xs
xsm
sm
md
lg

เบนซ์ยกทัพ 5โมเดลใหม่เขย่ารถหรูเจาะกลุ่มนิชฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

CLS 350 BlueEFFICIENCY
ค่ายตราดาว “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ในประเทศไทย ประกาศก้องนโยบายไม่ละเลยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า แม้จะเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือนิชมาร์เก็ต ด้วยการอาศัยเวทีบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2011 ยกทัพรถใหม่นำเข้าจากต่างประเทศ มากถึง 5 รุ่นมาทำตลาดในไทย นับตั้งแต่ CL- Class ที่นำร่องเปิดตัวไปก่อน โดยมีไฮไลต์อันดับหนึ่งเป็นตัวธง “เมอร์เซเดส-เบนซ์ SLK350” ที่มาพร้อมกับโฉมใหม่ วางเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร 306 แรงม้า เปิดราคาออกมา 7.399 ล้านบาท และตามขบวนมาด้วยสปอร์ตคูเป้ 4 ประตู “CLS 350 BlueEFFICIENCY” ที่แม้จะถูกเกรย์มาร์เก็ตตัดหน้ามาเปิดตัวก่อน แต่ยืนยันนั่นยังไม่ใช่ของจริง ที่จะเริ่มผลิตในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ และยังส่งรถตู้อเนกประสงค์ “วีโต้” ใหม่ มาเป็นอีกทางเลือก เช่นเดียวกับการฟื้นรถออฟโรดพันธุ์แท้ “G55 AMG” สู่ตลาดไทยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำแนวทางการใส่ใจทุกความต้องการของคนรักรถ ปรัชญาที่ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์รักษาความเป็นผู้นำรถหรูมายาวนานนับสิบปี

“นอกจากโมเดลหลัก ซี, อี และเอส-คลาส รถรุ่นอื่นๆ หรือรถนำเข้าสำเร็จรูปของเมอร์เซเดส-เบนซ์ นับเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือนิชมาร์เก็ต(Niche Market) ซึ่งกลุ่มลูกค้ารถประเภทนี้จะมีไม่มาก ตลาดรวมต่อปีมีไม่กี่ร้อยคัน แต่เมอร์ซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะไม่ละเลยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ และพร้อมตอบสนองคนรักรถ เพื่อมอบทางเลือกที่ดีกว่า และเพราะสิ่งเหล่านี้นี่เอง จึงทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย ยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถหรูมาได้อย่างต่อเนื่อง”
ดร.อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์”
“นอกจากโมเดลหลัก ซี, อี และเอส-คลาส รถรุ่นอื่นๆ หรือรถนำเข้าสำเร็จรูปของเมอร์เซเดส-เบนซ์ นับเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือนิชมาร์เก็ต(Niche Market) ซึ่งกลุ่มลูกค้ารถประเภทนี้จะมีไม่มาก ตลาดรวมต่อปีมีไม่กี่ร้อยคัน แต่เมอร์ซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะไม่ละเลยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ และพร้อมตอบสนองคนรักรถ เพื่อมอบทางเลือกที่ดีกว่า และเพราะสิ่งเหล่านี้นี่เอง จึงทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย ยังคงสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถหรูมาได้อย่างต่อเนื่อง”

นั่นเป็นคำกล่าวของ “ดร.อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์” ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในการเปิดตัวสปอร์ตระดับไฮเอนด์ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ CL 500 Blue EFFICIENCY Coupe ใหม่” เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นั่นเป็นการประกาศทิศทางของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย และคำกล่าวดังกล่าวได้แสดงให้เห็นแล้ว จากการยกทัพรถรุ่นใหม่นำเข้าจากต่างประเทศ มาทำตลาดพร้อมกันถึง 5 รุ่น และจะเปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2011 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2554 ที่อาคารชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานีนี้
SLK350
แน่นอนว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ CL 500 Blue EFFICIENCY Coupe ใหม่ ที่วางเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ รหัส M 278 ขนาด 4,663 ซีซี 435 แรงม้า เพิ่มจากเดิมกว่า 12% แรงบิด 700 นิวตันเมตรที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที โดยมีให้เลือก 2 รุ่น คือ CL 500 Blue EFFICIENCY Coupe ราคา 15.49 ล้านบาท และรุ่น CL 500 Blue EFFICIENCY Coupe Sport AMG ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG รอบคัน มีราคาอยู่ที่ 16.29 ล้านบาท จะเป็นหนึ่งในไฮไลต์รถใหม่ที่จะมาล้วงกระเป๋าเศรษฐีไทย ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2011 ปลายเดือนมีนาคมนี้ และยังจะเป็นการข่มเกรย์มาร์เก็ตไม่ให้เก็บกินผลประโยชน์สบายๆ อีกต่อไป

นอกจากซีแอล-คลาส ใหม่ ที่ได้เผยโฉมชิมลางไปก่อนแล้ว ไฮไลต์ในงานอันดับหนึ่งเห็นจะเป็นการเปิดตัวโฉมใหม่ของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ SLK 350 BlueEFFICIENCY สปอร์ตโรดสเตอร์ระดับไฮคลาสอันลือลั่นของค่ายตราดาว แม้จะไม่ใช่รถสปอร์ตไฮเอนด์ แต่นับเป็นรุ่นมีความสำคัญมากกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เพราะมียอดขายต่อปีค่อนข้างสูงกว่ารุ่นอื่นๆ จึงถูกยกให้เป็นพระเอกในงานแสดงรถยนต์ครั้งนี้


SLK 350 BlueEFFICIENCY เป็นรุ่นที่สามของตระกูล SLK รูปลักษณ์ภายนอกบริเวณด้านหน้าปรับปรุงใหม่หมดที่ให้ความสปอร์ตและคลาสสิคขึ้นโดยได้รับอิทธิพลมาจากรุ่นซุปเปอร์สปอร์ตคาร์ย้อนยุค SLS AMG ประตูปีกนก ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ โดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ทำตลาดหนึ่งเดียวกับ SLK 350 BlueEFFICIENCY Sports AMG เปิดราคาออกมาที่ 7,399,000 บาท

โดยขุมพลังของ SLK 350 มาจากเครื่องยนต์ทรงพลัง V6 ความจุกระบอกสูบ 3,498 ซีซี กำลังสูงสุด 306 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 5.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. โดยมาพร้อมกับหลังคาแบบใหม่ล่าสุด panoramic vario-roof แบบ MAGIC SKY CONTROL ที่สามารถปรับระดับความสว่างได้

ไฮไลต์อีกตัวเป็นโฉมใหม่ของสปอร์ตคูเป้ 4 ประตู “เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLS 350 BlueEFFICIENCY” ที่อาจจะโดนค่ายเกรย์มาร์เก็ตเกทับไปบ้าง ด้วยการนำเข้ามาขายและให้สื่อมวลชนได้ลองขับแบบเบาๆ ไปก่อน แต่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยืนยันนั่นยังไม่ใช่ของจริง เป็นรถให้เป็นการทดลองเท่านั้น เพราะคันจริงพวงมาลัยขวาจะเริ่มผลิตในอีก 2-3 เดือนจากนี้โน้น ขณะที่ราคายังไม่เคาะออกมา ซึ่งหากทุกอย่างทำถูกต้องตามระบบรถนำเข้า ย่อมไม่มีทางต่ำกว่าราคาของเกรย์มาร์เก็ตที่เปิดออกมา 6.89 ล้านบาทได้
G55 AMG

เมอร์เซเดส-เบนซ์ CLS 350 BlueEFFICIENCY ได้รับการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกและภายในใหม่หมดจด ด้านหน้าได้รับการออกแบบพิเศษให้ปราดเปรียวขึ้น พร้อมกระจังหน้ารูปตัว V-shaped ลายเส้นนูนโค้งเว้าด้านข้างมีมิติและสวยสะดุดตาเน้นย้ำความปราดเปรียวเด่นชัดมากขึ้น ด้านท้ายโค้งมนให้ความสปอร์ต พร้อมไฟท้ายแบบ LED ประสิทธิภาพสูง

CLS ใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 ความจุกระบอกสูบ 3,498 ซีซี กำลังสูงสุด 225 กิโลวัตต์ / 306 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 3,500 -5,250 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 6.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ให้ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่ารุ่นก่อนถึง 25%

แต่ถ้าหากเศรษฐีไทยต้องการรถใช้งานอเนกประสงค์ ยังมีทางเลือกกับรถตู้อเนกประสงค์ “วีโต้” (Vito) ใหม่ ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย นำมาเปิดตัวในงานนี้ด้วย โดยเป็นเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2,148 ซีซี ขุมพลัง 110 กิโลวัตต์/ 150 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุดที่ 330 นิวตันเมตรที่ 1,800 - 2,400 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 12.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยเพียง 8.1 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร พรั่งพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์
รถตู้อเนกประสงค์ “วีโต้”

นอกจากนี้เพื่อตอกย้ำนโยบายให้ความสำคัญ กับทุกความต้องการของลูกค้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จึงหวนกลับมาฟื้นตลาดออฟโรดอีกครั้ง โดยนำเข้าตัวแกร่ง “จี-คลาส” มาทำตลาดในไทย หลังจากเลิกนำเข้ามาเป็นสิบปีแล้ว โดยจะมีการเปิดตัว “เมอร์เซเดส-เบนซ์ G 55” ออฟโรดสมบุกสมบันสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มาเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของบูธที่งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2011 นี้ด้วย

เมอร์เซเดส-เบนซ์ G 55 ที่นำเข้ามาเปิดตัวในไทย ได้มีการนำมาโมดิฟายเป็น G 55 AMG จึงให้พละกำลังพร้อมความแรงระดับ AMG ทำให้ดูดุดันขึ้นแต่ยังแฝงรูปลักษณ์สไตล์คลาสสิก วางเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.5 ลิตร พร้อมระบบซูเปอร์ชาร์จ สามารถให้ขุมพลังถึง 507 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุดที่ 700 นิวตัน-เมตร มีอัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 5.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. นอกจากนี้ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่างๆ ครบครัน

การยกทัพรถรุ่นใหม่มาเปิดตัวพร้อมกันถึง 5 รุ่น แม้จะเป็นรถเฉพาะกลุ่ม ที่ปริมาณยอดขายไม่มากนัก แต่สิ่งเหล่านี้ได้ยืนยันปรัชญาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย... “จะไม่ละเลยสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ และพร้อมตอบสนองคนรักรถ เพื่อมอบทางเลือกที่ดีกว่า” ได้เป็นอย่างดี
กำลังโหลดความคิดเห็น