นยักษ์หลับเมื่อกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ได้ฟื้นตื้นขึ้นมาเขย่าตลาดรถไทยแล้ว หลังจากโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ประเมินสถานการณ์และแก้ไขปัญหา ด้วยความร่วมมือและความพยายามจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วน ในการฟื้นฟูกำลังการผลิต ทำให้สามารถจัดส่งชิ้นส่วนมาให้กับโตโยต้า ได้รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และทำให้โรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงงานสำโรง โรงงานเกตเวย์ และโรงงานบ้านโพธิ์ สามารถเริ่มทำการผลิตได้ในระดับปกติ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้มีรายงานจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าระบุว่า ผลจากการฟื้นการผลิตเร็วกว่าที่ประเมินไว้เบื้องต้น ทำให้การส่งมอบรถโตโยต้ากับลูกค้า ที่เดิมบางรุ่นมีปัญหาอาจจะต้องรอนานถึงเดือนสิงหาคม แต่เมื่อโรงงานเริ่มกลับมาเพิ่มกรผลิต ทำให้ร่นระยะเวลาส่งมอบรถลูกค้าเร็วขึ้นด้วย รวมถึงแผนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่สู่ตลาด จากที่เคยประเมินอาจจะต้องเลื่อนแผนจากกำหนดเดิมออกไป เมื่อเกิดผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิแรกๆ แต่ล่าสุดได้รับแจ้งว่ายังคงเป็นปกติ
โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้แจ้งคร่าวๆ กับผู้แทนจำหน่ายให้ทราบว่า ประมาณช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ จะมีการเปิดตัวปิกอัพโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งถือว่าอยู่ในระยะเวลาเดิมที่กำหนดไว้ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ และในอีกไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้ โตโยต้าจะเรียกตัวแทนจำหน่ายไปอบรมข้อมูลเกี่ยวกับวีโก้ใหม่นี้ ส่วนราคาคาดว่าจะปรับเพิ่มประมาณ 5,000- 20,000 บาทแล้วแต่รุ่น” ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าระบุ
ในขณะที่ยักษ์ใหญ่โตโยต้ากำลังจะกลับมาเขย่าตลาด ค่าย “จีเอ็ม” ที่ทำตลาดรถในไทยภายใต้แบรนด์ “เชฟโรเลต” ชิงนำร่องรุกตลาดก่อน โดยเตรียมเปิดตัวรถอเนกประสงค์ “เชฟโรเลต แคปติวา” รุ่นไมเนอร์เชนจ์สู่ตลาดไทยช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะส่งไฮไลต์ของค่ายปิกอัพโฉมใหม่ “เชฟโรเลต โคโลราโด” มาสู้ศึกเดือดตลาดปิกอัพช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ ตามที่ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้รายงานไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
(http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9540000063345)
